ชุมพร- สลด 28 ต่างด้าวชาวพม่าเหยื่อขบวนการค้าแรงงานมนุษย์ถูกทิ้งลอยแพกลางป่าบนยอดเขาจนหิวโซลงมาขออาหารชาวบ้านกิน และแจ้งทหาร ฝ่ายปกครองเข้าช่วยเหลือ อนาถมีเหยื่อสาว 4 คน ถูกแก๊งโหดรุมข่มขืนยับ
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (8 พ.ค.) ร.ต.ธีระพร บุญซื่อ รองหัวหน้าชุดประสานงาน กองร้อยจังหวัดทหารบกชุมพร นายยอดชาย ศศิธร หัวหน้าแผนกกำลังพล บก.อส.ชุมพร และ นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสุรินทร์ ทวยนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าได้ควบคุมชาวต่างด้าวไว้ จำนวน 2 กลุ่ม รวม 28 คน ขณะหิวโซลงมาขออาหารชาวบ้านกินประทังชีวิต จึงนำทหาร และกำลังกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 กว่า 20 นาย ไปตรวจสอบ
โดยกลุ่มแรกเป็นชาย 7 คน หญิง 6 คน กลุ่มที่ 2 ชาย 11 คน และหญิง 4 คน ทั้งหมดเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับร้องไห้ และยกมือไหว้ บางคนตัวสั่น ซีดเซียว อิดโรย ท่าทางหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวพม่าทั้งหมดไปสอบสวนที่ค่ายกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 พร้อมกับประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการ พร้อมทั้งจัดหาอาหาร น้ำดื่มให้กินประทังความหิวโหย
จากการสอบสวนทราบว่า ต่างด้าวชาวพม่าทั้งหมดถูกนายหน้าที่เป็นทั้งคนไทย และชาวพม่า หลอกลวงเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจะเดินทางมาที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต เสียค่านายหน้า และค่าใช่จ่ายต่างๆ ทั้งหมดรวมคนละ 17,000 บาท โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่ของประเทศพม่า ซึ่งมีนายหน้าชาวพม่าพาไปรวมกันที่ จ.เกาะสอง จากนั้นเดินทางมาขึ้นเรือที่ชายฝั่งหมารางข้ามแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง โดยมีนายหน้าคนไทยนำรถยนต์กระบะไปรับ จากนั้นให้ต่างด้าวทั้งหมดเดินอ้อมลูกเขาหลบเลี่ยงด่านตรวจทหารบริเวณด่านตรวจ จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง แล้วมาพักที่แคมป์ชั่วคราวอยู่กลางหุบยอดเขาบ้านในง่วม หมู่ที่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร
ปรากฏว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางมาหลบซ่อนอยู่ในแคมป์กลางหุบเขา เจ้าหน้าที่ทหารได้รับแจ้งจากสายข่าวจึงสนธิกำลังจากกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 เข้าตรวจสอบที่แคมป์ดังกล่าว แต่นายหน้าชาวไทยไหวตัวทันพาแรงงานทั้งหมดหนีขึ้นไปปล่อยทิ้งลอยแพอยู่ในป่าทึบบนยอดเขา จนกระทั่งแรงงานทั้งหมดหิวโซ บางคนเป็นไข้หนาวสั่น ได้พากันลงมาขอความช่วยเหลือ และขออาหารจากชาวบ้านกินประทังชีวิตด้วยความหิว และแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าไปช่วยเหลือดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบมีหญิงสาวต่างด้าวอายุระหว่า 18-20 ปี จำนวน 4 คน ถูกนายหน้าชาวไทยรุมข่มขืนระหว่างอยู่ที่แคมป์หลบซ่อนชั่วคราวดังกล่าว และมีหญิงสาวต่างด้าว 1 คน สามารถวิ่งหลบหนีเข้าป่ารอดจากการถูกข่มขืนไปได้ โดยแต่ละคนให้การต่อเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำตานองหน้า และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกของทหารทราบว่า ขบวนการค้าแรงงานมนุษย์ได้ทำกันเป็นขบวนการใหญ่ จ้างคนในพื้นที่ดูแลเส้นทางจ่ายเงินเป็นรายคันๆ ละ 2 พันบาท สำหรับแคมป์ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบนั้นมีอยู่นานแล้ว ถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่ขบวนการค้าแรงงานมนุษย์ นำชาวต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเข้าไปพักพิงชั่วคราวเพื่อรอการเดินทางต่อ โดยการขนแรงงานเถื่อนทั้งหมดจากต้นทางไปส่งปลายปลายทางนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนบางกลุ่มเป็นคนอำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจะติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (8 พ.