ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-เผยผลประชุมร่วมไทย-มาเลเซียกรณีใช้พื้นที่ฝั่งไทยลำเลียงศพชาวโรฮีนจายังไม่ได้ข้อสรุป เตรียมเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาก่อน "สมยศ"มอบ "พล.ต.อ.เอก" รับผิดชอบช่วยมาเลย์ขุดหลุมศพรัฐปะลิส ด้าน "ประวิตร"ยันตั้ง ศอ.ยฐ. เน้นแก้ปัญหาโรฮีนจาให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน "อุดมเดช"ห่วงสมาคมโรฮีนจาในไทยบางแห่งสร้างผลกระทบ สั่งจับตาใกล้ชิด อดีตนายก อบต.ตำมะลัง มอบตัวอีกราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีทางการมาเลเซียขอใช้พื้นที่ฝั่งไทยลำเลียงศพชาวโรฮีนจาที่ขุดพบในรัฐเปอร์ลิส ฝั่งมาเลเซียว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 ตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน และรองผู้บังคับการตำรวจรัฐเปอร์ลิส รวมถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนกลาง ประเทศมาเลเซียที่ สภ.สะเดา จ.สงขลากว่า 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า ข้อเสนอของทางการมาเลเซียยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
***พื้นที่ตัดสินใจไม่ได้ต้องรอผู้บังคับบัญชา
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ในระดับพื้นที่ ไม่สามารถตัดสินใจหรือให้คำตอบได้ โดยจะนำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นได้หารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดพิกัดเส้นทางบนเขาที่เจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียประสานงานร้องขอใช้พื้นที่บางส่วนบนเขาของฝั่งไทยในการลำเลียงศพ เนื่องจากบางจุดทางฝั่งมาเลเซียเดินทางลำบาก จำเป็นต้องผ่านเข้ามาในเขตแดนไทย
พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า กล่าวว่า เท่าที่มีการหารือกัน มาเลเซียมีการดำเนินการในพื้นที่ของมาเลย์เป็นหลัก แต่อาจมีบางส่วนที่ต้องประสานขอใช้พื้นที่ของไทยในการลำเลียง ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันของทั้ง 2 ประเทศในการประสานงานกัน แต่ต้องมาดูเรื่องพิกัดและเส้นทางที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรายละเอียดในการขุดศพ และการตรวจสอบต่างๆ นั้น เป็นเรื่องที่ฝ่ายไทยไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เพราะเป็นเรื่องของทางการมาเลเซีย
***มาเลย์ขอไทยช่วยขุดหลุมพิสูจน์ศพโรฮีนจา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่า ทางการมาเลเซียได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากประเทศไทยในการขุดหลุมภายในค่ายพักพิงที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพบบริเวณรัฐปะลิส ทางตอนเหนือของประเทศ ติดกับชายแดนมาเลเซีย-ไทย กว่า 30 หลุม มีร่างผู้เสียชีวิตกว่า 100 ร่าง โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบคดีนี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้การช่วยเหลือประเทศมาเลเซียต่อไป
"ผมได้แนะนำให้มีการตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ในการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่พบหลุมศพภายในค่ายชาวโรฮีนจาที่ถูกค้นพบล่าสุดอย่างเต็มที่ โดยในเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม เห็นดีด้วยและได้กำชับให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเน้นในเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
**"บิ๊กป้อม"ยันตั้ง ศอ.ยฐ.เน้นแก้โรฮีนจา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.) ว่า การตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อควบคุมการทำงานของทหารเรือและทหารอากาศ โดยตนได้มอบนโยบายอย่างชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินการเช่นใดบ้าง เพราะเรามีกฎหมายการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ถ้ามีผู้โยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทางเรือ โดยมีเจตนาเข้ามาประเทศไทย ก็สามารถเข้ามาได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะต้องถูกควบคุมพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าพวกเขาอยากไปประเทศอื่น เราก็จะช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
อย่างไรก็ตาม เราจะต้องสอบถามพวกเขาก่อนว่าต้องการไปที่ใด ไม่ใช่ว่าเราจะไปผลักไสไล่ส่ง ถ้ามีคนเจ็บคนป่วยมีอาการหนัก เราก็จะนำตัวมารักษาพยาบาล ส่วนประเทศใดที่จะเข้าร่วม ก็ต้องอยู่ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ฯ นี้ สำหรับงบประมาณทางกองบัญชาการกองทัพไทยจะเป็นผู้ประเมิน จากนั้นก็จะไปหารือกับองค์การสหประชาชาติ ในวันที่ 29 พ.ค. ที่จะมีการประชุมร่วมกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะรายงานปัญหานี้ด้วย
