"โกหนุ่ย" เจ้าของแพปลามอบตัวคดีหัวโจกค้ามนุษย์จ.ระนอง ปฏิเสธทุกข้อหา ขณะ"โกโต้งเจ้าพ่อหลีเป๊ะ"เผ่นซุกลังกาวีแล้ว แต่เจอตรวจเกาะส่วนตัวกลางอันดามัน พบหลุมศพปริศนา 19 หลุม ผบช.ภ. 9 นำหมายเข้าตรวจยึด ส่งปปง.อายัดทรัพย์สิน-เอกสารสิทธิตรวจสอบที่มา ล่าสุดพบชาวโรฮีนจาอีก 26 คนบนเขาแก้ว ถูกนายหน้าทิ้งกลางป่า 14 วัน มีเพียงเมล็ดมะขามสำยังชีพ "สมยศ"สั่งสอบย้อนหลัง 2 ปีบัญชีส่วยระบุ 5 นายพลเอี่ยว จ่อเซ็นเด้งเพิ่ม 10 นาย
บ่ายวานนี้(11 พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ร่วมแถลงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจาว่า นายสุวรรณ แสงทอง อายุ 66 ปี หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลาในจ.ระนอง และตัวการใหญ่ขบวนการค้ามนุษย์จ.ระนอง เข้ามอบตัว หลังจากถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่นายสุวรรณให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
"โกหนุ่ย"เมืองระนองมอบตัวแต่"โกโต้ง"สตูลเผ่น
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ล่าสุดออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 50 คน ควบคุมตัวได้ 17 คน ยังหลบหนี 33 คน รายล่าสุดที่ออกหมายจับ คือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สตูล และเจ้าของธุรกิจรีสอร์ท เรือท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการในจ.สตูล มีเครือข่าย 5 กลุ่ม จำนวน 29 คน ถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว โดยนำชาวโรฮีนจาและบังคลาเทศเข้ามาแล้วส่งไปประเทศมาเลเซีย ขณะนี้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
"วันเดียวกันนี้ยังได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในจ.สตูล รวม 15 จุดที่อยู่ในเครือข่ายโกโต้ง ทั้งบ้านโกโต้ง รีสอร์ท และบ้านเครือข่าย โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลโต๊ะดิน ซึ่งมีหมายจับเดิมอยู่แล้ว ประกอบด้วย นายมาเลย์ โต๊ะดิน นายเจ๊ะอาด โต๊ะดิน นายอนุ โต๊ะดิน นายสุชาติ โต๊ะดิน นายซำซูดิน โต๊ะดิน นายรอสัก โต๊ะดิน"
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า จะจัดเจ้าหน้าที่ชุดกินรี ซึ่งเป็นตำรวจหญิงลงพื้นที่เป้าหมายที่พบกลุ่มผู้อพยพ ทั้งอ.รัตภูมิ อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา เพื่อขอความร่วมมือให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแสผู้อพยพมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สายด่วน 1300 หรือโทร. 074-258-444 , 074-257-990
สภ.ปาดังเบซาร์นำ2ผู้ต้องหาฝากขัง-ค้านประกัน
ด้านตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ควบคุมตัวนายสมยศ อังโชติพันธุ์ อายุ 45 ปี นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และนายอาบู ฮะอุรา ส.อบจ.สตูล เขตอ.ควนโดน ไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดนาทวี เป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเรียกค่าไถ่
โดยนายอาบูหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 10 พ.ค. เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขัง ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สามารถเชื่อมโยงไปถึงขบวนการได้ทั้งหมด เนื่องจากนายอาบูอยู่ในระดับหัวหน้าขบวนการจ.สตูล รองจากนายปัจจุบัน ส่วนนายสมยศเป็นหลานของนายปัจจุบัน ช่วยดูแลกิจการบนเกาะหลีเป๊ะ
บุกเกาะส่วนตัวอันดามันพบ19หลุมศพปริศนา
เดียวกัน ชุดปฏิบัติการจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 นำกำลัง 30 นาย พร้อมเรือ ต. 214 ออกตรวจตามเกาะแก่งในทะเลอันดามัน ท้องที่จ.สตูล โดยเฉพาะเกาะส่วนตัวของนายปัจจุบัน ประกอบด้วย เกาะแรดใหญ่ เกาะปาหนัน และเกาะเลตงซึ่งเป็นเกาะสัมปทานรังนก เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติที่เกาะแรดใหญ่ หมู่ 2 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว คนงานเฝ้าเกาะอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ไม่มีชาวบ้านหรือชาวเลอาศัยอยู่ บนเกาะเป็นที่ตั้งหลุมฝังศพบรรพบุรุษตระกูลอังโชติพันธุ์ และไม่ห่างกันมากนักยังพบหลุมศพ 9 หลุม และห่างออกไปอีก 10 หลุม ทางทหารเห็นว่ามีความผิดปกติ เพราะคนงานเฝ้าเกาะอ้างว่าเป็นศพของลูกหลานตระกูลอังโชติพันธุ์ แต่กลับไม่มีสัญลักษณ์ระบุบนหลุมว่าเป็นใคร นอกจากนี้บนเกาะยังเลี้ยงกวางกว่า 20 ตัว รวมถึงแพะและวัวจำนวนมาก
