xs
xsm
sm
md
lg

"บุญทรง"รอดมือสนช.หรือไม่ ชี้ชะตาคดีจำนำข้าว 8 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**รู้ผลกันแน่ ศุกร์ที่ 8 พ.ค.นี้ ว่าสุดท้ายแล้ว"บุญทรง เตริยาภิรมย์" อดีตรมว.พาณิชย์ จะต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี จากผลการลงมติถอดถอน โดยที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่
เพราะวันดังกล่าว สนช.จะลงมติ "ลับ" จะถอดถอนหรือจะไม่ถอดถอน บุญทรง พ่วงไปกับอีก 2 คน ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลจากผลพวงการขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว แบบจีทูจี
โดยอีก 2 คนก็คือ ภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.ขอนแก่น หลายสมัย กับ มนัส สร้อยพลอย อดีต อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งสำนวนคดีนี้ป.ป.ช.ก็ได้ส่งสำนวนฟ้องคดีอาญา บุญทรงกับพวก รวม 21 ราย ที่รวมถึงกลุ่มผู้บริหารบริษัทค้าข้าวเอกชนของไทย ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย และตอนนี้ ทั้งหมดตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาฯ หลังศาลประทับรับฟ้องไปแล้ว เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แม้คดีในชั้นศาลฎีกาฯ ยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการไต่สวนคดี เพราะกว่าจะเริ่มก็ประมาณกลางเดือนมิถุนายน แต่คดีถอดถอน ที่มีการส่งเรื่องมาให้ สนช.ถอดถอน สัปดาห์นี้เข้าสู่ช่วงสำคัญแล้ว กับการลงมติของสนช. เพื่อชี้ชะตาชีวิตการเมือง บุญทรง-ภูมิ
ดูแล้ว ยังไงเสียสองคนนี้ ยังคิดจะเล่นการเมืองอีกต่อไปแน่นอน แต่หากต้องเว้นวรรค 5 ปี เพราะโดน สนช.ถอดถอน ก็คงทำทั้งคู่เสียเส้นอย่างมาก ส่วนนายมนัส สร้อยพลอย คงไม่ค่อยซีเรียสอะไรมาก กับเรื่องการถอดถอนของ สนช. เพราะคงห่วงคดีอาญาในชั้นศาลฎีกาฯ มากกว่า เนื่องจากโทษหนักกว่าหลายเท่า
แต่ทว่า แม้จะเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่กลับพบว่ากระแสเสียงอะไรต่างๆ ใน สนช. ดูจะเงียบๆ กันอยู่ คือยังเดาทางไม่ได้ว่า สุดท้ายมติ สนช. จะออกมาแบบไหน ?
บุญทรง-ภูมิ-มนัส จะรอดพร้อมกันหมด หรือจะโดนถอดถอนกันทั้งหมด หรือจะรอดแค่บางคน มันก็ยังประเมินกันยากอยู่
กระนั้น คนที่คนทั้งประเทศจับจ้องกันมากสุด ว่าผลจะออกมาอย่างไร ตัวหลักก็คือ บุญทรง เป็นหลัก ส่วน ภูมิกับมนัส คนไม่ค่อยสนใจมากเท่าไหร่ ว่าจะรอดหรือไม่รอด
** เหตุที่คนส่วนใหญ่โฟกัสมาที่ บุญทรง ก็เพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น มองว่า บุญทรง เป็นนักการเมืองใกล้ชิดกับ สมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่แม้ ผัว-เมีย คู่นี้จะไม่มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ก็รู้กันดีว่า ทั้งสองคนมีบทบาทสูงในรัฐบาลปูนิ่ม และในพรรคเพื่อไทย และภาพลักษณ์ของบุญทรง ก็เด่นชัดว่า เป็นลูกน้อง มือทำงานให้ผัวเมียคู่นี้ มาตลอดหลายปี
ตัวบุญทรง จึงถือเป็นหมากการเมืองคนสำคัญคนหนึ่งของเครือข่ายนักการเมืองภาคเหนือในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะสายเจ๊แดง
ผสมกับความเป็น อดีตรมว.พาณิชย์ ที่รับผิดชอบโครงการนี้ในช่วงที่แผลโครงการจำนำข้าวเริ่มเน่าเฟะ แต่กลับไม่ได้แก้ปัญหาอะไรให้ดีขึ้น แถมมีแต่ข่าวทางลบออกมาตลอด คนส่วนใหญ่จึงมองว่า ตัวบุญทรง คือ คนที่ต้องมีส่วนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวจำนวนหลายแสนล้านบาท จนบางคนยังรู้สึกเลยว่า บุญทรง เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบมากกว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยซ้ำไป
