ASTV ผู้จัดการรายวัน – โตโยต้าแนะนำรถอเนกประสงค์พีพีวีรุ่น “ฟอร์จูนเนอร์” โฉมใหม่สู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก เปิดราคา 1.199-1.599 ล้านบาท เชื่อช่วยกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะก่อนปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ปีหน้า ที่จะดันราคารถพีพีวี-เอยูวีปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ขณะที่ “มาสด้า-เชฟโรเลต” เฝ้าจับตา! หวั่นตลาดรถอเนกประสงค์จะกระทบจากอัตราภาษีใหม่
นายอาคิโตะ ทาจิบานะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าได้แนะนำรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีรุ่น “ฟอร์จูนเนอร์” เจนเนอเรชั่นที่ 1 ภายใต้โครงการ IMV สู่ตลาดเมื่อปี 2548 มียอดจำหน่ายในไทยและรวมทั่วโลกกว่า 2.2 แสนคัน และล่าสุดโตโยต้าได้แนะนำรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่2 ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลก ภายใต้แนวคิดยนตรกรรมอเนกประสงค์ตัวจริง ด้วยรูปลักษณ์ใหม่พร้อมความมั่นใจในทุการขับขี่
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 และ 2.4 ลิตร รวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1.199-1.599 ล้านบาท เทียบกับรุ่นเดิมปรับขึ้นประมาณ 1-1.5 แสนบาท ตามอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา ไม่ใช่ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่ต้องปรับขึ้นอีกขั้นต่ำ 5%(แล้วแต่ค่าการปล่อย CO2) ซึ่งจะเริ่มใช้ในตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
“นับเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่จะซื้อรถในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพราะมีการประเมินว่ารถกลุ่มเอสยูวีและพีพีวี จะต้องปรับราคาขึ้นประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป หลังจากเริ่มบังคับใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ส่วนผลกระทบหลังจากปรับภาษีใหม่ต้องประเมินกันต่อไปในปีหน้า แต่น่าจะส่งผลให้เกิดการเร่งซื้อรถกลุ่มนี้ในช่วงปลายปีนี้แน่นอน โดยโตโยต้าตั้งเป้าจำหน่ายรุ่นฟอร์จูนเนอร์ใหม่ไว้ที่ประมาณ 2,600 คันต่อเดือน และเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้พอสมควร ซึ่งตลาดรถพีพีวีอยู่ที่ประมาณ 4-4.5 หมื่นคันต่อปี”
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรถในครึ่งปีหลังน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น เพราะมีรถรุ่นใหม่ๆ ในเซกเม้นท์หลักเปิดตัวสู่ตลาดหลายรุ่น เมื่อผสานกับการส่งออกที่น่าจะดีขึ้น จากอัตราค่าเงินปรับตัวอ่อนตัวลง การอัดฉีดเม็ดเงินของภาครัฐเข้าสู่ระบบมากขึ้น ผู้บริโภคเร่งซื้อรถบางประเภท ก่อนจะมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ในปีหน้า
“โดยเฉพาะกลุ่มรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีและพีพีวี ที่น่าจะปรับราคาขึ้นประมาณ 1 แสนบาท หลังมีปรับอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคเร่งซื้อรถในกลุ่มนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ในปีหน้าคงจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว”
นายมาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย (GM)และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มบริการทั้งก่อนการขาย ระหว่างซื้อ และหลังการขาย ภายใต้โปรแกรม “เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์” เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ในสภาวะที่ช่วงนี้ตลาดชะลอตัวอย่างมาก และหลังจากกลุ่มบริษัทฯ ในไทย ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเน้นในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิกอัพและรถอเนกประสงค์เอสยูวี
“แต่สิ่งหนึ่งที่เรากำลังเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด คือการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ปิกอัพบางรุ่น และโดยเฉพาะรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี-พีพีวี ต้องปรับราคาขึ้นตามอัตราภาษีใหม่ แต่จะมากน้อยหรือส่งผลกระทบต่อตลาดรถกลุ่มนี้แค่ไหน เรากำลังศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือนี้ถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค ที่จะเร่งซื้อรถก่อนปรับราคาตามอัตราภาษีใหม่ในปีหน้า” นายเพอร์ตี้กล่าว