สำหรับนายปัจจุบันมีฉายาว่า "เจ้าพ่อเกาะหลีเป๊ะ" หลังจากถูกออกหมายจับได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านชั่วคราว โดยรายงานข่าวแจ้งว่ารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะถูกออกหมายจับ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับนายตำรวจระดับสูง เพราะเป็นผู้ให้การต้อนรับเมื่อเดินทางมาผักผ่อนที่เกาะหลีเป๊ะ โดยมีเรือยอร์ชให้บริการรับ-ส่ง และมีรีสอร์ตที่เกาะหลีเป๊ะไว้บริการนายตำรวจระดับสูงทุกสุดสัปดาห์
ผบช.ภ.9นำทีมตจรวจยึดทรัพย์สิน-ส่งปป.สอบต่อ
ต่อมา พล.ต.ท.มนตรี โปรตะนันท์ ผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผบช.ภ. 9 รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.สตูล พร้อมกำลัง 30 นาย ตรวจสอบบนเกาะปอหรือเกาะแรดใหญ่ พร้อมนำหมายเข้าทำการตรวจยึด โดยให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐาน ปักหมุดทำสัญลักษณ์ สอบปากคำคนงาน 3 คน พร้อมเร่งประสานอำเภอเมืองให้ตรวจสอบทะเบียนราษฏรว่าศพที่ฝังไว้เป็นใครภายใน 7 วัน หลังพบว่าไม่แสดงชื่อของผู้เสียชีวิตบนหลุมศพ
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า จากการตรวจหลุมฝังศพพบว่าต่างจากที่เขาแก้ว ซึ่งจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอตรวจทะเบียนราษฎรให้ชัดเจน พร้อมทั้งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบที่มา เอกสารสิทธิการครอบครองพื้นที่เกาะ
เจออีกโรฮีนจา26ชีวิตหิวโซ-ถูกทิ้งกลางป่า14วัน
ขณะที่ความคืบหน้าการค้นหากลุ่มชาวโรฮีนจาบนเทือกเขาแก้ว รอยต่ออ.หาดใหญ่ กับอ.รัตภูมิ จ.สงขลา ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ และฝ่ายปกครองตำบลฉลุง พบกลุ่มชาวโรฮีนจา 26 คน ขณะเดินอยู่ในสวนยางพารา บ้านหน้าควน หมู่ 2 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ เป็นชาย 17 คน หญิง 9 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กชาย 6 คน และเด็กหญิง 3 คน ทั้งหมดอยู่ในสภาพอ่อนล้า หิวโซ มีเพียงเมล็ดมะขามสำหรับดำรงชีพ สอบถามทราบว่าจะเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกนายหน้าลอยแพ และพลัดหลงอยู่ในป่ามา 14 วันแล้ว เบื้องต้นได้นำไปพักไว้ที่มัสยิดบ้านหน้าควน ก่อนที่จะส่งตัวไปยังอำเภอหาดใหญ่เพื่อคัดแยกและช่วยเหลือต่อไป
วันเดียวกันตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ นำชาวโรฮีนจา 15 คนที่พบบนเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ จุดเริ่มต้นของคดีค้ามนุษย์ ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในนิคมสร้างตนเองอ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังสอบสวนเสร็จแล้วและแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งบางคนอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมาน เนื่องจากกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้ ต้องพยุงและแบกไปขึ้นรถตู้ นอกจากนี้ยังมีหญิงชาวโรฮีนจากชุดเดียวกัน 5 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ จากอาการป่วยระหว่างที่รอนแรมอยู่กลางป่า
เผยค้นบ้านนายกเมืองปาดังเบซาร์เจอบัญชีส่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ชุดสืบสวนตรวจค้นบ้านนายบรรจง ปองผล นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ และเครือข่าย 5 จุด ได้ยึดบัญชีการจ่ายส่วยให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สลิปการโอนเงินให้บุคคลต่างๆตั้งแต่ปี 2556 ทำให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้สวนสอบคดีค้ามนุษย์โรฮินจาย้อนหลัง 2 ปี ทำให้มีตำรวจตั้งแต่ระดับรองผกก. ผบก.ภ.จว. และที่สูงกว่าไม่ต่ำกว่า 20 คนต่างตรวจสอบข่าวกันวุ่น
โดยระดับนายพลที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบอยู่ในภาค 9 จำนวน 3 นาย และภาค 8 จำนวน 2 นาย ซึ่งเป็นการตรวจสอบทางลับ เนื่องจากบัญชีส่วยหลายรายใช้ชื่อเล่น เช่น "รองจ๊อด" , "นายพลติ๊ก" เป็นต้น แต่เชื่อได้ว่ารับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ ส่วนระดับพ.ต.ท.ถึงพ.ต.อ.เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ประมาณ 10 นาย ที่เหลือเป็นตำรวจภูธร และฝ่ายปกครอง 4-5 คน บางคนย้ายไปอยู่ที่อื่น บางคนเกษียณอายุราชการแล้ว
สองขาใหญ่สตูลเป็นกระเป๋าเงินฝ่ายปกครอง-ตร.