ด้วยเหตุนี้ เมื่อสนช.ลงมติท่วมท้น ถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ด้วยคะแนนเสียง 190 เสียง จนผู้คนชื่นชม สนช.กันทั่ว แต่หากปล่อย บุญทรง รอด ไม่ถูกถอดถอน มันก็ทะแม่งๆ กับบรรทัดฐานของสนช. ไม่ใช่น้อย
การลงมติของสนช. 8 พ.ค.นี้ สนช.ทั้งหมด จึงต้องใคร่ครวญกันให้ดี เพราะหากมติค้านสายตาประชาชน คงมีคำถามเกิดขึ้นกับ สนช.ไม่ใช่น้อย เพราะหากจะมองไปว่า การลงมติถอดถอน ยิ่งลักษณ์ในฐานะอดีตนายกฯ และอดีตประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
แต่กับการลงโทษทางการเมืองกับคนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศในโครงการรับจำนำข้าว คนอื่นๆอย่าง บุญทรง ภูมิ สาระผล ควรปล่อยไป การคิดแบบนี้มันแย่อย่างยิ่ง
เท่าที่ฟังจากสิ่งที่ วิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. มาแถลงเปิดคดี และตอบข้อซักถามของกมธ.ซักถามของสนช. ก็จะพบว่า รายละเอียดในสำนวนของ ยิ่งลักษณ์กับของบุญทรง แตกต่างกันมาก
**กรณีของยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยอมระงับยับยั้งโครงการทั้งที่มีสัญญาณส่งมาแล้วว่า หากทำต่อไปจะมีความเสียหายกับประเทศ แต่ของ บุญทรง-ภูมิ เป็นเรื่องทำนองมีส่วนร่วมรู้เห็นกับการทำสัญญาการขายข้าวแบบจีทูจี ที่ตุกติก มีพิรุธ และส่อว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากในสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช. พบว่า ผู้เกี่ยวข้องในสำนวนคดีนี้ ทั้งนักการเมือง-อดีตข้าราชการ และบริษัทเอกชน ร่วมกันวางแผนนำวิสาหกิจจากจีน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท กวางตุ้ง สเตชั่นนารี แอนต์สปอร์ตติ้งกู้ด อินพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต และบริษัท ไห่หนาน เทรดดิ้ง ทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ กับกรมการค้าต่างประเทศ
โดยอ้างว่า บริษัทดังกล่าวเป็นผู้แทนจากจีน ซึ่งป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่เป็นความจริง ที่สำคัญจากการตรวจสอบของกรมศุลกากรพบว่า บริษัทของจีนทั้ง 2 บริษัทไม่ได้ส่งออกข้าวนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ
เมื่อดูจากสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.ข้างต้น ดังนั้นการลงมติ สนช. จึงต้องพิจารณากันให้ดี และคิดให้หนัก เพราะหาก บุญทรง-ภูมิ- มนัส ไม่มีใครโดนถอดถอนเลย มติสนช. จะเป็นที่กังขาแน่นอน แม้จะมีข่าวบางกระแสออกมาแล้วว่า บุญทรงไม่น่ารอด ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงอย่างที่มีกระแสข่าวมันก็ดี แต่หากไม่ใช่ คนคงผิดหวังกับสนช.แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีการลงมติ ถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ในวันที่ 8 พ.ค. นี้ ก่อนหน้านั้น 1 วัน คือ 7 พ.ค. จะมีการแถลงปิดคดีด้วยวาจาของทั้งฝ่าย บุญทรง –ภูมิ และ ฝ่ายป.ป.ช. กันก่อน โดยมีการยืนยันมาว่า บุญทรงกับภูมิ จะมาแถลงปิดคดีด้วยวาจาด้วยตัวเอง ขณะที่นายมนัส สร้อยพลอย จะแถลงปิดคดีด้วยเอกสาร ส่วน ป.ป.ช. ก็คาดว่า ตัว วิชา มหาคุณ จะมาแถลงปิดคดีด้วยตัวเอง
คาดกันว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงปิดคดีดังกล่าว ในวันที่ 7 พ.ค. ไม่กี่ชั่วโมง น่าจะพอมีสัญญาณจาก สนช. ที่น่า จะทำให้เห็นทิศทางกันบ้างแล้วว่า บุญทรง- ภูมิ –มนัส จะโดนถอดถอนหมด หรือจะรอดหมด หรือจะโดนถอดถอนแค่บางคน ก็ได้
**แต่หวังว่า สนช.จะไม่ทำให้ ประชาชนผิดหวัง กับมติครั้งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น