เลขานายกฯ ยันรัฐบาลไม่กังวลลิ่วล้อ "แม้ว" จะออกมาป่วนจากกรณีถอดยศ "วัชระ" อัด "ปึ้ง"โยนขี้ให้ ขรก. กรณีคืน พาสปอร์ตให้นักโทษหนีคดี แนะ คสช.เรียกไปปรับทัศนคติ ปชป. ชี้คำพูด"ทักษิณ" ที่โจมตีทหาร และสถาบันฯ ทำแผนปรองดองเป็นหมัน ด้าน "สมยศ" ยันยึดหลัก กม.ให้รอบคอบ ด้าน "ปู" ใส่เสื้อชีวิตธรรมดา เก็บเห็ดโชว์ผ่าน FB บ่นคิดถึงเกษตรกร
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติถอดยศ พ.ต.ท .ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดีอาญาว่า มีเอกสารลับที่ยืนยันได้พฤติกรรมของ สตช.ที่กลับไปกลับมา เกี่ยวกับเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นคือ หนังสือที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในขณะนั้น ระบุว่าไม่สามารถถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ทำคุณ ประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่มาวันนี้ ก.ต.ร.กับมีมติเอกฉันท์ให้ถอดยศ จึงอยากทราบว่า ที่ผ่านสตช. อยู่ภาย ใต้ระบอบทักษิณจริงหรือไม่
"ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการเรื่องนี้ และขอยืนยันว่าการถอดยศ เป็นการดำเนินการตาม กระบวนการยุติธรรม ไม่ได้กลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเรื่องการถอดยศ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน คสช.จะเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ประพฤติตนอยู่เหนือกฎหมายมาตลอด พร้อมทั้งคอยสั่งการไปยังหน่วยงานราชการไม่ว่าจะเป็น สตช. ดีเอสไอ และ อสส.ด้วย"
นายวัชระ กล่าวต่อไปว่า ในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาค 1 เพื่อให้ติดตามเรื่องที่ เคยยื่นเรื่องต่อ บก.ป. มาก่อน 1 ปีแล้ว ให้ดำเนินการกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ และนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีต เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แปลออกมาเป็นหนังสือชื่อว่า “จับเข่าคุยทักษิณ ชินวัตร”เนื่อง จากในหนังสือมีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่นกองทัพบก และหมิ่นศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ยังไม่ มีความคืบหน้า
**"วัชระ" อัด "ปึ้ง"โยนขี้ให้ ขรก.
นายวัชระ ยังกล่าวถึง กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออก พาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ช่วงที่เป็นรัฐมนตรี โดยระบุว่า เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการว่า สะท้อนให้ เห็นว่านายสุรพงษ์โยนขี้ให้ข้าราชการประจำ ซึ่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศขณะนั้น ต้องชี้แจงความจริงทั้งหมด เชื่อว่าปลัดกระทรวงฯ ไม่ กล้าดำเนินการโดยลำพังแน่ ถ้าฝ่ายการเมืองไม่ส่งสัญญาณ หรือสั่งการด้วยวาจา แล้วเมื่อป.ป.ช. สอบเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ กลับชิ่งหนีเอาตัวรอด การที่นายสุรพงษ์ อ้างว่าไม่เคยมีคำสั่งเลวๆ โหลยโท่ย ชั่วช้าดังว่า ก็ไม่ทราบว่าจะมีประชาชนในประเทศนี้เชื่อสักกี่คน
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ในสมัย นายสุรพงษ์ อยู่พรรคประชาธิปัตย์ มักจะแช่งด่า พ.ต.ท.ทักษิณ สามเวลาหลังอาหาร โดยมักจะบอกว่า ไปดูหมอดูมา ทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีอันเป็นไปต่างๆ นานา เพราะขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ฟ้องนายสุรพงษ์เป็นจำเลย ต่อมาเมื่อนายสุ รพงษ์ หายหน้าไปจากพรรคประชาธิปัตย์ กลับไปโผล่เป็นรัฐมนตรีในระบอบทักษิณ แล้วจะให้เชื่อถือคำพูดได้อย่างไร อดีต ส.ส.พรรคประชา ธิปัตย์รู้ดีว่า นายสุรพงษ์ เป็นเจ้าของฉายา "ปึ้ง ไม่แข็ง" จึงมักออกมาให้สัมภาษณ์แข็งกร้าวเพื่อกลบเกลื่อน เชื่อว่าอาการของนายสุรพงษ์ ยัง สามารถรักษาได้ หากคสช. เรียกไปปรับทัศนคติสัก 7 วัน เพื่อความสงบสุขของสังคม