ทั้งนี้ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกอบจ.สตูล และนายมาเลย์ โต๊ะดิน นายกเทศมนตรีตำบลปูยู อ.เมือง จ.สตูล ต่างเป็นกระเป๋าเงินให้กับฝ่ายปกครองในการเอนเตอร์เทนผู้หลักผู้ใหญ่ที่ลงมาในพื้นที่ ทำให้เป็นที่เกรงใจของเจ้าหน้าที่ระดับสูง
ลุยแคมป์พม่าชุมพรพบเป็นบ้านร้างป่าอนุรักษ์
ส่วนจ.ชุมพร พ.ต.ต.วิลสศ หนูเอียด สวป.สภ.เมือง ร.ต.อ.ฐาปกรณ์ ชูละเอียด หน.นปพ.ภ.จว.ชุมพร นายสกล เอกบุตร หน.หน่วยชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 45 ชุมพร กรมป่าไม้ นายสมศักดิ์ รักขันโท ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง สนธิกำลังกับร.ต.ธีระพร บุญซื่อ รองหัวหน้าชุดประสานงาน กองร้อยจังหวัดทหารบกชุมพร นำกำลังกว่า 30 นาย พร้อมผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมา ที่ถูกนายหน้าพามาทิ้งกลางป่า 3 คนซึ่งพูดไทยได้ชัดเจนเป็นล่าม และนำยังแคมป์ที่นายหน้านำมาพัก และข่มขืนหญิงพม่า 5 คน
โดยเจ้าหน้าที่ขับรถไปตามถนนเพชรเกษม ถึงเขตรอยต่อจ.ระนอง นำรถยนต์เข้าไปจอดในสวน แล้วเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 500 เมตร พบบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยไม้อย่างดี หลังคามุงกระเบื้อง แต่ไม่มีคนอยู่ ทราบภายหลังว่าเป็นของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจสร้างไว้ แต่เจ้าตัวไปอยู่บ้านที่กรุงเทพมหานคร จึงปล่อยทิ้งร้าง โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-ท่าสาร หมู่ 8 บ้านในง่วม ต.บ้านนา ซึ่งชาวเมียนม่าทั้ง 3 คนยืนยันว่าเป็นแคมป์พักรอการส่งขึ้นรถกระบะไปส่งจังหวัดภาคใต้และประเทศมาเลเซีย แต่ระยะหลังถูกทางการกดดันอย่างหนัก ไม่สามารถออกไปได้จึงถูกนายหน้าหลอกพาขึ้นไปปล่อยทิ้งไว้ในป่ากลางหุบเขา
เหยื่อชี้ภาพหน.แก๊งคนไทย-เตรียมออกหมายจับ
จากการสำรวจภายในบ้านมี 2 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว มีเสื้อผ้าเครื่องใช้บางส่วนของชาวต่างด้าว และถุงเสบียงใส่อาหารทิ้งไว้หลายจุด มีเครื่องนุ่งห่ม กางเกงชั้นในทิ้งไว้ในป่าละเมาะจำนวนมาก
ชาวเมียนม่าทั้ง 3 คนยังได้ชี้จุดที่นายหน้าชาวไทยพร้อมพวกรวม 6 คน ใช้ปืนและมีดพกบังคับหญิงสาวเพื่อนร่วมชาติ 5 คนไปข่มขืนในห้องน้ำานร้างอีกหลังที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร บางคนที่หน้าตาดีจะถูกวียนข่มขืนหลายครั้ง ส่วนที่มีทรัพย์สินมีค่าก็จะถูกบังคับเอาไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพประกอบเป็นหลักฐาน เพื่อขยายผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดี
พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมือง กล่าวว่า ได้สอบปากคำชาวต่างด้าว และรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีการชี้ตัวยืนยันภาพถ่ายหัวหน้าแก๊งคนไทยที่ มีประวัติพัวพันการค้ามนุษย์ เป็นคนในจ.ชุมพร พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ ชาวเมียนมาชุดดังกล่าว 75 คนถูกนายหน้าค้ามนุษย์พามาจากบ้านหมาราง ประเทศเมียนมา ข้ามแม่น้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นเดินเท้า 3 วัน 3 คืนมาตามป่าเขา เพื่อเลี่ยงด่านตรวจทหารบนถนนเพชรเกษม เขตรอยต่อจ.ระนอง-จ.ชุมพร มาพักในแคมป์กลางป่าหมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง แต่หลังถูกทางการกดดันอย่างหนักจึงปล่อยทิ้งไว้ในป่ากลางหุบเขาหลายวันจนหิวโซ พากันลงมาขอข้าวชาวบ้านกิน จนทหารเข้าไปช่วยเหลือ
"สมยศ"จ่อเด้งอีก10นาย-ถกบิ๊กตร.มาเลย์แก้ปัญหา