นายอาคิโตะ ทาจิบานะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้าได้แนะนำรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีรุ่น “ฟอร์จูนเนอร์” เจนเนอเรชั่นที่ 1 ภายใต้โครงการ IMV สู่ตลาดเมื่อปี 2548 มียอดจำหน่ายในไทยและรวมทั่วโลกกว่า 2.2 แสนคัน และล่าสุดโตโยต้าได้แนะนำรุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่2 ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลก ภายใต้แนวคิดยนตรกรรมอเนกประสงค์ตัวจริง ด้วยรูปลักษณ์ใหม่พร้อมความมั่นใจในทุการขับขี่
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 และ 2.4 ลิตร รวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 1.199-1.599 ล้านบาท เทียบกับรุ่นเดิมปรับขึ้นประมาณ 1-1.5 แสนบาท ตามอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามา ไม่ใช่ตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่ต้องปรับขึ้นอีกขั้นต่ำ 5%(แล้วแต่ค่าการปล่อย CO2) ซึ่งจะเริ่มใช้ในตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป
“นับเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่จะซื้อรถในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพราะมีการประเมินว่ารถกลุ่มเอสยูวีและพีพีวี จะต้องปรับราคาขึ้นประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป หลังจากเริ่มบังคับใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ส่วนผลกระทบหลังจากปรับภาษีใหม่ต้องประเมินกันต่อไปในปีหน้า แต่น่าจะส่งผลให้เกิดการเร่งซื้อรถกลุ่มนี้ในช่วงปลายปีนี้แน่นอน โดยโตโยต้าตั้งเป้าจำหน่ายรุ่นฟอร์จูนเนอร์ใหม่ไว้ที่ประมาณ 2,600 คันต่อเดือน และเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้พอสมควร ซึ่งตลาดรถพีพีวีอยู่ที่ประมาณ 4-4.5 หมื่นคันต่อปี”
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรถในครึ่งปีหลังน่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น เพราะมีรถรุ่นใหม่ๆ ในเซกเม้นท์หลักเปิดตัวสู่ตลาดหลายรุ่น เมื่อผสานกับการส่งออกที่น่าจะดีขึ้น จากอัตราค่าเงินปรับตัวอ่อนตัวลง การอัดฉีดเม็ดเงินของภาครัฐเข้าสู่ระบบมากขึ้น ผู้บริโภคเร่งซื้อรถบางประเภท ก่อนจะมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ในปีหน้า
“โดยเฉพาะกลุ่มรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีและพีพีวี ที่น่าจะปรับราคาขึ้นประมาณ 1 แสนบาท หลังมีปรับอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ส่งผลให้ผู้บริโภคเร่งซื้อรถในกลุ่มนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ในปีหน้าคงจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว”
นายมาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย (GM)และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มบริการทั้งก่อนการขาย ระหว่างซื้อ และหลังการขาย ภายใต้โปรแกรม “เชฟโรเลต คอมพลีต แคร์” เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ในสภาวะที่ช่วงนี้ตลาดชะลอตัวอย่างมาก และหลังจากกลุ่มบริษัทฯ ในไทย ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเน้นในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิกอัพและรถอเนกประสงค์เอสยูวี
“แต่สิ่งหนึ่งที่เรากำลังเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด คือการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ปิกอัพบางรุ่น และโดยเฉพาะรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี-พีพีวี ต้องปรับราคาขึ้นตามอัตราภาษีใหม่ แต่จะมากน้อยหรือส่งผลกระทบต่อตลาดรถกลุ่มนี้แค่ไหน เรากำลังศึกษาและรอความชัดเจนจากภาครัฐในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือนี้ถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค ที่จะเร่งซื้อรถก่อนปรับราคาตามอัตราภาษีใหม่ในปีหน้า” นายเพอร์ตี้กล่าว
