ASTV ผู้จัดการรายวัน – “โตโยต้า” เขย่าตลาดปิกอัพเปิดตัว “ไฮลักซ์ รีโว่” ครั้งแรกในโลก ด้วยการปฏิวัติปรับเปลี่ยนใหม่หมดทุกจุด เคาะราคาเริ่มต้น 5.69 แสนบาท มั่นใจจะช่วยผลักดันยอดขายโตโยต้า และภาพรวมตลาดปิกอัพให้แข่งขันรุนแรง รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ประกาศวางเป้าการขายท้าทาย 1.4 หมื่นคัน/เดือน พร้อมกระตุ้นผู้บริโภครีบตัดสินใจซื้อก่อนปรับราคา ตามภาษีสรรพสามิตใหม่ในบางรุ่นปีหน้า
นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าเริ่มสายการผลิตปิกอัพ 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งในปี 2511 และในปี 2547 ได้มีการแนะนำรถไฮลักซ์ วีโก้ หรือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้โครงการ IMV พร้อมกับย้ายฐานการผลิตปิกอัพจากประเทศญี่ปุ่นมาไทย ซึ่งรถไฮลักซ์ในรุ่นที่ผ่านมามีการผลิตอยู่ใน 6 โรงงานทั่วโลก แต่สัดส่วนการผลิตกว่า 70% มาจากโรงงานในไทย โดยล่าสุดได้แนะนำรถไฮลักซ์ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 8 สู่ตลาดไทยเป็นแห่งแรกในโลก
“ในเจเนอเรชั่นที่ 8 ภายใต้ชื่อใหม่ ไฮลักซ์ รีโว่ (Hilux REVO) ถือเป็นการปฏิวัติใหม่อย่างแท้จริง เพราะมีการเปลี่ยนโฉมและปรับใหม่ในทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน โครงสร้างตัวถังและแชสซีส์ รวมถึงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ซึ่งทำให้มีสมรรถนะดีกว่าในทุกด้านๆ จึงมั่นใจว่าผู้บริโภคจะให้การตอบรับดี เหมือนในรุ่นที่ผ่านมาที่สามารถเป็นผู้นำตลาดปิกอัพในไทย 9 ปีซ้อน และการเปิดตัวไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ จะช่วยผลักดันยอดขายของโตโยต้า ตลอดจนภาพรวมตลาดรถยนต์ที่กำลังชะลอตัวกลับมาคึกคักอีกครั้ง”
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดรถไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายอย่างไม่เป็นทางการช่วง 4 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-เม.ย.) เทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง 15% ทั้งตลาดรถยนต์นั่งและปิกอัพลดลงใกล้เคียงกัน แต่เชื่อว่าการเปิดตัวปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ จะช่วยให้ตลาดกลับมาดีอีกครั้ง เพราะแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว และพืชผลทางการการเกษตรราคาตกต่ำ แต่ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มที่เฝ้ารอปิกอัพรุ่นใหม่นี้อยู่ ซึ่งจะช่วยผลักดันตลาดให้กลับมาดีขึ้น รวมถึงแข่งขันต่างๆ ที่จะรุนแรงตามไปด้วย
“เหตุนี้จึงมั่นใจปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ จะมียอดขายประมาณ 14,000 คันต่อเดือน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทาย กับตัวเลขการประเมินตลาดรถปีนี้ไม่เกิน 9 แสนคัน แต่หากตลาดกลับมาที่ระดับ 1 ล้านคันต่อปี คาดว่าจะมียอดขายไฮลักซ์ รีโว่ ไม่ต่ำกว่า 18,000 คันต่อเดือน นอกจากนี้ยังอยากจะแจ้งให้ผู้บริโภครีบตัดสินใจซื้อรถ แม้ปิกอัพใหม่รุ่นนี้จะพยายามทำมาตรฐานมลพิษปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ไม่เกิน 200 กรัม ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ แต่ก็มีปิกอัพบางรุ่นอย่างสมาร์ทแค็บที่จะต้องปรับราคาขึ้นในปีหน้า ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เพิ่มเป็น 5% จากปัจจุบัน 3% นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถในช่วงครึ่งหลังปีนี้” นายทานาดะ กล่าว
สำหรับปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญ คาดว่าจะผลิตรองรับตลาดในประเทศและส่งออกไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคัน และหากรวมการผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ที่มีรถอเนกประสงค์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และโตโยต้า อินโนวา(ผลิตที่อินโดนีเซีย) จะมีรถส่งออกกว่า 100 ประเทศ ทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งเฉพาะปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 96% จากเดิมประมาณ 93% ปิกอัพรุ่นใหม่จึงแทบจะใช้ผลิตในไทยเกือบ 100% ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ วางเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล บล็อกใหม่ GD ขนาด 2.8 ลิตร และ 2.4 ลิตร ที่ให้สมรรถนะแรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันดีกว่าเดิม 10% และยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบตัวถัง 33 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นมาตรฐาน หรือปิกอัพตอนเดียว ราคาเริ่ม 5.69-6.75 แสนบาท รุ่นสมาร์ทแค็บราคา 6.19-8.99 แสนบาท และรุ่นดับเบิลแค็บ หรือปิกอัพ 4 ประตู ราคา 7.25 แสนบาท จนถึง 1.139 ล้านบาท
นายเคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าเริ่มสายการผลิตปิกอัพ 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งในปี 2511 และในปี 2547 ได้มีการแนะนำรถไฮลักซ์ วีโก้ หรือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้โครงการ IMV พร้อมกับย้ายฐานการผลิตปิกอัพจากประเทศญี่ปุ่นมาไทย ซึ่งรถไฮลักซ์ในรุ่นที่ผ่านมามีการผลิตอยู่ใน 6 โรงงานทั่วโลก แต่สัดส่วนการผลิตกว่า 70% มาจากโรงงานในไทย โดยล่าสุดได้แนะนำรถไฮลักซ์ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 8 สู่ตลาดไทยเป็นแห่งแรกในโลก
“ในเจเนอเรชั่นที่ 8 ภายใต้ชื่อใหม่ ไฮลักซ์ รีโว่ (Hilux REVO) ถือเป็นการปฏิวัติใหม่อย่างแท้จริง เพราะมีการเปลี่ยนโฉมและปรับใหม่ในทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน โครงสร้างตัวถังและแชสซีส์ รวมถึงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ซึ่งทำให้มีสมรรถนะดีกว่าในทุกด้านๆ จึงมั่นใจว่าผู้บริโภคจะให้การตอบรับดี เหมือนในรุ่นที่ผ่านมาที่สามารถเป็นผู้นำตลาดปิกอัพในไทย 9 ปีซ้อน และการเปิดตัวไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ จะช่วยผลักดันยอดขายของโตโยต้า ตลอดจนภาพรวมตลาดรถยนต์ที่กำลังชะลอตัวกลับมาคึกคักอีกครั้ง”
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดรถไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายอย่างไม่เป็นทางการช่วง 4 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-เม.ย.) เทียบกับปีที่ผ่านมาลดลง 15% ทั้งตลาดรถยนต์นั่งและปิกอัพลดลงใกล้เคียงกัน แต่เชื่อว่าการเปิดตัวปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ จะช่วยให้ตลาดกลับมาดีอีกครั้ง เพราะแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว และพืชผลทางการการเกษตรราคาตกต่ำ แต่ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มที่เฝ้ารอปิกอัพรุ่นใหม่นี้อยู่ ซึ่งจะช่วยผลักดันตลาดให้กลับมาดีขึ้น รวมถึงแข่งขันต่างๆ ที่จะรุนแรงตามไปด้วย
“เหตุนี้จึงมั่นใจปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ จะมียอดขายประมาณ 14,000 คันต่อเดือน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทาย กับตัวเลขการประเมินตลาดรถปีนี้ไม่เกิน 9 แสนคัน แต่หากตลาดกลับมาที่ระดับ 1 ล้านคันต่อปี คาดว่าจะมียอดขายไฮลักซ์ รีโว่ ไม่ต่ำกว่า 18,000 คันต่อเดือน นอกจากนี้ยังอยากจะแจ้งให้ผู้บริโภครีบตัดสินใจซื้อรถ แม้ปิกอัพใหม่รุ่นนี้จะพยายามทำมาตรฐานมลพิษปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ไม่เกิน 200 กรัม ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ แต่ก็มีปิกอัพบางรุ่นอย่างสมาร์ทแค็บที่จะต้องปรับราคาขึ้นในปีหน้า ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เพิ่มเป็น 5% จากปัจจุบัน 3% นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถในช่วงครึ่งหลังปีนี้” นายทานาดะ กล่าว
สำหรับปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตสำคัญ คาดว่าจะผลิตรองรับตลาดในประเทศและส่งออกไม่ต่ำกว่า 5-6 แสนคัน และหากรวมการผลิตรถยนต์ในโครงการ IMV ที่มีรถอเนกประสงค์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และโตโยต้า อินโนวา(ผลิตที่อินโดนีเซีย) จะมีรถส่งออกกว่า 100 ประเทศ ทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งเฉพาะปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 96% จากเดิมประมาณ 93% ปิกอัพรุ่นใหม่จึงแทบจะใช้ผลิตในไทยเกือบ 100% ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ วางเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล บล็อกใหม่ GD ขนาด 2.8 ลิตร และ 2.4 ลิตร ที่ให้สมรรถนะแรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันดีกว่าเดิม 10% และยังมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบตัวถัง 33 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นมาตรฐาน หรือปิกอัพตอนเดียว ราคาเริ่ม 5.69-6.75 แสนบาท รุ่นสมาร์ทแค็บราคา 6.19-8.99 แสนบาท และรุ่นดับเบิลแค็บ หรือปิกอัพ 4 ประตู ราคา 7.25 แสนบาท จนถึง 1.139 ล้านบาท