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่าจะเสนอรายชื่อตำรวจ 10 นาย ที่อาจพัวพันกับขบวนการให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อให้สืบสวนสอบสวนคดีได้อย่างไม่มีข้อขัดข้อง ส่วนความผิดของทั้ง 10 นายต้องถามพล.ต.อ.เอก แต่เชื่อว่ามีการกลั่นกรองมาอย่างดีแล้วว่ามีผลกระทบกับการทำงานของชุดสืบสวน ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะจเรตำรวจแล้ว พบว่าไม่มีความผิดก็จะคืนความชอบธรรมให้
"ปัญหาการค้าชาวโรฮีนจาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางข้อมูลไม่สามารถพูดได้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ แต่ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าประเทศไทยไม่ใช่ปลายทางของชาวโรฮีนจา เป็นแค่ทางผ่าน และปัญหาการค้ารฮีนจาไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทย แต่เกี่ยวเนื่องกับต้นทาง กลางทาง และปลายทาง คือ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งวันที่ 11-14 พ.ค.ผมจะไปพบอธิบดีกรมตำรวจแห่งมาเลเซีย เพื่อหารือวิธีการแก้ปัญหาที่จ.ภูเก็ต ว่าจะช่วยกันได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ขบวนการค้าโรฮีนจาหมดไป"
ชี้ปัญหาใหญ่จัดค่ายให้ หวั่นทะลักเข้ามาไม่หยุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจนอกวาระหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ ตอบว่า ต้องมีแน่นอน ได้มีการพุดคุยนอกรอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์มีคำแนะนำว่าตำรวจคนใดเกี่ยวข้องให้ย้ายออกนอกนอกจังหวัด หากไม่มีส่วนรู้เห็นใดแต่ปล่อยปละละเลย ต้องย้ายออกนอกพื้นที่แต่ไม่ถึงขั้นออกนอกเมือง ส่วนที่มีหลักฐานชัดเจนต้องดำเนินคดีอาญาด้วย เช่น ร.ต.ท.มงคล สุโร รองสวป.ตชด. 43 และด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผบ.หมู่(ป.)สภ.ปาดังเบซาร์ ซึ่งได้มีคำสั่งให้ภาค 8 และภาค 9 สั่งออกจากราชการไปแล้ว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวโรฮีนจา คือ ปัญหาใหญ่ของไทย เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ ปัญหา คือ ประเทศเมียนมาไม่รับเป็นประชากรของเขา ถ้าจะผลักดันกลับไปก็เป็นเรื่องยาก หรือจะผลักดันไปประเทศปลายทาง ถ้าเปิดเผยเขาก็ไม่รับ ปัญหาขอไทย คือ เราอยู่ตรงกลาง จะทำอย่างไร ต้องดูแลหรือไม่ เมื่อไม่ดูแลแล้วเขาจะไปไหน เบื้องต้นพูดคุยกันว่าจะให้มีค่ายหรือที่พักเพื่อมนุษยธรรม แต่ผลอีกด้านหากจัดให้มีสถานที่แบบนี้ ชาวโรฮีนจาก็จะหลั่งไหลกันเข้ามาเรื่อยๆ ปัญหาก็ตกอยู่ที่ประเทศไทย ต้องจัดสรรงบประมาณมาดูแล รวมถึงโรคภัยที่จะติดมากับชาวโรฮีนจาด้วย
บ่ายวานนี้(11 พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ร่วมแถลงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮีนจาว่า นายสุวรรณ แสงทอง อายุ 66 ปี หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลาในจ.ระนอง และตัวการใหญ่ขบวนการค้ามนุษย์จ.ระนอง เข้ามอบตัว หลังจากถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ แต่นายสุวรรณให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
"โกหนุ่ย"เมืองระนองมอบตัวแต่"โกโต้ง"สตูลเผ่น
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ล่าสุดออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 50 คน ควบคุมตัวได้ 17 คน ยังหลบหนี 33 คน รายล่าสุดที่ออกหมายจับ คือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สตูล และเจ้าของธุรกิจรีสอร์ท เรือท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการในจ.สตูล มีเครือข่าย 5 กลุ่ม จำนวน 29 คน ถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว โดยนำชาวโรฮีนจาและบังคลาเทศเข้ามาแล้วส่งไปประเทศมาเลเซีย ขณะนี้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
