ASTVผู้จัดการรายวัน-เกิดอาฟเตอร์ช็อกซ้ำ แผ่นดินไหวเกาะยาวรุนแรง 4.7 คนพังงา ภูเก็ต ระทึก อพยพกันวุ่นอีกรอบ หวั่นเกิดสึนามิ รอจนไม่มีประกาศเตือนภัย จึงกลับบ้าน เผยหอพักพนักงานโรงแรมอ่าวน้ำเมา เกิดรอยร้าว 4 ห้อง สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินระบุแรงสะเทือนไปถึงเชียงใหม่ยาวถึงพม่า ระบุเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลไม่กระทบ ส่วนแผ่นดินไหวเนปาลล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตเฉียด 8 พันราย บ้านพัง 5 แสนหลัง ยูเอ็นชี้เด็กเนปาลร่วม 1 ล้านคน ไร้ที่เรียน
วานนี้ (7 พ.ค.) สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้ง ว่า เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พ.ค.2558 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 ศูนย์กลางในทะเลบริเวณ อ.เกาะยาว จ.พังงา ความลึกประมาณ 11 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 15 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวบริเวณจ.พังงา จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่
เหตุดังกล่าวทำให้ชาวไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 300 ครัวเรือน ต้องอพยพมาอยู่ที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร เป็นคืนที่ 2 โดยชาวบ้านบอกว่าครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา มีการสั่นไหวต่อเนื่อง 2 ครั้ง จนบ้านแทบพัง ข้าวของตกกระจาย จึงต้องรีบอพยพมารอดูสถานการณ์ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ จึงได้เดินทางกลับบ้าน
ขณะเดียวกันที่ต.ราไวย์ อ.เมือง ชาวไทยใหม่กว่า 200 คน ได้อพยพมาอยู่เนินสวนไผ่ หมวดการทางภูเก็ตที่ 2 โดยเทศบาลตำบลราไวย์ นำโดยนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรี ได้ติดตั้งสัญญาณไฟให้ เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดน้ำดื่มไว้บริการ จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำทะเลตลอดเวลา ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางกลับบ้านเมื่อไม่มีประกาศแจ้งเตือนสึนามิ
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายและผลกระทบ ซึ่งหากมีผลกระทบทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะสั่งการให้อพยพตามแผน โดยเบื้องต้นได้สั่งให้ทางอำเภอได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และรายงานจังหวัดทราบ หากพบสิ่งผิดปกติ ซึ่งลังจากนี้จะซ้อมแผนกรณีเกิดแผ่นดินไหว และประสานกับส่วนกลางให้ติดตั้งระบบเตือนภัยที่เกาะยาวอีก
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่ จ.กระบี่ ห้องพักพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่บ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จากการตรวจสอบพบรอยร้าวที่ผนังปูนด้านบนจากมุมวงกบประตู เป็นทางยาวขึ้นไปจนถึงเพดานรวม 4 ห้อง คือ ห้องพักหมายเลข 310/19 , 310/22 , 310/24 และ 310/27 โดยจุดที่เกิดรอยร้าวมากที่สุด คือ บริเวณมุมบนขอบวงกบประตูของห้องพักหมายเลข 310/27 รอยร้าวความกว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร สร้างความตื่นตระหนกแก่พนักงานที่พักอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก
น.ส.สุภาพร เล็กกุล อายุ 30 ปี พนักงานโรงแรม กล่าวว่า เมื่อคืนรู้สึกสั่นสะเทือน มีเสียงดังคล้ายกระเบื้องหลังคากระทบกัน ทำให้รู้สึกตกใจมาก โดยแรงสั่นเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ 3-4 วินาที รุ่งเช้าตื่นมาทำงานพบว่าขอบประตูห้องพักที่อยู่ติดกัน คือ ห้องหมายเลข 310/27 เกิดรอยร้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่มีรอยมากขนาดนี้ และยังมีห้องพักอีกหลายหลังเกิดรอยร้าวด้วย เชื่อว่าเกิดจากแรงแผ่นดินไหวอย่างแน่นอน
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า รอยร้าวของห้องพักมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากแรงสั่นสะเทือน เพราะอยู่ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่ลงสำรวจ และหาทางป้องกันต่อไป
