xs
xsm
sm
md
lg

GPSCดิ่ง!ปิดต่ำจอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – นักลงทุนผิดหวัง หุ้นGPSC เปิดเทรดวันแรกต่ำจอง “นพดล”เผยไม่กังวลชี้เห็นหุ้นที่เหมาะลงทุนระยะยาว ตั้งเป้าปีนี้มีกำไรทะลุ 2 พันล้านบาท พุ่งพรวดจากปีก่อน จากกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1.4พันเมกะวัตต์ในสิ้นปีนี้ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศกว่า 100เมกะวัตต์คาดมีข้อสรุปครึ่งปีหลัง รวมทั้งจับมือพันธมิตรท้องถิ่นจ่อยื่นประมูลสร้างโรงไฟฟ้าที่อินโดนีเซีย

วานนี้ (18 พ.ค.) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำและสาธารณูปโภคขนาดกลางในกลุ่มปตท. ได้เข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)เป็นวันแรก เปิดเทรดอยู่ที่ 26.25 บาท/หุ้น ลดลง 0.75 บาท จากราคาขายเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งแรก (IPO)ที่ 27.00 บาท/หุ้น และปิดตลาดที่ 26 บาท ลดลง 1 บาท หรือ 3.70% ระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 27.25 บาท ต่ำสุดที่ 26 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,583,238 ล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) กล่าวว่า ไม่กังวลที่ราคาหุ้นGPSC ที่ต่ำกว่าจองเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของหุ้นขนาดใหญ่ โดยPGSC เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าที่ไม่ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันต่างจากบริษัทในเครือปตท. และมีความมั่นคงด้านรายได้และกำไร จึงเป็นหุ้นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความผันผวนจากราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ GPSC ยังโครงการลงทุนต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าอีกมากจึงเป็นช่องทางให้บริษัทขยายตัว

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โตจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,581 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าใหม่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำลังผลิตรวมอยู่ที่ 1,400 เมกะวัตต์จากปัจจุบัน 1,300เมกะวัตต์ โดยไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 444.6% จากช่วงเดียวกันที่มีกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าศรีราชามีดำเนินการเต็มกำลังผลิต ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้เต็มปีจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่โรงไฟฟ้าศรีราชามีการหยุดซ่อมบำรุง และยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้นจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ร่วมลงทุนซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทุกโรงในไตรมาสแรกปี 2558

ส่วนราคาหุ้น GPSC ที่เทรดซื้อขายวันแรกต่ำจองนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะเป็นหุ้นที่เหมาะสมในการลงทุนระยะยาวซึ่งจะสะท้อนมูลค่าผลการดำเนินงาน ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุน เพราะบริษัทมีความมั่นคงด้านรายได้ โดยไตรมาสแรกกำไรเติบโต 400% เพราะผลประกอบการไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ ซึ่งมีแผนจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งแรกปี 2558

นายนพดล กล่าวต่อไปว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนเพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อโรงไฟฟ้า 2 แห่งทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นกำลังการผลิตรวมกว่า 100 เมกกะวัตต์ คาดได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 500 เมกกะวัตต์โดยจะเริ่มทยอยจำหน่ายไฟฟ้าภายใน 2-3 ปี โดยในปี 2563 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2,900เมกกะวัตต์

“บริษัทสนใจซื้อโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอยู่ระหว่างเจรจา 2 โครงการ รวมทั้งจะลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ โรงไฟฟ้าไบโอแมส 1-2 โรงในภาคใต้อยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปไตรมาส 3 นี้รวมทั้งลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงออาทิตย์ที่ญี่ปุ่น ส่วนอินโดนีเซียอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเข้าประมูลสร้างโรงไฟฟ้าSPP และIPPที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง รวมทั้งยังสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าที่สปป.ลาวและเมียนมาร์ด้วย“

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเดือนนี้ บริษัทเตรียมลงนามสัญญา 2-3 โครงการโดยหนึ่งในนั้นเป็นการลงนามกรอบความร่วมมือกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)เพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคป้อนให้กับโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ของกลุ่มปตท.ที่ประเทศเวียดนาม

ก่อนหน้านี้ GPSC ได้ทำสัญญาซื้อขายสาธารณูปโภคกับบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด เพื่อจ่ายให้กับโรงงานฟีนอล แห่งที่ 2 อายุสัญญา 15ปี เริ่มจ่ายไฟ 11.5เมกะวัตต์ ไอน้ำ 130 ตัน/ชั่วโมง และน้ำอุตสาหกรรม34 ลบ.ม./ชั่วโมง

***ปตท.ลุ้นQ2มีกำไรสต็อกน้ำมัน

นายไพรินทร์ กล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาส2/2558 ของบริษัท ปตท. น่าจะพลิกกลับมามีกำไรจากสต็อกน้ำมันหากราคาน้ำมันดิบยืนอยู่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยแนวโน้มราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เห็นได้จากผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่วงการน้ำมันโลกเริ่มควบรวมกิจการ หรือซื้อกิจการ

ส่วนการนำธุรกิจน้ำมันและนอนออยล์เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น ขณะนี้ปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการบริษัท ฯคาดว่าภายในปีนี้มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ส่วนการนำ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ น่าจะยื่นไฟลิ่งในช่วงครึ่งปีหลัง และเข้าซื้อขายได้ภายในปีนี้ตามแผนอย่างแน่นอน

ด้านโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในประเทศเวียดนามที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะถูกเลื่อนไปไม่มีกำหนดนั้น ไม่เป็นความจริง โครงการดังกล่าวยังเดินหน้าต่อ มีการเจรจาร่วมกับพันธมิตรอยู่ ขณะเดียวกันทางรัฐบาลเวียดนามได้เร่งรัดเพื่อให้เกิดการลงทุน ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าพันธมิตรร่วมทุนเวียดนามแล้ว

ส่วนข้อเสนอให้ใช้ปั๊มปตท.ที่มีอยู่กว่าพันแห่งทั่วประเทศมาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 80 บาทนั้น ยังไม่ได้มีการเสนอต่อภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว หากรัฐสนใจก็มาเจรจากันได้ในรายละเอียด
กำลังโหลดความคิดเห็น