เมื่อถามว่า ได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าทำไมเรื่องโรฮีนจา ถึงมีประเด็นในช่วงนี้ ทั้งที่มีปัญหามานานแล้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ชาวโรฮีนจาก็อพยพแบบนี้มาตลอด อาจจะเป็นปัญหาทางการเมืองหรือมีปัญหาอื่นๆ หรือเปล่า แต่เราก็ยอมรับว่าปัญหาชาวโรฮีนจา เราต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน เพราะพวกเขาเป็นคน มีชีวิต หากดูแลได้ เราก็ดูแลไป ทั้งนี้ ก็ต้องไปดูต้นทางของปัญหาดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร ทำไมพวกเขาจึงอยู่ไม่ได้ หากมีความยากจน ก็ต้องไปช่วยให้พวกเขาอยู่ให้ได้
**สั่งจับตาตรวจสอบ "สมาคมโรฮีนจา"
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบก จะดูแลในภาคพื้นดิน หากผู้อพยพหลุดเข้ามาในพื้นดิน เป็นหน้าที่กองทัพบกที่ต้องดูแล ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ ยืนยันกองทัพบกปฏิบัติงานยึดถือตามหลักมนุษยชน ตามนโนบายของกระทรวงกลาโหม และถูกต้องตามกฏหมายไทย ซึ่งการดูแลความเรียบร้อยเหล่านี้ อยู่ภายใต้ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี สั่งให้มีดารตรวจสอบสมาคมโรฮีนจาที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยว่าถูกต้องหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ต้องดูแลเรื่องความถูกต้องต่างๆ ในส่วนของ กอ.รมน. ก็ติดตามเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ การตั้งสมาคมโรฮีนจาต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ตลอดจนบทบาทอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่ใช่ตั้งเป็นสมาคมแล้ว แต่มีการดำเนินการจนส่งผลกระทบ ก็ต้องติดตามดู ตนห่วงบางสมาคมโรฮีนจา ต้องติดตามการจัดตั้ง ความชัดเจน รายละเอียดต่างๆ หากจัดตั้งถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหาอะไร หากก่อให้เกิดสิ่งดีงาม แต่หากทำให้เกิดปัญหาก็ต้องเร่งดำเนินการ
**อดีตนายกเล็กสตูลมอบตัวอีก 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาซึ่งยังหลบหนีอีก 29 คนว่า วานนี้ (27 พ.ค.) นายชาคริต หลงสาม๊ะ อายุ 53 ปี หรือนายกแมน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ได้เข้ามอบตัวอีก 1 คนที่ สภ.ปาดังเบซาร์ โดยเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.ปาดังเบซาร์
ทั้งนี้ นายชาคริต เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาที่อยู่ในเครือข่ายของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สตูล
โดยนายชาคริต ได้ถูกแจ้ง 3 ข้อหาทั้งสมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่ยังให้การปฏิเสธและเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวแล้วทั้งสิ้น 49 คน จากที่ออกหมายจับ 77 หมายจับ เหลืออีก 28 คนที่ยังหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีทางการมาเลเซียขอใช้พื้นที่ฝั่งไทยลำเลียงศพชาวโรฮีนจาที่ขุดพบในรัฐเปอร์ลิส ฝั่งมาเลเซียว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 ตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน และรองผู้บังคับการตำรวจรัฐเปอร์ลิส รวมถึงเจ้าหน้าที่สืบสวนกลาง ประเทศมาเลเซียที่ สภ.สะเดา จ.สงขลากว่า 2 ชั่วโมง ปรากฏว่า ข้อเสนอของทางการมาเลเซียยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
***พื้นที่ตัดสินใจไม่ได้ต้องรอผู้บังคับบัญชา
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ในระดับพื้นที่ ไม่สามารถตัดสินใจหรือให้คำตอบได้ โดยจะนำเรื่องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นได้หารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดพิกัดเส้นทางบนเขาที่เจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียประสานงานร้องขอใช้พื้นที่บางส่วนบนเขาของฝั่งไทยในการลำเลียงศพ เนื่องจากบางจุดทางฝั่งมาเลเซียเดินทางลำบาก จำเป็นต้องผ่านเข้ามาในเขตแดนไทย
พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9 ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า กล่าวว่า เท่าที่มีการหารือกัน มาเลเซียมีการดำเนินการในพื้นที่ของมาเลย์เป็นหลัก แต่อาจมีบางส่วนที่ต้องประสานขอใช้พื้นที่ของไทยในการลำเลียง ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันของทั้ง 2 ประเทศในการประสานงานกัน แต่ต้องมาดูเรื่องพิกัดและเส้นทางที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนรายละเอียดในการขุดศพ และการตรวจสอบต่างๆ นั้น เป็นเรื่องที่ฝ่ายไทยไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เพราะเป็นเรื่องของทางการมาเลเซีย