ค.) ร.ต.ธีระพร บุญซื่อ รองหัวหน้าชุดประสานงาน กองร้อยจังหวัดทหารบกชุมพร นายยอดชาย ศศิธร หัวหน้าแผนกกำลังพล บก.อส.ชุมพร และ นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสุรินทร์ ทวยนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าได้ควบคุมชาวต่างด้าวไว้ จำนวน 2 กลุ่ม รวม 28 คน ขณะหิวโซลงมาขออาหารชาวบ้านกินประทังชีวิต จึงนำทหาร และกำลังกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 กว่า 20 นาย ไปตรวจสอบ
โดยกลุ่มแรกเป็นชาย 7 คน หญิง 6 คน กลุ่มที่ 2 ชาย 11 คน และหญิง 4 คน ทั้งหมดเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับร้องไห้ และยกมือไหว้ บางคนตัวสั่น ซีดเซียว อิดโรย ท่าทางหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชาวพม่าทั้งหมดไปสอบสวนที่ค่ายกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 พร้อมกับประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดำเนินการ พร้อมทั้งจัดหาอาหาร น้ำดื่มให้กินประทังความหิวโหย
จากการสอบสวนทราบว่า ต่างด้าวชาวพม่าทั้งหมดถูกนายหน้าที่เป็นทั้งคนไทย และชาวพม่า หลอกลวงเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจะเดินทางมาที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต เสียค่านายหน้า และค่าใช่จ่ายต่างๆ ทั้งหมดรวมคนละ 17,000 บาท โดยเดินทางมาจากหลายพื้นที่ของประเทศพม่า ซึ่งมีนายหน้าชาวพม่าพาไปรวมกันที่ จ.เกาะสอง จากนั้นเดินทางมาขึ้นเรือที่ชายฝั่งหมารางข้ามแม่น้ำกระบุรี จ.ระนอง โดยมีนายหน้าคนไทยนำรถยนต์กระบะไปรับ จากนั้นให้ต่างด้าวทั้งหมดเดินอ้อมลูกเขาหลบเลี่ยงด่านตรวจทหารบริเวณด่านตรวจ จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง แล้วมาพักที่แคมป์ชั่วคราวอยู่กลางหุบยอดเขาบ้านในง่วม หมู่ที่ 8 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร
ปรากฏว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางมาหลบซ่อนอยู่ในแคมป์กลางหุบเขา เจ้าหน้าที่ทหารได้รับแจ้งจากสายข่าวจึงสนธิกำลังจากกองร้อยอาสารักษาดินแดนชุมพร ที่ 1 เข้าตรวจสอบที่แคมป์ดังกล่าว แต่นายหน้าชาวไทยไหวตัวทันพาแรงงานทั้งหมดหนีขึ้นไปปล่อยทิ้งลอยแพอยู่ในป่าทึบบนยอดเขา จนกระทั่งแรงงานทั้งหมดหิวโซ บางคนเป็นไข้หนาวสั่น ได้พากันลงมาขอความช่วยเหลือ และขออาหารจากชาวบ้านกินประทังชีวิตด้วยความหิว และแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าไปช่วยเหลือดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบมีหญิงสาวต่างด้าวอายุระหว่า 18-20 ปี จำนวน 4 คน ถูกนายหน้าชาวไทยรุมข่มขืนระหว่างอยู่ที่แคมป์หลบซ่อนชั่วคราวดังกล่าว และมีหญิงสาวต่างด้าว 1 คน สามารถวิ่งหลบหนีเข้าป่ารอดจากการถูกข่มขืนไปได้ โดยแต่ละคนให้การต่อเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำตานองหน้า และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกของทหารทราบว่า ขบวนการค้าแรงงานมนุษย์ได้ทำกันเป็นขบวนการใหญ่ จ้างคนในพื้นที่ดูแลเส้นทางจ่ายเงินเป็นรายคันๆ ละ 2 พันบาท สำหรับแคมป์ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบนั้นมีอยู่นานแล้ว ถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่ขบวนการค้าแรงงานมนุษย์ นำชาวต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเข้าไปพักพิงชั่วคราวเพื่อรอการเดินทางต่อ โดยการขนแรงงานเถื่อนทั้งหมดจากต้นทางไปส่งปลายปลายทางนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนบางกลุ่มเป็นคนอำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจะติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