"วันเดียวกันนี้ยังได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในจ.สตูล รวม 15 จุดที่อยู่ในเครือข่ายโกโต้ง ทั้งบ้านโกโต้ง รีสอร์ท และบ้านเครือข่าย โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลโต๊ะดิน ซึ่งมีหมายจับเดิมอยู่แล้ว ประกอบด้วย นายมาเลย์ โต๊ะดิน นายเจ๊ะอาด โต๊ะดิน นายอนุ โต๊ะดิน นายสุชาติ โต๊ะดิน นายซำซูดิน โต๊ะดิน นายรอสัก โต๊ะดิน"
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า จะจัดเจ้าหน้าที่ชุดกินรี ซึ่งเป็นตำรวจหญิงลงพื้นที่เป้าหมายที่พบกลุ่มผู้อพยพ ทั้งอ.รัตภูมิ อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา เพื่อขอความร่วมมือให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแสผู้อพยพมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สายด่วน 1300 หรือโทร. 074-258-444 , 074-257-990
สภ.ปาดังเบซาร์นำ2ผู้ต้องหาฝากขัง-ค้านประกัน
ด้านตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ควบคุมตัวนายสมยศ อังโชติพันธุ์ อายุ 45 ปี นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล และนายอาบู ฮะอุรา ส.อบจ.สตูล เขตอ.ควนโดน ไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดนาทวี เป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเรียกค่าไถ่
โดยนายอาบูหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 10 พ.ค. เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบสวนกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขัง ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สามารถเชื่อมโยงไปถึงขบวนการได้ทั้งหมด เนื่องจากนายอาบูอยู่ในระดับหัวหน้าขบวนการจ.สตูล รองจากนายปัจจุบัน ส่วนนายสมยศเป็นหลานของนายปัจจุบัน ช่วยดูแลกิจการบนเกาะหลีเป๊ะ
บุกเกาะส่วนตัวอันดามันพบ19หลุมศพปริศนา
เดียวกัน ชุดปฏิบัติการจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 นำกำลัง 30 นาย พร้อมเรือ ต. 214 ออกตรวจตามเกาะแก่งในทะเลอันดามัน ท้องที่จ.สตูล โดยเฉพาะเกาะส่วนตัวของนายปัจจุบัน ประกอบด้วย เกาะแรดใหญ่ เกาะปาหนัน และเกาะเลตงซึ่งเป็นเกาะสัมปทานรังนก เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติที่เกาะแรดใหญ่ หมู่ 2 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัว คนงานเฝ้าเกาะอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ไม่มีชาวบ้านหรือชาวเลอาศัยอยู่ บนเกาะเป็นที่ตั้งหลุมฝังศพบรรพบุรุษตระกูลอังโชติพันธุ์ และไม่ห่างกันมากนักยังพบหลุมศพ 9 หลุม และห่างออกไปอีก 10 หลุม ทางทหารเห็นว่ามีความผิดปกติ เพราะคนงานเฝ้าเกาะอ้างว่าเป็นศพของลูกหลานตระกูลอังโชติพันธุ์ แต่กลับไม่มีสัญลักษณ์ระบุบนหลุมว่าเป็นใคร นอกจากนี้บนเกาะยังเลี้ยงกวางกว่า 20 ตัว รวมถึงแพะและวัวจำนวนมาก
สำหรับนายปัจจุบันมีฉายาว่า "เจ้าพ่อเกาะหลีเป๊ะ" หลังจากถูกออกหมายจับได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านชั่วคราว โดยรายงานข่าวแจ้งว่ารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะถูกออกหมายจับ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับนายตำรวจระดับสูง เพราะเป็นผู้ให้การต้อนรับเมื่อเดินทางมาผักผ่อนที่เกาะหลีเป๊ะ โดยมีเรือยอร์ชให้บริการรับ-ส่ง และมีรีสอร์ตที่เกาะหลีเป๊ะไว้บริการนายตำรวจระดับสูงทุกสุดสัปดาห์
ผบช.ภ.9นำทีมตจรวจยึดทรัพย์สิน-ส่งปป.สอบต่อ