***มาเลย์ขอไทยช่วยขุดหลุมพิสูจน์ศพโรฮีนจา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่า ทางการมาเลเซียได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากประเทศไทยในการขุดหลุมภายในค่ายพักพิงที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพบบริเวณรัฐปะลิส ทางตอนเหนือของประเทศ ติดกับชายแดนมาเลเซีย-ไทย กว่า 30 หลุม มีร่างผู้เสียชีวิตกว่า 100 ร่าง โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบคดีนี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้การช่วยเหลือประเทศมาเลเซียต่อไป
"ผมได้แนะนำให้มีการตั้งเป็นรูปแบบคณะกรรมการ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ในการประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูล วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่มาเลเซียตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่พบหลุมศพภายในค่ายชาวโรฮีนจาที่ถูกค้นพบล่าสุดอย่างเต็มที่ โดยในเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม เห็นดีด้วยและได้กำชับให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเน้นในเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
**"บิ๊กป้อม"ยันตั้ง ศอ.ยฐ.เน้นแก้โรฮีนจา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.) ว่า การตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อควบคุมการทำงานของทหารเรือและทหารอากาศ โดยตนได้มอบนโยบายอย่างชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินการเช่นใดบ้าง เพราะเรามีกฎหมายการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ถ้ามีผู้โยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาทางเรือ โดยมีเจตนาเข้ามาประเทศไทย ก็สามารถเข้ามาได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะต้องถูกควบคุมพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าพวกเขาอยากไปประเทศอื่น เราก็จะช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
อย่างไรก็ตาม เราจะต้องสอบถามพวกเขาก่อนว่าต้องการไปที่ใด ไม่ใช่ว่าเราจะไปผลักไสไล่ส่ง ถ้ามีคนเจ็บคนป่วยมีอาการหนัก เราก็จะนำตัวมารักษาพยาบาล ส่วนประเทศใดที่จะเข้าร่วม ก็ต้องอยู่ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ฯ นี้ สำหรับงบประมาณทางกองบัญชาการกองทัพไทยจะเป็นผู้ประเมิน จากนั้นก็จะไปหารือกับองค์การสหประชาชาติ ในวันที่ 29 พ.ค. ที่จะมีการประชุมร่วมกัน ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะรายงานปัญหานี้ด้วย
เมื่อถามว่า ได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าทำไมเรื่องโรฮีนจา ถึงมีประเด็นในช่วงนี้ ทั้งที่มีปัญหามานานแล้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ชาวโรฮีนจาก็อพยพแบบนี้มาตลอด อาจจะเป็นปัญหาทางการเมืองหรือมีปัญหาอื่นๆ หรือเปล่า แต่เราก็ยอมรับว่าปัญหาชาวโรฮีนจา เราต้องดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน เพราะพวกเขาเป็นคน มีชีวิต หากดูแลได้ เราก็ดูแลไป ทั้งนี้ ก็ต้องไปดูต้นทางของปัญหาดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร ทำไมพวกเขาจึงอยู่ไม่ได้ หากมีความยากจน ก็ต้องไปช่วยให้พวกเขาอยู่ให้ได้
**สั่งจับตาตรวจสอบ "สมาคมโรฮีนจา"
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบก จะดูแลในภาคพื้นดิน หากผู้อพยพหลุดเข้ามาในพื้นดิน เป็นหน้าที่กองทัพบกที่ต้องดูแล ลาดตระเวน เฝ้าตรวจ ยืนยันกองทัพบกปฏิบัติงานยึดถือตามหลักมนุษยชน ตามนโนบายของกระทรวงกลาโหม และถูกต้องตามกฏหมายไทย ซึ่งการดูแลความเรียบร้อยเหล่านี้ อยู่ภายใต้ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี สั่งให้มีดารตรวจสอบสมาคมโรฮีนจาที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยว่าถูกต้องหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ต้องดูแลเรื่องความถูกต้องต่างๆ ในส่วนของ กอ.รมน. ก็ติดตามเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ การตั้งสมาคมโรฮีนจาต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ตลอดจนบทบาทอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่ใช่ตั้งเป็นสมาคมแล้ว แต่มีการดำเนินการจนส่งผลกระทบ ก็ต้องติดตามดู ตนห่วงบางสมาคมโรฮีนจา ต้องติดตามการจัดตั้ง ความชัดเจน รายละเอียดต่างๆ หากจัดตั้งถูกต้อง ก็ไม่มีปัญหาอะไร หากก่อให้เกิดสิ่งดีงาม แต่หากทำให้เกิดปัญหาก็ต้องเร่งดำเนินการ
**อดีตนายกเล็กสตูลมอบตัวอีก 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาซึ่งยังหลบหนีอีก 29 คนว่า วานนี้ (27 พ.ค.) นายชาคริต หลงสาม๊ะ อายุ 53 ปี หรือนายกแมน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล ได้เข้ามอบตัวอีก 1 คนที่ สภ.ปาดังเบซาร์ โดยเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.ปาดังเบซาร์
ทั้งนี้ นายชาคริต เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาที่อยู่ในเครือข่ายของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สตูล
โดยนายชาคริต ได้ถูกแจ้ง 3 ข้อหาทั้งสมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่ยังให้การปฏิเสธและเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่งผลให้ขณะนี้มีผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวแล้วทั้งสิ้น 49 คน จากที่ออกหมายจับ 77 หมายจับ เหลืออีก 28 คนที่ยังหลบหนี
