พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการคัดสรร และแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงหลายตำแหน่งที่ว่างลงจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่า ขณะนี้รัฐมนตรีที่มีหน้าที่ดูแลกระทรวงนั้นๆ และรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กำกับดูแล มีการหารือคืบหน้าไประดับหนึ่ง คาดว่าจะมีการนำรายชื่อบางส่วนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ในเร็วๆนี้
"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงไปว่า ต้องพิจารณาทั้งเรื่องความรู้ความสามารถ และลำดับอาวุโสควบคู่กันไป รวมทั้งต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในกระทรวง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการนำเสนอรายชื่อของกระทรวงใด ให้ท่านนายกฯ พิจารณา"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ก็มักจะมีข่าวปล่อย ข่าวลือ ให้ร้ายกันภายในหน่วยงาน หรือแอบอ้างไปต่างๆนานา ว่าได้รับแรงสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่คนนั้น คนนี้ แต่สำหรับในรัฐบาลชุดนี้ ต้องไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจผลประโยชน์ ยึดมั่นในหลักผลประโยชน์ชาติ และการปฏิรูปประเทศเท่านั้น
"ท่านนายกฯ กำชับว่าทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ปล่อยข่าว สร้างกระแส เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร และความเป็นกลางของรัฐบาล จะต้องได้รับการลงโทษตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้โดยไม่ละเว้น" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
**ปปท.รอสรุปรายชื่อขรก.เอี่ยวทุจริตล็อต 2
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พร้อมให้จัดมีการประชุมเตรียมสรุปรายชื่อข้าราชการที่ถูกกล่าวหากรณีทุจริต ล็อต 2 ว่า พล.อ.ไพบูลย์ ได้มอบนโยบายโดยให้มีการจัดประชุมทุก 2 เดือน และได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ปรากฏพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ป.ป.ช. และป.ป.ท. กำลังรวบรวมรายชื่อ และจะส่งมาที่ตน ก่อนที่จะสรุปเสนอไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ ต่อไป
ส่วนการประชุมครั้งต่อไปนั้น ยังไม่มีกำหนดแน่ชัด แต่ทาง พล.อ.ไพบูลย์ได้มอบนโยบายมาแล้วว่า ให้รวดเร็ว จึงเชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ ขั้นตอนการรวบรวมจากทั้ง 4 หน่วยงานดังกล่าว จะเสร็จสิ้น
เมื่อถามว่า รายชื่อล็อต 2 นี้ จะมีข้าราชการระดับใดบ้าง นายประยงค์ กล่าวว่า ไม่อาจทราบได้ เพราะข้อมูลจะอยู่ในแต่ละหน่วยงาน โดยต้องยึดตามหลักของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ว่า หากไม่มีความยั้งคิด ก็ต้องถูกตรวจสอบ หากพบว่ามีพฤติการณ์ส่อทุจริต ก็จะเสนอให้โยกย้าย และดำเนินการทางวินัย ตามด้วยอาญา
ทั้งนี้ ในการพิจารณารายชื่อ เราพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งสองครั้ง โดยทั้ง 4 หน่วยงาน ก็ได้ทำงานนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาทำ อีกทั้งปัญหาเดิม คือความล่าช้าในการพิจารณาคดีทางอาญา ทำให้คนคิดกระทำผิดจึงไม่มีความกลัว ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจึงให้ดูว่ามีการทางดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างไรบ้าง
"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงไปว่า ต้องพิจารณาทั้งเรื่องความรู้ความสามารถ และลำดับอาวุโสควบคู่กันไป รวมทั้งต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในกระทรวง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการนำเสนอรายชื่อของกระทรวงใด ให้ท่านนายกฯ พิจารณา"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ก็มักจะมีข่าวปล่อย ข่าวลือ ให้ร้ายกันภายในหน่วยงาน หรือแอบอ้างไปต่างๆนานา ว่าได้รับแรงสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่คนนั้น คนนี้ แต่สำหรับในรัฐบาลชุดนี้ ต้องไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจผลประโยชน์ ยึดมั่นในหลักผลประโยชน์ชาติ และการปฏิรูปประเทศเท่านั้น
"ท่านนายกฯ กำชับว่าทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ปล่อยข่าว สร้างกระแส เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร และความเป็นกลางของรัฐบาล จะต้องได้รับการลงโทษตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้โดยไม่ละเว้น" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
**ปปท.รอสรุปรายชื่อขรก.เอี่ยวทุจริตล็อต 2
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พร้อมให้จัดมีการประชุมเตรียมสรุปรายชื่อข้าราชการที่ถูกกล่าวหากรณีทุจริต ล็อต 2 ว่า พล.อ.ไพบูลย์ ได้มอบนโยบายโดยให้มีการจัดประชุมทุก 2 เดือน และได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ปรากฏพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ป.ป.ช. และป.ป.ท. กำลังรวบรวมรายชื่อ และจะส่งมาที่ตน ก่อนที่จะสรุปเสนอไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ ต่อไป
ส่วนการประชุมครั้งต่อไปนั้น ยังไม่มีกำหนดแน่ชัด แต่ทาง พล.อ.ไพบูลย์ได้มอบนโยบายมาแล้วว่า ให้รวดเร็ว จึงเชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ ขั้นตอนการรวบรวมจากทั้ง 4 หน่วยงานดังกล่าว จะเสร็จสิ้น
เมื่อถามว่า รายชื่อล็อต 2 นี้ จะมีข้าราชการระดับใดบ้าง นายประยงค์ กล่าวว่า ไม่อาจทราบได้ เพราะข้อมูลจะอยู่ในแต่ละหน่วยงาน โดยต้องยึดตามหลักของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ว่า หากไม่มีความยั้งคิด ก็ต้องถูกตรวจสอบ หากพบว่ามีพฤติการณ์ส่อทุจริต ก็จะเสนอให้โยกย้าย และดำเนินการทางวินัย ตามด้วยอาญา
ทั้งนี้ ในการพิจารณารายชื่อ เราพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งสองครั้ง โดยทั้ง 4 หน่วยงาน ก็ได้ทำงานนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งมาทำ อีกทั้งปัญหาเดิม คือความล่าช้าในการพิจารณาคดีทางอาญา ทำให้คนคิดกระทำผิดจึงไม่มีความกลัว ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจึงให้ดูว่ามีการทางดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างไรบ้าง