ต่อมา พล.ต.ท.มนตรี โปรตะนันท์ ผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผบช.ภ. 9 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผบช.ภ. 9 รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.สตูล พร้อมกำลัง 30 นาย ตรวจสอบบนเกาะปอหรือเกาะแรดใหญ่ พร้อมนำหมายเข้าทำการตรวจยึด โดยให้ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐาน ปักหมุดทำสัญลักษณ์ สอบปากคำคนงาน 3 คน พร้อมเร่งประสานอำเภอเมืองให้ตรวจสอบทะเบียนราษฏรว่าศพที่ฝังไว้เป็นใครภายใน 7 วัน หลังพบว่าไม่แสดงชื่อของผู้เสียชีวิตบนหลุมศพ
พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า จากการตรวจหลุมฝังศพพบว่าต่างจากที่เขาแก้ว ซึ่งจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอำเภอตรวจทะเบียนราษฎรให้ชัดเจน พร้อมทั้งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบที่มา เอกสารสิทธิการครอบครองพื้นที่เกาะ
เจออีกโรฮีนจา26ชีวิตหิวโซ-ถูกทิ้งกลางป่า14วัน
ขณะที่ความคืบหน้าการค้นหากลุ่มชาวโรฮีนจาบนเทือกเขาแก้ว รอยต่ออ.หาดใหญ่ กับอ.รัตภูมิ จ.สงขลา ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ และฝ่ายปกครองตำบลฉลุง พบกลุ่มชาวโรฮีนจา 26 คน ขณะเดินอยู่ในสวนยางพารา บ้านหน้าควน หมู่ 2 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ เป็นชาย 17 คน หญิง 9 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กชาย 6 คน และเด็กหญิง 3 คน ทั้งหมดอยู่ในสภาพอ่อนล้า หิวโซ มีเพียงเมล็ดมะขามสำหรับดำรงชีพ สอบถามทราบว่าจะเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ถูกนายหน้าลอยแพ และพลัดหลงอยู่ในป่ามา 14 วันแล้ว เบื้องต้นได้นำไปพักไว้ที่มัสยิดบ้านหน้าควน ก่อนที่จะส่งตัวไปยังอำเภอหาดใหญ่เพื่อคัดแยกและช่วยเหลือต่อไป
วันเดียวกันตำรวจสภ.ปาดังเบซาร์ นำชาวโรฮีนจา 15 คนที่พบบนเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ จุดเริ่มต้นของคดีค้ามนุษย์ ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในนิคมสร้างตนเองอ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังสอบสวนเสร็จแล้วและแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งบางคนอยู่ในสภาพที่ทุกข์ทรมาน เนื่องจากกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้ ต้องพยุงและแบกไปขึ้นรถตู้ นอกจากนี้ยังมีหญิงชาวโรฮีนจากชุดเดียวกัน 5 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ จากอาการป่วยระหว่างที่รอนแรมอยู่กลางป่า
เผยค้นบ้านนายกเมืองปาดังเบซาร์เจอบัญชีส่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ชุดสืบสวนตรวจค้นบ้านนายบรรจง ปองผล นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ และเครือข่าย 5 จุด ได้ยึดบัญชีการจ่ายส่วยให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สลิปการโอนเงินให้บุคคลต่างๆตั้งแต่ปี 2556 ทำให้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้สวนสอบคดีค้ามนุษย์โรฮินจาย้อนหลัง 2 ปี ทำให้มีตำรวจตั้งแต่ระดับรองผกก. ผบก.ภ.จว. และที่สูงกว่าไม่ต่ำกว่า 20 คนต่างตรวจสอบข่าวกันวุ่น
โดยระดับนายพลที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบอยู่ในภาค 9 จำนวน 3 นาย และภาค 8 จำนวน 2 นาย ซึ่งเป็นการตรวจสอบทางลับ เนื่องจากบัญชีส่วยหลายรายใช้ชื่อเล่น เช่น "รองจ๊อด" , "นายพลติ๊ก" เป็นต้น แต่เชื่อได้ว่ารับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ ส่วนระดับพ.ต.ท.ถึงพ.ต.อ.เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ประมาณ 10 นาย ที่เหลือเป็นตำรวจภูธร และฝ่ายปกครอง 4-5 คน บางคนย้ายไปอยู่ที่อื่น บางคนเกษียณอายุราชการแล้ว
สองขาใหญ่สตูลเป็นกระเป๋าเงินฝ่ายปกครอง-ตร.
