ชุมพร - พบอีก 46 ต่างด้าวชาวพม่าเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ถูกนายหน้าทิ้งกลางป่าบนยอดเขา อดหิวโซลงมาขอข้าวชาวบ้านกิน แฉนายหน้าโหดพรากเมียกับลูกสาววัย 7 เดือนไปจากสามี เผยมีต่างด้าวชาวพม่าอีกหลายร้อยคนอยู่ที่แคมป์บ้านหมาราง ฝั่งพม่า รอส่งตัวให้แก๊งค้ามนุษย์ฝั่งไทยจัดส่งไปยังจุดหมายปลายทาง ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งสอบด่วน 4 สาวพม่าถูกข่มขืน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (9 พ.ค.) ร.ต.ธีระพร บุญซื่อ รองหัวหน้าชุดประสานงาน กองร้อยจังหวัดทหารบกชุมพร พร้อมด้วย นายยอดชาย ศศิธร หัวหน้าแผนกกำลังพล บก.อส.ชุมพร นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองชุมพร พ.ต.อ.พ.ต.อ.ภคพล ทิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.เสนอ บุบผา รอง ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พร้อมกำลัง 3 ฝ่าย กว่า 50 นาย เดินทางไปสอบสวนชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 46 คน หลังรับแจ้งจากนายสุรินทร์ ทวยนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า ได้มีชาวพม่า จำนวน 46 คน หิวโซลงมาขออาหารชาวบ้านกินประทังชีวิต
ที่เกิดเหตุเมื่อชาวต่างด้าวทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับร้องไห้ และยกมือไหว้ บางคนตัวสั่น ซีดเซียว อิดโรย ท่าทางหวาดกลัว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชาวพม่าทั้งหมดเป็นชาย 41 คน หญิง 6 คน อายุระหว่าง 12-44 ปี เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวพม่าทั้งหมดไปสอบสวนที่ค่ายกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพรที่ 1 พร้อมกับประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการ พร้อมทั้งจัดหาอาหาร น้ำดื่มให้กินประทังความหิวตามหลักสิทธิมนุษยชน
จากการสอบสวนชาวพม่าทั้งหมดทราบว่า ถูกนายหน้าคนไทยพาเข้ามาทำงานในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย 29 คน และส่งต่อไปทำงานในประเทศมาเลเซีย 17 คน เสียค่านายหน้าและค่าใช่จ่ายต่างๆ ทั้งหมดรวมคนละ 7,000 บาท โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่ของประเทศพม่า มาขึ้นเรือที่ชายฝั่งบ้านหมาราง ข้ามแม่น้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ ตำบลปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นมีลูกน้องของนายหน้า 3 คน พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือนำทางพาต่างด้าวทั้งหมดเดินอ้อมลูกเขาหลบเลี่ยงด่านตรวจทหารบริเวณด่านตรวจ จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน แล้วมาพักที่แคมป์ชั่วคราวอยู่กลางหุบเขาป่าอนุรักษ์และป่าสงวนพื้นที่บ้านในง่วม หมู่ที่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร
ปรากฏว่า ระหว่างเดินทางมาถึงแคมป์ที่พักชั่วคราวบ้านในง่วม หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นที่พักรอการส่งขึ้นรถยนต์ไปทำงานยังที่หมายปลายทาง ได้ถูกทางการโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองออกกวดขันปิดเส้นทางกดดันอย่างหนัก ทำให้นายหน้าหลอกพาชาวต่างด้าวทั้งหมดไปทิ้งไว้ในป่าลึกกลางหุบเขา ต้องอดอาหารอยู่กลางป่านาน 2 วัน จนหิวโหย และพากันเดินลงมาขออาหารชาวบ้านกินประทังชีวิต
นอกจากนี้ ยังพบว่า หลังจากนายหน้าแก๊งค้ามนุษย์พาชาวต่างด้าวไปทิ้งไว้ในป่ากลางหุบเขาก่อนหลบหนีไปแล้ว ยังบังคับนำตัว นางเคมูซา อายุ 32 ปี เป็นหญิงหน้าตาดี พร้อมลูกสาววัยแบเบาะอายุ 7 เดือน หนีไปจากสามี ชื่อ นายเคเลเอา อายุ 35 ปีด้วยซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของ 2 แม่ลูกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนของทหาร ทราบว่า ยังมีชาวพม่าที่อยู่ระหว่างเดินทางอยู่กลางป่าลึกอีกประมาณ 150 คน คาดว่าคงถูกนาหน้าทิ้งไว้กลางป่า และยังมีชาวพม่าอีกหลายร้อยคนถูกลำเลียงมาหลบซ่อนอยู่ในแคมป์ฝั่งบ้านหมาราง ประเทศพม่า ใกล้กับคอคอดกระ แม่น้ำกระบุรี เพื่อรอส่งให้นายหน้าพาเข้ามายังประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชาวพม่าถูกนายหน้าค้ามนุษย์หลอกมาปล่อยทิ้งกลางป่าบริเวณดังกล่าว จำนวน 28 คน และมีหญิงสาวถูกนายหน้าข่มขืนถึง 4 คน และลงมาขอข้าวจากชาวบ้านกินด้วยความหิวโหย และชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปตรวจสอบให้ความช่วยเหลือตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พ.ต.ท.เสนอ บุบผา รอง ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกรณีที่มีหญิงสาวชาวพม่าถูกข่มขืนตามที่เป็นข่าวนั้น ทางผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ได้ให้ความสำคัญ และสั่งการให้ตนลงมาสอบสวนเรื่องนี้ ซึ่งเบื้องต้น ได้ไปพูดคุยกับหญิงสาวชาวพม่าทั้ง 4 คนแล้ว แต่ยังอยู่ในอาการตื่นตกใจเอาแต่ร้องไห้ จึงยังไม่ได้ข้อมูลมากนัก ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดคาดคงรู้ผลในเร็วๆ นี้