***ผบ.ตร.ยันยึดหลัก กม.ให้รอบคอบ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร. ) กล่าวถึงกรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า หาก ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่งนั้น นายนิพิฏฐ์ วิจารณ์นโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในอดีตและปัจจุบันที่มีความแตกต่าง เป็นเรื่องของเวลาข้อมูลเหตุผลที่ต่างกัน จึงอาจจะมีความ แตกต่างได้ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการถอดยศตำรวจ ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นเช่นไร ตนจะต้องตรวจสอบและ พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยยึดหลักกฏหมายและความถูกต้องเป็นสำคัญ
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้รับรายงานจากนายเวรว่า พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันกุล ที่ปรึกษา (สบ10) ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการถอดถอนยศ ได้รายงานมติคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้มาถึง ผบ.ตร. แต่จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า มติดังกล่าว คณะกรรมการฯ ยังมิได้มีการรับรองมตินั้น จึงได้แจ้งให้ พล.ต.อ.ชัยยะ มารับรายงานดังกล่าวกลับคืนไป เพื่อดำเนิน การตามขั้นตอนให้ครบถ้วนถูกต้องเสียก่อน
** รัฐบาลไม่กังวลปมถอดยศ "แม้ว"
พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ผบ.ตร. กำชับให้เฝ้าระวังสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ภายหลังมีการ เสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า รัฐบาลไม่ต้องเฝ้าระวังอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน ที่ต้องมีส่วนช่วยกันสร้างความมั่นคง ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวว่า ประเทศต้องมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังนั้น ทุกส่วนต้องช่วยกันให้เกิดความมั่นคงก่อน หากมีความ มั่นคงเศรษฐกิจ ก็จะดีขึ้นเอง นับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยทุกฝ่ายต้องช่วยกัน รัฐบาลไม่ได้มีการประเมินเพื่อเตรียม รับสถานการณ์เป็นพิเศษ แต่คิดว่าทุกคนที่หวังดีต่อประเทศชาติก็รู้ว่าควรทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนต้องช่วยชี้แจงทำความเข้าใจว่า อะไรถูกหรือผิดกฎหมาย รัฐบาลทำหน้าที่ของรัฐบาลและมีหน่วยงานดูแล ตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้กังวลใดๆกับเรื่องนี้
**"พระสุเทพ"ไม่ขอพูดถึง"แม้ว"
พระสุเทพ ปภากโร ปฏิเสธที่จะกล่าวถึง หรือวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่ประเทศ เกาหลี ที่ระบุว่า พระสุเทพ อาจจะมีส่วนร่วมกับรัฐบาล คสช. ก่อการรัฐประหาร โดยกล่าวสั้นๆว่า "อาตมา เป็นพระ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวทางการเมือง" นอกจากนี้ยังปฏิเสธที่จะพูดพาดพิงถึงการที่รัฐบาล คสช. จะถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเห็นสมควรหรือไม่นั้น โดยกล่าวว่า" เป็นพระแล้ว ไม่ขอ พูดถึงเรื่องการเมือง เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับพระ"
**คำพูด"แม้ว"ทำแผนปรองดองเป็นหมัน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ เพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต .ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า การถอนพาสปอร์ตทั้งหมด เป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณไปพูดปาฐกถาที่ประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงองคมนตรี พาดพิงการยึด อำนาจของทหาร ซึ่งตนคิดว่าการพูดดังกล่าวเป็นเรื่องที่เสียหาย
"ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ไปพูดแบบนั้น ก็ไม่ถึงขั้นถอนพาสปอร์ต ประโยคที่พูดกระทบกระเทือน ผมคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พลาด การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดแบบนี้ กระบวนการปรองดองของ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความ ปรองดอง (คศป.