รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผอ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เขต 3 รักษาการแทน ผอ.ปปท. เขต 9 พ.ต.ท.ธานัท ใจแข็ง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปปท. น.ต.วีรพงษ์ นาคประสิทธิ์ ผู้บังคับหน่วยปฎิบัติการ หน่วยบัญชาการการต่อสู้อากาศและรักษาฝั่งที่ 491 กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และ นายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา นำคณะเข้าตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บนเกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล หลังพบว่ามีนายทุนบุกรุกใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่กล่าวอ้างการครอบครองเกินจากเอกสารหลักฐาน ได้ก่อสร้างเป็นรีสอร์ท ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ชุมชน โดยพื้นที่บางส่วนยังคงเป็นพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ จนมีการตรวจยึดจับกุมรีสอร์ทที่บุกรุกพื้นที่ไปแล้ว 9 ราย จากการตรวจสอบในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมเพิ่มเติมอีก 2 ราย รายที่ 1 คดีอาญาที่ 1187/57 เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 57 ตร.ว. ใช้พื้นที่ก่อสร้างเป็นรีสอร์ท และร้านขายของชำ รายที่ 2 คดีอาญาที่ 1188/57 เนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ 2 งาน 57 ตร.ว. รวมเป็น 11 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 40 กว่าไร่
ด้านนายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา กล่าวว่า เกาะหลีเป๊ะ หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย หลังจากมีการบินตรวจป่าไปก่อนหน้านี้ พบว่าพื้นที่ทั้งหมดมี 1,250 ไร่ คงมีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์เพียงแค่ 500 ไร่เท่านั้น และในส่วนที่เหลือจากกการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบของกรมอุทยานแห่งชาติอยู่ว่า พื้นที่ใดยังมีพิรุธและทางอุทยานฯก็จะดำเนินการต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ทำการตรวจยึดและจับกุมผู้กระทำความผิดฐานบุกรุกจำนวน 11 ราย เนื้อที่รวม 40 กว่าไร่ ความเสียหายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ พ.ต.ท. สามารถ กล่าวว่า ได้เดินเท้าตรวจสอบพื้นที่ๆไม่ตรงกับเอกสารสิทธิ โดยครอบครองเนื้อที่มากกว่าเดิม หรือเรียกว่าเป็นพื้นที่บวม จากหลักฐานทุกแปลงนำชี้ และแสดงสิทธิเกินจากหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และยังมีบางรายแสดงหลักฐานการครอบครองในตำแหน่งที่ดินที่คลาดเคลื่อนไม่สอดคล้อง และรองรับตำแหน่งที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (น.ส.3) อีกหลายแปลง ส่วนความรับผิดชอบของตน ขณะนี้ได้ทำหนังสือเสนอต่อคณะกรรมการ ปปท. เพื่อให้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับยื่นเรื่องไปยังอธิบดีกรมที่ดินอีกด้วย ตามอำนาจหน้าที่คำสั่ง คสช.ที่ 69/57 เนื่องจากพบผู้กระทำความผิดเป็นผู้มีอิทธิพล ร่วมกับคนของรัฐบางหน่อยงานในพื้นที่เข้ามาพัวพันที่ดินอุทยานแห่งชาติตะรุเตาบนเกาะหลีเป๊ะ
ด้านนายปณพล ชีวะเสรีชล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา กล่าวว่า เกาะหลีเป๊ะ หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย หลังจากมีการบินตรวจป่าไปก่อนหน้านี้ พบว่าพื้นที่ทั้งหมดมี 1,250 ไร่ คงมีสภาพเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์เพียงแค่ 500 ไร่เท่านั้น และในส่วนที่เหลือจากกการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบของกรมอุทยานแห่งชาติอยู่ว่า พื้นที่ใดยังมีพิรุธและทางอุทยานฯก็จะดำเนินการต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ทำการตรวจยึดและจับกุมผู้กระทำความผิดฐานบุกรุกจำนวน 11 ราย เนื้อที่รวม 40 กว่าไร่ ความเสียหายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่ พ.ต.ท. สามารถ กล่าวว่า ได้เดินเท้าตรวจสอบพื้นที่ๆไม่ตรงกับเอกสารสิทธิ โดยครอบครองเนื้อที่มากกว่าเดิม หรือเรียกว่าเป็นพื้นที่บวม จากหลักฐานทุกแปลงนำชี้ และแสดงสิทธิเกินจากหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และยังมีบางรายแสดงหลักฐานการครอบครองในตำแหน่งที่ดินที่คลาดเคลื่อนไม่สอดคล้อง และรองรับตำแหน่งที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (น.ส.3) อีกหลายแปลง ส่วนความรับผิดชอบของตน ขณะนี้ได้ทำหนังสือเสนอต่อคณะกรรมการ ปปท. เพื่อให้พิจารณาเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับยื่นเรื่องไปยังอธิบดีกรมที่ดินอีกด้วย ตามอำนาจหน้าที่คำสั่ง คสช.ที่ 69/57 เนื่องจากพบผู้กระทำความผิดเป็นผู้มีอิทธิพล ร่วมกับคนของรัฐบางหน่อยงานในพื้นที่เข้ามาพัวพันที่ดินอุทยานแห่งชาติตะรุเตาบนเกาะหลีเป๊ะ