ชุมพร - ตำรวจชุมพรเต้น สั่งเข้มกวดขันจับกุมปิดเส้นทางค้ามนุษย์ หลังนายหน้าทิ้งต่างด้าวกลางป่าเกือบร้อยคน 5 สาวพม่ายันถูกข่มขืนจริง เผยรู้ตัวหัวหน้าแก๊งโหดแล้ว เตรียมออกหมายจับ ขบวนการค้ามนุษย์ยังเหิมลักลอบขนอีกตำรวจท่าแซะ สกัดจับได้อีก 18 คน
จากกรณีนายหน้าแก๊งค้ามนุษย์ลอยแพทิ้งแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 2 กลุ่ม จำนวน 75 คน ไว้ในป่ากลางหุบเขาบริเวณบ้านในง่วม หมู่ 8 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จนหิวโซ ขณะที่หญิงสาวชาวพม่าถูกแก๊งนายหน้าโหดรุมข่มขืน ก่อนปล่อยทิ้งลอยแพไว้ในป่าตอง จนลงมาขออาหารชาวบ้านกิน และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ สำหรับความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.เสนอ บุบผา รอง ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 ให้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการค้าแรงงานด่างด้าวให้สิ้นซาก พร้อมกับให้สอบสวนกรณีหญิงสาวชาวพม่าถูกนายหน้าข่มขืนเป็นกรณีพิเศษด้วย เพื่อจับกุมนายหน้าโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
โดยการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ใช้ล่ามช่วยแปลภาษา และแยกสอบชายหญิงชาวพม่าทีละคน ซึ่งชาวพม่าทั้งหมดให้การตรงกัน ว่า หลังจากขึ้นเรือที่บ้านหมาราง ประเทศพม่า ข้ามแม่น้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ จ.ระนอง ได้มีนายหน้าชาวไทย 3 คน พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือคอยคุมตัว และนำทางเดินเท้าอ้อมด่านตรวจทหาร ตำรวจ บริเวณด่านตรวจ จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง เขตรอยต่อกับ ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ได้เดินขึ้นเขาลงห้วยนาน 3 วัน 3 คืน ระหว่างทางนายหน้าได้ใช้อาวุธปืนยาวบังคับขู่เข็ญเร่งให้เดินแบบไม่ได้พักผ่อนจนเสบียงหมด ต้องหาลูกไม้ในป่ากินประทังความหิวโหย กระทั่งถูกพาไปปล่อยลอยแพทิ้งกลางป่าในหุบเขานานหลายวันไม่มีอาหารกินจนหิวโซ ต้องพากันออกจากป่ามาขอข้าวชาวบ้านกิน และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว ระหว่างสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้นำรูปภาพบุคคลมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ชุมพร ซึ่งมีประวัติพัวพันกับแก๊งค้ามนุษย์มาให้ชาวต่างด้าวดู ทุกคนชี้ยืนยันว่า เป็นหัวหน้าแก๊งโหดที่คอยสั่งการควบคุมชาวต่างด้าวทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ จ.ชุมพร
ขณะที่จากการสอบสวนมีหญิงสาวชาวพม่า จำนวน 5 คน อายุระหว่า 20-25 ปี อยู่ในอาการหวาดผวา และร้องไห้ตลอดเวลา ทั้ง 5 คน ยืนยันว่า ระหว่างที่ถูกนายหน้าพาเข้าไปพักที่แคมป์กลางป่าบ้านในง่วม ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ได้ถูกแก๊งนายหน้าโหด 5 คน พาไปข่มขืน และทุบตีเพื่อนๆ ชาวพม่าที่พยายามจะช่วยเหลือด้วย หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานหญิงทั้ง 5 คน ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ตรวจสุขภาพ และเก็บหลักฐานจากดีเอ็นเอ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพร ออกหมายจับขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้เรียกประชุมนายตำรวจระดับ ผกก. รอง ผกก.ป สว.สส. สวป. สภ.เมืองชุมพร สภ.ท่าแซะ สภ.สลุย และ สภ.บ้านวิสัยเหนือ พื้นที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการค้ามนุษย์ พร้อมกำชับให้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮินจา และพม่า โดยให้ประสานกับฝ่ายปกครอง ทหาร ตชด. เพื่อบรูณาการร่วมกันระหว่างตามเขตรอยต่อกับ จ.ระนอง อย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการค้ามนุษย์ยังเหิมเกริมลักลอบขนแรงงานต่างด้าวต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิ ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้รับรายงานมีแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ลักลอบขนชาวต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชนินทร์ ณรงค์น้อย รอง ผกก.สส. กำลังตำรวจชุดสืบสวนออกตรวจสกัดรถยนต์ต้องสงสัย กระทั่งพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ตอนครึ่งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระบะหลังมีผ้าสแลนสีดำปิดมามิดชิด ขับมาบนถนนสายบางมาดเหนือ หมู่ 12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ เจ้าหน้าที่จึงเรียกเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ไล่ติดตาม
จนกระทั่งรถยนต์คันดังกล่าวแหกโค้งไปชนกับรถยนต์กระบะตู้เย็นส่งไอศกรีมในหมู่บ้านพังเสียหายไม่สามารถขับต่อได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไล่ตามไปถึงคนขับ และชาวต่างด้าวได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทาง ในที่เกิดเหตุสามารถจับกุมไว้ได้ 4 คน ต่อมา ติดตามจับกุมได้เพิ่มอีก 14 คน ขณะหนีไปซ่อนตัวอยู่ในสวนปาล์มของชาวบ้านรวมเป็นชาวพม่า 18 คน ทั้งหมดเป็นเพศชาย ส่วนคนขับใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงานพม่าเป็นรถหมายเลขทะเบียน บท 7789 ชุมพร จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานทั้งหมดถูกนายหน้าพาข้ามฝั่งมาจากแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง ซึ่งจะได้เรียกเจ้าของรถมาสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าแรงงานมนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป
จากกรณีนายหน้าแก๊งค้ามนุษย์ลอยแพทิ้งแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 2 กลุ่ม จำนวน 75 คน ไว้ในป่ากลางหุบเขาบริเวณบ้านในง่วม หมู่ 8 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จนหิวโซ ขณะที่หญิงสาวชาวพม่าถูกแก๊งนายหน้าโหดรุมข่มขืน ก่อนปล่อยทิ้งลอยแพไว้ในป่าตอง จนลงมาขออาหารชาวบ้านกิน และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ สำหรับความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.เสนอ บุบผา รอง ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 ให้เร่งสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการค้าแรงงานด่างด้าวให้สิ้นซาก พร้อมกับให้สอบสวนกรณีหญิงสาวชาวพม่าถูกนายหน้าข่มขืนเป็นกรณีพิเศษด้วย เพื่อจับกุมนายหน้าโหดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
โดยการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ใช้ล่ามช่วยแปลภาษา และแยกสอบชายหญิงชาวพม่าทีละคน ซึ่งชาวพม่าทั้งหมดให้การตรงกัน ว่า หลังจากขึ้นเรือที่บ้านหมาราง ประเทศพม่า ข้ามแม่น้ำกระบุรี บริเวณคอคอดกระ จ.ระนอง ได้มีนายหน้าชาวไทย 3 คน พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือคอยคุมตัว และนำทางเดินเท้าอ้อมด่านตรวจทหาร ตำรวจ บริเวณด่านตรวจ จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง เขตรอยต่อกับ ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ได้เดินขึ้นเขาลงห้วยนาน 3 วัน 3 คืน ระหว่างทางนายหน้าได้ใช้อาวุธปืนยาวบังคับขู่เข็ญเร่งให้เดินแบบไม่ได้พักผ่อนจนเสบียงหมด ต้องหาลูกไม้ในป่ากินประทังความหิวโหย กระทั่งถูกพาไปปล่อยลอยแพทิ้งกลางป่าในหุบเขานานหลายวันไม่มีอาหารกินจนหิวโซ ต้องพากันออกจากป่ามาขอข้าวชาวบ้านกิน และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว ระหว่างสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้นำรูปภาพบุคคลมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ชุมพร ซึ่งมีประวัติพัวพันกับแก๊งค้ามนุษย์มาให้ชาวต่างด้าวดู ทุกคนชี้ยืนยันว่า เป็นหัวหน้าแก๊งโหดที่คอยสั่งการควบคุมชาวต่างด้าวทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ จ.ชุมพร
ขณะที่จากการสอบสวนมีหญิงสาวชาวพม่า จำนวน 5 คน อายุระหว่า 20-25 ปี อยู่ในอาการหวาดผวา และร้องไห้ตลอดเวลา ทั้ง 5 คน ยืนยันว่า ระหว่างที่ถูกนายหน้าพาเข้าไปพักที่แคมป์กลางป่าบ้านในง่วม ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ได้ถูกแก๊งนายหน้าโหด 5 คน พาไปข่มขืน และทุบตีเพื่อนๆ ชาวพม่าที่พยายามจะช่วยเหลือด้วย หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานหญิงทั้ง 5 คน ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ตรวจสุขภาพ และเก็บหลักฐานจากดีเอ็นเอ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพร ออกหมายจับขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ปรีชา กลัดสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้เรียกประชุมนายตำรวจระดับ ผกก. รอง ผกก.ป สว.สส. สวป. สภ.เมืองชุมพร สภ.ท่าแซะ สภ.สลุย และ สภ.บ้านวิสัยเหนือ พื้นที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการค้ามนุษย์ พร้อมกำชับให้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นสกัดกั้นการหลบหนีเข้าเมืองของชาวโรฮินจา และพม่า โดยให้ประสานกับฝ่ายปกครอง ทหาร ตชด. เพื่อบรูณาการร่วมกันระหว่างตามเขตรอยต่อกับ จ.ระนอง อย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการค้ามนุษย์ยังเหิมเกริมลักลอบขนแรงงานต่างด้าวต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิ ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้รับรายงานมีแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ลักลอบขนชาวต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชนินทร์ ณรงค์น้อย รอง ผกก.สส. กำลังตำรวจชุดสืบสวนออกตรวจสกัดรถยนต์ต้องสงสัย กระทั่งพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า ตอนครึ่งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระบะหลังมีผ้าสแลนสีดำปิดมามิดชิด ขับมาบนถนนสายบางมาดเหนือ หมู่ 12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ เจ้าหน้าที่จึงเรียกเพื่อตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ไล่ติดตาม
จนกระทั่งรถยนต์คันดังกล่าวแหกโค้งไปชนกับรถยนต์กระบะตู้เย็นส่งไอศกรีมในหมู่บ้านพังเสียหายไม่สามารถขับต่อได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไล่ตามไปถึงคนขับ และชาวต่างด้าวได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทาง ในที่เกิดเหตุสามารถจับกุมไว้ได้ 4 คน ต่อมา ติดตามจับกุมได้เพิ่มอีก 14 คน ขณะหนีไปซ่อนตัวอยู่ในสวนปาล์มของชาวบ้านรวมเป็นชาวพม่า 18 คน ทั้งหมดเป็นเพศชาย ส่วนคนขับใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงานพม่าเป็นรถหมายเลขทะเบียน บท 7789 ชุมพร จากการสอบสวนทราบว่า แรงงานทั้งหมดถูกนายหน้าพาข้ามฝั่งมาจากแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง ซึ่งจะได้เรียกเจ้าของรถมาสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าแรงงานมนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป
