เกาะกระแส
00 ต้องเรียกว่าผิดคาดเหมือนกัน ที่รัฐบาลและ คสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนมาถึงบัดนี้ถือว่ามีเรื่องข้อกล่าวหาทุจริตน้อยมาก โดยเฉพาะในระดับฝ่ายการเมืองยังไม่มีออกมาให้เห็น อาจจะมีบ้างในตอนแรกๆที่มีเสียงนินทาว่าคนใกล้ชิดบิ๊กบางคนตั้งโต๊ะรับเคลียร์รับเงินกันอยู่บ้าง แต่พอ "ลุงตู่"ประกาศขึงขังว่าตัวเองไม่โกงและคนอื่นต้องไม่โกง ทุกอย่างก็เริ่มเดินในเส้นตรงมากขึ้น บรรดานายหน้า"เด็กนาย"ที่ก่อนหน้านี้เคยมีบทบาทก็ค่อยหายหน้าไป แม้ว่าจนบัดนี้ยังไม่รู้ว่าเปลี่ยนพฤติกรรมหรือยุติไปแล้วหรือยัง เนื่องจากของที่เคยกินแต่ไม่ได้กินหรือกินยากมันอาจทุรนทุราย แต่เอาเป็นว่าจนถึงนาทีนี้ในระดับบนยังไม่มีเรื่องอื้อฉาวออกมาก็แล้วกัน
00 แม้ว่าเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาแก้ไม่ตก แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำอยู่ตลอดก็คือเรื่องการปราบปรามการทุจริต ย้ำอยู่เสมอว่าตัวเอง "ไม่ได้สักบาท"และไม่คิดจะเอา ทำให้"หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก"และนี่แหละอาจเป็นเกราะคุ้มกันได้อีกชั้นหนึ่ง เพราะแต่ไหนแต่ไรมาร้อยทั้งร้อยทุกรัฐบาลถ้าลองมีปัญหาเรื่องทุจริตเกิดขึ้นในรัฐบาล ต่อให้มีผลงานน่าประทับใจแค่ไหนก็ไปไม่รอด
00 ความเคลื่อนไหวที่เห็นในเวลานี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตาม ม.44 เข้ามาฟาดฟันกับข้าราชการทุจริต และปรับโครงสร้างบางหน่วยงานที่มีปัญหา ล่าสุดดังที่เกิดฟ้าผ่าในกระทรวงศึกษาฯที่เด้ง 6 ขรก.ระดับบิ๊กออกไปกันแบบปัจจุบันทันด่วน และหน่วยงานต่อไปที่ต้องโดนแน่เพราะประกาศเอาไว้แล้วก็คือ "กรมที่ดินและกรมทรัพย์ฯ"
00 ล่าสุดที่เป็นรูปธรรมแน่ชัดก็คือการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(คตช.)ครั้งที่ 3 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานที่ทำเนียบฯ มีรองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เลขาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) ผบ.เหล่าทัพ ฯลฯ เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง สาระสำคัญที่แย้มออกมาให้เห็นก็คือต่อไปนี้จะใช้ ม.44 จัดการกับบรรดา ขรก.ขี้โกงทั้งหลาย ด้วยความรวดเร็ว มีการดำเนินการทางวินัยและปกครองมาก่อนอาญา
00 น่าจับตาก็คือคำพูดของ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ที่ย้ำว่าอีกไม่นานจะมีคำสั่งข้าราชการทั้ง 100 รายที่ถูก ปปท.ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจะถูกคำสั่งมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ หรือเป็นที่ปรึกษานายกฯ เป็นการย้ายให้ออกนอกหน่วย เป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนอย่างเต็มที่ หากไม่ผิดก็ย้ายกลับไปที่เดิม แต่ถ้าผิดก็ถูกดำเนินคดีอาญาต่อไป ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่ชักช้า !!
00 แอบติดตามการทำงานของ รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา มาพอสมควรแล้วก็ต้องชื่นชมกันอีกครั้งว่าไช้ได้ จากคราวก่อนที่เคยคาดโทษบรรดาพวก ผบ.เรือนจำทั้งหลายว่าหากมีการตรวจค้นในเรื่อนจำแล้วพบสิ่งผิดกฎหมาย ของต้องห้าม บรรดาผบ.เรือนจำ ผู้คุมต้องรับผิดชอบ เพราะหากพื้นที่พิเศษแบบนั้นยังมีการกระทำผิดนั่นก็แสดงว่ามันต้องมีการทุจริต ปล่อยปละละเลย ไม่ใช่ต้องย้ายอย่างเดียวมันต้องสอบสวนเอาผิดอย่างเฉียบขาดด้วย มาล่าสุดที่คุมเกมจนทำให้หน่วยงานปปท.สามารถเค้นรายชื่อข้าราชการที่ส่อไปในทาง"กังฉิน"ได้ถึง 100 ราย ทำให้เกิดรายการสั่นสะเทือนตามมา และตามข่าวบอกว่ายังมีอีกล็อตใหญ่ตามมา คาดว่าเป็นหลักร้อย หรือสองร้อยราย ถ้าเป็นแบบนี้จริงมันก็ไม่ธรรมดา อาจเป็นการล้างบางการทุจริตครั้งใหญ่ก็ว่าได้ !!
00 ส่วนความคืบหน้าคดีบึ้มที่ชั้นจอดรถที่ห้างเซ็นทรัลฯสมุย ล่าสุด โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ เปิดเผยว่า ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 1 ราย ที่เป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสองที่จังหวัดปัตตานี และคาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 6 รายตามมาเร็วๆนี้ อย่างไรก็ดีถือว่านี่คือระดับปฏิบัติการ ยังไม่ใช่ผู้บงการ แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีความคืบหน้า ส่วนจะมีอดีตรองนายกฯคนหนึ่งเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องตามดูกันต่อไปยาวๆ !!