ทั้งนี้ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกอบจ.สตูล และนายมาเลย์ โต๊ะดิน นายกเทศมนตรีตำบลปูยู อ.เมือง จ.สตูล ต่างเป็นกระเป๋าเงินให้กับฝ่ายปกครองในการเอนเตอร์เทนผู้หลักผู้ใหญ่ที่ลงมาในพื้นที่ ทำให้เป็นที่เกรงใจของเจ้าหน้าที่ระดับสูง
ลุยแคมป์พม่าชุมพรพบเป็นบ้านร้างป่าอนุรักษ์
ส่วนจ.ชุมพร พ.ต.ต.วิลสศ หนูเอียด สวป.สภ.เมือง ร.ต.อ.ฐาปกรณ์ ชูละเอียด หน.นปพ.ภ.จว.ชุมพร นายสกล เอกบุตร หน.หน่วยชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 45 ชุมพร กรมป่าไม้ นายสมศักดิ์ รักขันโท ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง สนธิกำลังกับร.ต.ธีระพร บุญซื่อ รองหัวหน้าชุดประสานงาน กองร้อยจังหวัดทหารบกชุมพร นำกำลังกว่า 30 นาย พร้อมผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมา ที่ถูกนายหน้าพามาทิ้งกลางป่า 3 คนซึ่งพูดไทยได้ชัดเจนเป็นล่าม และนำยังแคมป์ที่นายหน้านำมาพัก และข่มขืนหญิงพม่า 5 คน
โดยเจ้าหน้าที่ขับรถไปตามถนนเพชรเกษม ถึงเขตรอยต่อจ.ระนอง นำรถยนต์เข้าไปจอดในสวน แล้วเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 500 เมตร พบบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยไม้อย่างดี หลังคามุงกระเบื้อง แต่ไม่มีคนอยู่ ทราบภายหลังว่าเป็นของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจสร้างไว้ แต่เจ้าตัวไปอยู่บ้านที่กรุงเทพมหานคร จึงปล่อยทิ้งร้าง โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-ท่าสาร หมู่ 8 บ้านในง่วม ต.บ้านนา ซึ่งชาวเมียนม่าทั้ง 3 คนยืนยันว่าเป็นแคมป์พักรอการส่งขึ้นรถกระบะไปส่งจังหวัดภาคใต้และประเทศมาเลเซีย แต่ระยะหลังถูกทางการกดดันอย่างหนัก ไม่สามารถออกไปได้จึงถูกนายหน้าหลอกพาขึ้นไปปล่อยทิ้งไว้ในป่ากลางหุบเขา
เหยื่อชี้ภาพหน.แก๊งคนไทย-เตรียมออกหมายจับ
จากการสำรวจภายในบ้านมี 2 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว มีเสื้อผ้าเครื่องใช้บางส่วนของชาวต่างด้าว และถุงเสบียงใส่อาหารทิ้งไว้หลายจุด มีเครื่องนุ่งห่ม กางเกงชั้นในทิ้งไว้ในป่าละเมาะจำนวนมาก
ชาวเมียนม่าทั้ง 3 คนยังได้ชี้จุดที่นายหน้าชาวไทยพร้อมพวกรวม 6 คน ใช้ปืนและมีดพกบังคับหญิงสาวเพื่อนร่วมชาติ 5 คนไปข่มขืนในห้องน้ำานร้างอีกหลังที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร บางคนที่หน้าตาดีจะถูกวียนข่มขืนหลายครั้ง ส่วนที่มีทรัพย์สินมีค่าก็จะถูกบังคับเอาไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพประกอบเป็นหลักฐาน เพื่อขยายผลจับกุมขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดี
พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมือง กล่าวว่า ได้สอบปากคำชาวต่างด้าว และรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีการชี้ตัวยืนยันภาพถ่ายหัวหน้าแก๊งคนไทยที่ มีประวัติพัวพันการค้ามนุษย์ เป็นคนในจ.ชุมพร พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ ชาวเมียนมาชุดดังกล่าว 75 คนถูกนายหน้าค้ามนุษย์พามาจากบ้านหมาราง ประเทศเมียนมา ข้ามแม่น้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นเดินเท้า 3 วัน 3 คืนมาตามป่าเขา เพื่อเลี่ยงด่านตรวจทหารบนถนนเพชรเกษม เขตรอยต่อจ.ระนอง-จ.ชุมพร มาพักในแคมป์กลางป่าหมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง แต่หลังถูกทางการกดดันอย่างหนักจึงปล่อยทิ้งไว้ในป่ากลางหุบเขาหลายวันจนหิวโซ พากันลงมาขอข้าวชาวบ้านกิน จนทหารเข้าไปช่วยเหลือ