ต่อมา สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ประกาศอีกว่า เวลา 11.56 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.4 ศูนย์กลางที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ลึกจากผิวดิน 5 กิโลเมตร และเวลา 13.02 น. ขนาด 3.0 ศูนย์กลางที่ประเทศพม่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 147 กิโลเมตร ลึกจากผิวดิน 10 กิโลเมตร
นายศุภมิตร กฤษณมิตร หัวหน้าฝ่ายจัดการความปลอดภัยเขื่อน สำนักชลประทานที่ 1 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกาะยาว สะเทือนถึงจ.เชียงใหม่ โดยเครื่องตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง วัดความสั่นสะเทือนได้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 0.00018 จี ครั้งที่ 2 วัดได้ 0.00019 จี
อย่างไรก็ตาม เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สามารถรับแรงสั่นสะเทือนตามมาตรริกเตอร์ได้ถึง 8 ริคเตอร์ หรือตามแรงโน้มถ่วงของโลกได้ถึง 0.247 จี จึงถือว่าเขื่อนมีความปลอดภัย 100%
ทางด้านความช่วยเหลือประเทศเนปาลที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว ล่าสุดไทยได้ส่งทีมแพทย์ชุดที่ 2 ไปยังประเทศเนปาลแล้ว เพื่อผลัดเปลี่ยนกับทีมชุดแรกที่ตั้งโรงพยาบาลสนามอยู่ที่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุปาลโชค โดยมีทั้งหมด 24 คน
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ได้เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการดูแลรักษาผู้ป่วยไปด้วย เช่น เปลขนย้าย เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องปั่นไฟสำรอง เครื่องกรองน้ำ ผงทำน้ำดื่ม 120,000 ซอง ซึ่งได้รับประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยาน้ำและเวชภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเด็ก เช่น ยาแก้ไอ ยาขยายหลอดลม ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดลดไข้ รองเท้าบู๊ท 140 คู่ รวมทั้งเตรียมเครื่องกีฬา เพื่อไปทำกิจกรรมสันทนาการผ่อนคลายความเครียดให้แก่เด็กและประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อถึงที่สนามบินตรีภูวัน ทีมแพทย์จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลสนาม และรับมอบงานจากทีมชุดที่ 1 จากนั้นเริ่มปฏิบัติงานตามแผนทันที ส่วนทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คนจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 พ.ค.นี้
สำหรับสถานการณ์ในเนปาล ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติ (NEOC) ของเนปาล แจ้งตัวเลขที่รวบรวมได้ล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7,760 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 16,432 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีกกว่า 100 คนในประเทศเพื่อนบ้าน คืออินเดียและจีน
คาชี ชาร์มา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของศูนย์ NEOCบอกว่า ธรณีพิโรธซึ่งมีความรุนแรงที่สุดเท่าที่เนปาลเคยเผชิญมาในรอบกว่า 80 ปีครั้งนี้ ทำให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยพังพินาศไปอย่างสิ้นเชิง 288,798 หลัง ขณะที่อีก 254,112 หลังได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน
ทางด้านองค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงในวันเดียวกันว่า แผ่นดินไหวคราวนี้ทำให้เด็กๆ เกือบ 1 ล้านคนไร้สถานที่เรียนหนังสือ ทั้งนี้ มีห้องเรียนเกือบๆ 24,000 ห้องได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายไป และยังได้เรียกร้องให้มีการตั้งโรงเรียนชั่วคราวขึ้นมา
มีการประมาณการกันเบื้องต้นจากหลายๆ สำนักระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูบูรณะเพื่อให้เนปาล ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติยากจนที่สุดของเอเชีย กลับคืนสู่ภาวะปกตินั้น อาจจะต้องใช้เงินราวๆ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเนปาลถอยหลังกลับไปหลายๆ ปี หลังจากเพิ่งผงกศีรษะขึ้นได้บ้างภายหลังเผชิญสงครามกลางเมืองอยู่นานสิบกว่าปี
สำหรับสภาพภายในเมืองหลวงเนปาล ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีรายงานว่า วานนี้ (7 พ.ค.) มีสัญญาณแสดงให้เห็นว่ากาฐมาณฑุกำลังค่อยๆ กลับมามีชีวีตอีกครั้ง โดยที่มีจำนวนร้านค้าและภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ เปิดกิจการกันเพิ่มมากขึ้น และถนนสายต่างๆ ก็ค่อยๆ มีรถราออกมาแล่นกันอีกครั้ง
วานนี้ (7 พ.ค.) สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้ง ว่า เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พ.ค.2558 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 ศูนย์กลางในทะเลบริเวณ อ.เกาะยาว จ.พังงา ความลึกประมาณ 11 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 15 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวบริเวณจ.พังงา จ.ภูเก็ต และจ.กระบี่
เหตุดังกล่าวทำให้ชาวไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 300 ครัวเรือน ต้องอพยพมาอยู่ที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลเมตร เป็นคืนที่ 2 โดยชาวบ้านบอกว่าครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา มีการสั่นไหวต่อเนื่อง 2 ครั้ง จนบ้านแทบพัง ข้าวของตกกระจาย จึงต้องรีบอพยพมารอดูสถานการณ์ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ จึงได้เดินทางกลับบ้าน
ขณะเดียวกันที่ต.ราไวย์ อ.เมือง ชาวไทยใหม่กว่า 200 คน ได้อพยพมาอยู่เนินสวนไผ่ หมวดการทางภูเก็ตที่ 2 โดยเทศบาลตำบลราไวย์ นำโดยนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรี ได้ติดตั้งสัญญาณไฟให้ เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดน้ำดื่มไว้บริการ จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำทะเลตลอดเวลา ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางกลับบ้านเมื่อไม่มีประกาศแจ้งเตือนสึนามิ
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายและผลกระทบ ซึ่งหากมีผลกระทบทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะสั่งการให้อพยพตามแผน โดยเบื้องต้นได้สั่งให้ทางอำเภอได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และรายงานจังหวัดทราบ หากพบสิ่งผิดปกติ ซึ่งลังจากนี้จะซ้อมแผนกรณีเกิดแผ่นดินไหว และประสานกับส่วนกลางให้ติดตั้งระบบเตือนภัยที่เกาะยาวอีก
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่ จ.กระบี่ ห้องพักพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่บ้านอ่าวน้ำเมา หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมือง จากการตรวจสอบพบรอยร้าวที่ผนังปูนด้านบนจากมุมวงกบประตู เป็นทางยาวขึ้นไปจนถึงเพดานรวม 4 ห้อง คือ ห้องพักหมายเลข 310/19 , 310/22 , 310/24 และ 310/27 โดยจุดที่เกิดรอยร้าวมากที่สุด คือ บริเวณมุมบนขอบวงกบประตูของห้องพักหมายเลข 310/27 รอยร้าวความกว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร สร้างความตื่นตระหนกแก่พนักงานที่พักอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก
น.ส.สุภาพร เล็กกุล อายุ 30 ปี พนักงานโรงแรม กล่าวว่า เมื่อคืนรู้สึกสั่นสะเทือน มีเสียงดังคล้ายกระเบื้องหลังคากระทบกัน ทำให้รู้สึกตกใจมาก โดยแรงสั่นเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ 3-4 วินาที รุ่งเช้าตื่นมาทำงานพบว่าขอบประตูห้องพักที่อยู่ติดกัน คือ ห้องหมายเลข 310/27 เกิดรอยร้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่มีรอยมากขนาดนี้ และยังมีห้องพักอีกหลายหลังเกิดรอยร้าวด้วย เชื่อว่าเกิดจากแรงแผ่นดินไหวอย่างแน่นอน
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า รอยร้าวของห้องพักมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากแรงสั่นสะเทือน เพราะอยู่ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่ลงสำรวจ และหาทางป้องกันต่อไป
ต่อมา สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ประกาศอีกว่า เวลา 11.56 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.4 ศูนย์กลางที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ลึกจากผิวดิน 5 กิโลเมตร และเวลา 13.02 น. ขนาด 3.0 ศูนย์กลางที่ประเทศพม่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 147 กิโลเมตร ลึกจากผิวดิน 10 กิโลเมตร
