“บิ๊กต๊อก” ไล่เช็กบิล จนท.รัฐ-เอกชน-ปชช.เอี่ยวโบนันซ่า ยันบุกรุกชัดเจน

รมว.ยุติธรรม สั่งสอบ จนท.เกี่ยวข้องพื้นที่โบนันซ่าบุกรุกป่าสวงนแห่งชาติ ยันมีหลักฐานการบุกรุกชัดเจน ย้ำไม่เลือกปฏิบัติ ระบุในพื้นที่ภาคอีสานมีการบุกรุกที่เยอะ จี้หน่วยงานสอบอย่างต่อเนื่อง



จากกรณี พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.อ.สมหมาย บุษบา ที่ปรึกษากฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ดีเอสไอ ตำรวจ บก.ปทส. กรมที่ดิน ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่โบนันซ่าเขาใหญ่ เลขที่ 235 หมู่ 11 ถนนธนะรัชต์ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าที่ดังกล่าวบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต่อมาทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทราบเรื่องนี้แต่ไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด

วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวว่า ที่เจ้าหน้าที่ออกมาระบุว่าทราบเรื่องแต่ไม่มีการดำเนินการนั้น ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) โดยคณะทำงานได้ดำเนินการจากข้อมูลของการร้องเรียน กับข้อมูลจากการสืบสวนแล้วพบกรณีนี้จึงเข้าไปดำเนินการ ดังนั้นเมื่อผลออกมาแล้วเจ้าหน้าที่ได้มารายงานตน จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะดูแลเรื่องดังกล่าว และประสานหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเอกชน และเจ้าหน้าที่รัฐ ให้มีการสอบสวนว่าทำไมถึงไม่มีการดำเนินการ ติดขัดเรื่องอะไร ถึงปล่อยให้มีปัญหา เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวมีการก่อสร้างอย่างสมบูรณ์แบบหลายจุด แสดงว่าต้องมีการเข้าไปนานพอสมควร ทั้งนี้ต้องให้เวลาในการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ว่ารู้เห็นด้วยหรือไม่ สำหรับหลักฐานการบุกรุกนั้นค่อนข้างชัดเจน

รมว.ยุติธรรมกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ภาคอีสานยังมีการบุกรุกที่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูล หรือเป็นคนในพื้นที่ มีข้อมูลเกี่ยวกับการบุกรุกและมีเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็นด้วย สามารถส่งข้อมูลมาที่ ศอตช.เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายได้ ทั้งนี้ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย ตนเข้าใจเนื่องจากเรื่องนี้ต้องมีผู้มีอิทธิพลหรือมีขีดความสามารถพอสมควรจึงดำเนินการทำผิด และอยู่เหนือเจ้าหน้าที่ท้องที่ได้เหมือนกรณีเช่นนี้

เมื่อถามว่า พื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) เป็นพื้นที่ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลเก่า พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง และให้ผลงานเป็นเครื่องตัดสินว่าการกระทำนั้นส่อไปในทางดำเนินการเฉพาะกลุ่มหรือไม่

“ผิดว่าไปตามผิด ผมไม่ยอมอยู่แล้ว และไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง ความผิดชัดแจ้งอยู่แล้ว และผู้ใหญ่ที่ไหนจะมาเคลียร์” รมว.ยธ.ระบุ