"สมยศ"จ่อเด้งอีก10นาย-ถกบิ๊กตร.มาเลย์แก้ปัญหา
ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ว่าจะเสนอรายชื่อตำรวจ 10 นาย ที่อาจพัวพันกับขบวนการให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อให้สืบสวนสอบสวนคดีได้อย่างไม่มีข้อขัดข้อง ส่วนความผิดของทั้ง 10 นายต้องถามพล.ต.อ.เอก แต่เชื่อว่ามีการกลั่นกรองมาอย่างดีแล้วว่ามีผลกระทบกับการทำงานของชุดสืบสวน ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะจเรตำรวจแล้ว พบว่าไม่มีความผิดก็จะคืนความชอบธรรมให้
"ปัญหาการค้าชาวโรฮีนจาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางข้อมูลไม่สามารถพูดได้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ แต่ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าประเทศไทยไม่ใช่ปลายทางของชาวโรฮีนจา เป็นแค่ทางผ่าน และปัญหาการค้ารฮีนจาไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทย แต่เกี่ยวเนื่องกับต้นทาง กลางทาง และปลายทาง คือ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งวันที่ 11-14 พ.ค.ผมจะไปพบอธิบดีกรมตำรวจแห่งมาเลเซีย เพื่อหารือวิธีการแก้ปัญหาที่จ.ภูเก็ต ว่าจะช่วยกันได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ขบวนการค้าโรฮีนจาหมดไป"
ชี้ปัญหาใหญ่จัดค่ายให้ หวั่นทะลักเข้ามาไม่หยุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจนอกวาระหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ ตอบว่า ต้องมีแน่นอน ได้มีการพุดคุยนอกรอบแล้ว พล.อ.ประยุทธ์มีคำแนะนำว่าตำรวจคนใดเกี่ยวข้องให้ย้ายออกนอกนอกจังหวัด หากไม่มีส่วนรู้เห็นใดแต่ปล่อยปละละเลย ต้องย้ายออกนอกพื้นที่แต่ไม่ถึงขั้นออกนอกเมือง ส่วนที่มีหลักฐานชัดเจนต้องดำเนินคดีอาญาด้วย เช่น ร.ต.ท.มงคล สุโร รองสวป.ตชด. 43 และด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผบ.หมู่(ป.)สภ.ปาดังเบซาร์ ซึ่งได้มีคำสั่งให้ภาค 8 และภาค 9 สั่งออกจากราชการไปแล้ว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวโรฮีนจา คือ ปัญหาใหญ่ของไทย เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ ปัญหา คือ ประเทศเมียนมาไม่รับเป็นประชากรของเขา ถ้าจะผลักดันกลับไปก็เป็นเรื่องยาก หรือจะผลักดันไปประเทศปลายทาง ถ้าเปิดเผยเขาก็ไม่รับ ปัญหาขอไทย คือ เราอยู่ตรงกลาง จะทำอย่างไร ต้องดูแลหรือไม่ เมื่อไม่ดูแลแล้วเขาจะไปไหน เบื้องต้นพูดคุยกันว่าจะให้มีค่ายหรือที่พักเพื่อมนุษยธรรม แต่ผลอีกด้านหากจัดให้มีสถานที่แบบนี้ ชาวโรฮีนจาก็จะหลั่งไหลกันเข้ามาเรื่อยๆ ปัญหาก็ตกอยู่ที่ประเทศไทย ต้องจัดสรรงบประมาณมาดูแล รวมถึงโรคภัยที่จะติดมากับชาวโรฮีนจาด้วย