นายศุภมิตร กฤษณมิตร หัวหน้าฝ่ายจัดการความปลอดภัยเขื่อน สำนักชลประทานที่ 1 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกาะยาว สะเทือนถึงจ.เชียงใหม่ โดยเครื่องตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง วัดความสั่นสะเทือนได้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 0.00018 จี ครั้งที่ 2 วัดได้ 0.00019 จี
อย่างไรก็ตาม เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สามารถรับแรงสั่นสะเทือนตามมาตรริกเตอร์ได้ถึง 8 ริคเตอร์ หรือตามแรงโน้มถ่วงของโลกได้ถึง 0.247 จี จึงถือว่าเขื่อนมีความปลอดภัย 100%
ทางด้านความช่วยเหลือประเทศเนปาลที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว ล่าสุดไทยได้ส่งทีมแพทย์ชุดที่ 2 ไปยังประเทศเนปาลแล้ว เพื่อผลัดเปลี่ยนกับทีมชุดแรกที่ตั้งโรงพยาบาลสนามอยู่ที่ ต.ซิปปะกัต อ.สินธุปาลโชค โดยมีทั้งหมด 24 คน
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ได้เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการดูแลรักษาผู้ป่วยไปด้วย เช่น เปลขนย้าย เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่องปั่นไฟสำรอง เครื่องกรองน้ำ ผงทำน้ำดื่ม 120,000 ซอง ซึ่งได้รับประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ยาน้ำและเวชภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเด็ก เช่น ยาแก้ไอ ยาขยายหลอดลม ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดลดไข้ รองเท้าบู๊ท 140 คู่ รวมทั้งเตรียมเครื่องกีฬา เพื่อไปทำกิจกรรมสันทนาการผ่อนคลายความเครียดให้แก่เด็กและประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ เมื่อถึงที่สนามบินตรีภูวัน ทีมแพทย์จะเดินทางไปที่โรงพยาบาลสนาม และรับมอบงานจากทีมชุดที่ 1 จากนั้นเริ่มปฏิบัติงานตามแผนทันที ส่วนทีมแพทย์ชุดแรกทั้ง 19 คนจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 10 พ.ค.นี้
สำหรับสถานการณ์ในเนปาล ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติ (NEOC) ของเนปาล แจ้งตัวเลขที่รวบรวมได้ล่าสุดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7,760 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 16,432 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีกกว่า 100 คนในประเทศเพื่อนบ้าน คืออินเดียและจีน
คาชี ชาร์มา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของศูนย์ NEOCบอกว่า ธรณีพิโรธซึ่งมีความรุนแรงที่สุดเท่าที่เนปาลเคยเผชิญมาในรอบกว่า 80 ปีครั้งนี้ ทำให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยพังพินาศไปอย่างสิ้นเชิง 288,798 หลัง ขณะที่อีก 254,112 หลังได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน
ทางด้านองค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงในวันเดียวกันว่า แผ่นดินไหวคราวนี้ทำให้เด็กๆ เกือบ 1 ล้านคนไร้สถานที่เรียนหนังสือ ทั้งนี้ มีห้องเรียนเกือบๆ 24,000 ห้องได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายไป และยังได้เรียกร้องให้มีการตั้งโรงเรียนชั่วคราวขึ้นมา
มีการประมาณการกันเบื้องต้นจากหลายๆ สำนักระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูบูรณะเพื่อให้เนปาล ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติยากจนที่สุดของเอเชีย กลับคืนสู่ภาวะปกตินั้น อาจจะต้องใช้เงินราวๆ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเนปาลถอยหลังกลับไปหลายๆ ปี หลังจากเพิ่งผงกศีรษะขึ้นได้บ้างภายหลังเผชิญสงครามกลางเมืองอยู่นานสิบกว่าปี
สำหรับสภาพภายในเมืองหลวงเนปาล ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีรายงานว่า วานนี้ (7 พ.ค.) มีสัญญาณแสดงให้เห็นว่ากาฐมาณฑุกำลังค่อยๆ กลับมามีชีวีตอีกครั้ง โดยที่มีจำนวนร้านค้าและภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ เปิดกิจการกันเพิ่มมากขึ้น และถนนสายต่างๆ ก็ค่อยๆ มีรถราออกมาแล่นกันอีกครั้ง