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คงเดินหน้าต่อไปไม่ได้ จบแล้ว และยากที่จะเดินต่อไปตามรัฐธรรมนูญวางไว้ เพราะพ.ต.ท .ทักษิณ เริ่มต้นแบบนี้ก็แสดงว่าไม่ปรารถนาที่จะปรองดอง คณะกรรมการชุดนายเอนก จะเดินหน้าปรองดอง ก็คงเดินไม่ได้แล้ว เพราะพ.ต.ท .ทักษิณ ไม่มีเจตนาปรองดองด้วย กระบวนการนี้ก็เลยพัง" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
**ปปช.ยันไม่กลั่นแกล้ง "ปู-ปึ้ง"
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีขอถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ออกหนังสือ เดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมิชอบว่า เรื่องดังกล่าว มีกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวน โดยมี นายณรงค์ รัฐอมฤต เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน ขณะนี้อยู่ในชั้นของคณะทำงาน ยังไม่ได้สรุป และเสนอขึ้นมา
" ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เล่นงานนักการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะถ้าเรื่องไม่จบ ป.ป.ช. จะตายเอง จึงต้องทำคดีให้จบ เราไม่ได้ บอกว่าจะชี้มูลความผิด หรือไม่ เพียงแต่คดีนี้ยังคาราคาซังอยู่ ยังต้องตรวจสอบให้มันสิ้นสุด ทุกเรื่องต้องมีที่จบ ไม่ว่าจะออกมารูปแบบใด อาจ จะไม่ชี้มูล หรือไม่รับเรื่องก็ได้" นายวิชา กล่าว
**"พท."อัด"ประสาร"พูดให้แตกแยก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่ง ชาติ (สปช.) ระบุ ควรดำเนินการถอนคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า คนพวกนี้มีปาก แต่ใช้ในทางไม่สร้างสรรค์ พูด เพื่อให้เกิดความแตกแยกเกลียดชัง ที่น่าเศร้าคือ มีคนพวกนี้มากเกินไปในสังคมไทย นายประสาร เป็นพวกขาประจำ ที่ได้ดิบได้ดีจากระบบ ลากตั้ง เราจะไปคาดหมายให้คนเยี่ยงนี้เข้าใจสิทธิ เสรีภาพ ในการพูด หรือประชาธิปไตยก็คงลำบาก นายประสาร เทียบอะไรไม่ได้เลย กับพ.ต .ท.ทักษิณ อย่ามาสอนประชาธิปไตยให้พวกเราฟัง ความสามารถอย่างเดียวที่นายประสาร มี คือกล้าที่จะประดิษฐถ้อยคำ มาเสียดแทงคนอื่น อย่างไม่รับผิดชอบ นายประสาร จะไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็มีคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ อีกมาก พิสูจน์ได้จากผลการเลือกตั้ง ถ้านายประสารไม่เชื่อ ขออาสาพาไปเดินแถวภาคเหนือ และอีสาน ดูสักวัน ขอให้นัดมาได้เลยการดำเนินการใดๆกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขออย่าทำ เพราะความเกลียดชัง แต่ต้องทำภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เหมาะสม เพราะการกระทำใดๆ ประชาชนเขาเฝ้าดูอยู่
**"ปู" เก็บเห็ดโชว์ผ่านเฟซบุ๊ก
วานนี้ (31 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความและรูปภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra ขณะกำลังเก็บเห็ดที่ระบุว่าเพาะปลูกเองภายในบ้าน พร้อมระบุว่าเป็นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ธรรมดา มีความสุขจากข้างใน โดยเนื้อหาระบุว่า
"ว่างเว้นจากงาน ก็หางานอดิเรกใหม่ นอกจากปลูกผักปลอดสารพิษแล้ว ก็มาต่อด้วยการเพาะเห็ดรับประทานเองที่บ้าน ทำให้ร่าง กายได้พัก และทานของเพื่อสุขภาพบ้าง ก็รู้สึกดีนะคะ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตเรียบง่าย ธรรมดาๆ คือ ความสุขที่เกิดมาข้างใน มากกว่าความสุขที่ เป็นของนอกกาย ไม่จีรัง ยั่งยืนค่ะ ทำให้อดคิดถึง พี่น้องเกษตรกรไม่ได้ ตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ขอส่งกำลังใจไปถึงด้วยนะคะ”
ขณะเดียวกัน รูปภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์ขณะกำลังเก็บเห็ดที่ปลูก เสื้อที่อดีตนายกฯใส่ มีข้อความระบุว่า ชีวิตธรรมดา.