xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปตำรวจขัดแย้งหนัก ปมแยกสอบสวนจากสตช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (29เม.ย.) ที่รัฐสภา พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกมธ.ปฏิรูประบบตำรวจ ในกมธ.ปฏิรูปกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม กล่าวภายหลังที่ประชุมสปช. มีมติให้เลื่อนการพิจารณารายงานของกมธ.ปฏิรูปกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม เรื่องกิจการตำรวจ เนื่องจากคณะอนุกมธ.ฯ ที่มี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป เป็นประธาน ไม่สามารถหาข้อยุติเรื่อง การแยกงานสอบสวน ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า หลังจากนี้ที่ประชุมสปช. จะตั้งกมธ.ร่วมเพื่อพิจารณาเรื่องงานสอบสวนออกจากสตช. เป็นการเฉพาะอีกครั้ง โดยให้ตัวแทนจาก กมธ.ปฏิรูปด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของสปช. มาเข้าร่วมเป็นกมธ.ร่วมฯ เชื่อว่านายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. จะแต่งตั้งภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนติดตามรายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกมธ.ร่วมฯ ว่ามีประวัติอย่างใด และรับงานใครมาหรือไม่ ขณะที่หน้าที่ของคณะอนุกมธ.ฯ ที่สรุปความเห็นให้แยกงานสอบสอนออกเป็นอิสระจากสตช. ก็ต้องยุติบทบาทไป หรืออาจต้องรอดูว่าที่ประชุมสปช. จะมอบหมายไปทำหน้าที่อะไร หรือไม่
ที่ปรึกษาคณะอนุกมธ. กล่าวว่า งานสอบสวน จำเป็นที่จะต้องแยกออกจากสตช. อย่างแท้จริง และต้องทำงานอย่างสุจริต และมีเสรีภาพ เพราะมิเช่นนั้น ความสงบสุขของประชาชนและสังคม ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข และชาวบ้านก็จะขาดอิสระและเสรีภาพ ในการใช้ชีวิต เนื่องเกรงกลัวตำรวจอุ้มฆ่า และไปแก้สำนวนการสอบสวนในภายหลังอย่างหลายคดีที่ผ่านมา
" การทำงานของตำรวจที่ผ่านมา รับใช้ผู้มีอำนาจทางการเมือง จับตัวประชาชนไปกระทำทารุณกรรมอย่างโหดร้าย เช่น ลักพาตัวทนายสมชาย นีละไพจิตร ไปฆ่าทำลายศพ คดีฆ่าอำพรางประชาชน 2,500 ศพ ในคดียาเสพติด คดีฆ่าแขวนคอวัยรุ่นที่ จ.กาฬสินธุ์ หรือ ตำรวจฝ่ายสืบสวนจับประชาชนไปขังในเซฟเฮ้าส์ เพื่อเรียกค่าไถ่ และเสียชีวิตในจังหวัดสงขลา ล่าสุดสารวัตรสืบสวนที่ จ.อุดรธานี จับชาวลาวเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท และมีคดีต่างๆ ที่ผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังจำนวนมาก ที่ไม่เป็นข่าว เพราะได้สั่งให้พนักงงานสอบสวนยุติเรื่อง"
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า ตนมั่นใจ สุดท้ายแล้วงานทางด้านสอบสวน จะแยกเป็นอิสระจากสตช. อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ได้ถูกบัญญัติในร่างรธน. มาตรา 282 (8 ) เป็นที่แน่นอน และตนก็ไม่เชื่อว่า หากในอนาคตรธน.ทั้งฉบับ จะมีการทำประชามติ จะถูกคว่ำ เพราะเนื้อหาสาระในเรื่องดังกล่าว เป็นการปฏิรูปวงการตำรวจที่จับต้องได้ และเป็นประโยชน์ของประชาชนที่เห็นเป็นรูปธรรม
ด้านนายอมร วาณิชวิวัฒน์ สปช. ในฐานะอนุกรรมธิการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยอมรับว่า ภายในกมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ มีความขัดแย้งเรื่องการปฏิรูปตำรวจจริง แต่ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นความขัดแย้งเรื่องทางวิชาการ หลายคนบอกจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดี แต่ตนคิดว่า นี่เป็นสภาวิชาการ เพราะสภาทางการเมืองก็ทะเลาะเบาะแว้ง และฟ้องร้องกันยิ่งกว่านี้ แต่ตนในฐานะที่คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้ศึกษาถึงเรื่องการปฏิรูปมา 7 ปี จึงเห็นว่า ควรแยกงานสอบสวนให้เป็นอิสระ ออกจาก สตช. เพื่อมิให้ตำรวจช่วยเหลือกันเองในการทำสำนวนสอบสวน
" ผมรู้สึกเสียใจที่สมาชิกสปช.บางคน กล่าวหาว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายฯ พูดฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้ฟังตั้งแต่ต้นหรือไม่ และทุกอย่างมีที่มา ที่ไปชัดเจน ไม่มีการยกเมฆ มีเอกสารให้ศึกษาล่วงหน้า สติปัญญาของผู้ที่ได้รับคัดเลือกเข้ามา ก็เบอร์ต้นๆ ของประเทศ ทราบมาว่า มีบางคนไม่แฮปปี้กับคณะอนุกรรมาธิการชุดนี้ อาจจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการชุดใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยอาจจะใช้ตัวแทนจากคณะกรรมาการปฏิรูปชุดต่างๆ ชุดละ 2 คน เข้ามาทำหน้าที่แทน เช่น กมธ.ปฏิรูปการเมือง กมธ.ปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดิน ให้มาดูเรื่องการปฏิรูปตำรวจแทน" นายอมร กล่าว
นายวันชัย สอนศิริ สปช. ในฐานะอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน กล่าวว่า เรื่องการปฏิรูปกิจการตำรวจ ทุกคน ทุกฝ่าย ทั้งสปช. รัฐบาล ต้องการให้เรื่องนี้ผ่านออกมาเป็นรูปธรรม แต่ในคณะอนุกรรมาธิการฯ กลับมีความเห็นต่างกัน เรื่องการแยกงานสอบสวนให้เป็นอิสระออกจากสตช. ทำให้การประชุมสปช. เรื่องการปฏิรูปกิจการตำรวจ เกิดปัญหาความขัดแย้งกันเอง จนต้องเลื่อนการประชุมออกไป
ส่วนตัวเห็นด้วย ที่จะต้องให้งานสอบสวนเป็นอิสระในการทำงาน แต่ยังอยู่ในสังกัด สตช. เพราะงานสอบสวน จะต้องมีการสนับสนุนทั้งเรื่องการจับกุม และการดำเนินการอื่นๆ ที่ต้องทำร่วมกัน แต่ทางที่ดีคือ ต้องแยกงานสอบสวนออกมาเป็นหนึ่งแท่งเลย ให้เจ้าหน้าที่ในงานสอบสวนได้โตในหน้าที่การงานโดยที่ไม่ผูกกับระบบงานเดิม ที่สำคัญคือ ต้องทำให้ฝ่ายการเมือง เข้ามาแทรกแซงงานสอบสวนไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
"เท่าที่ผมฟังเสียงของสมาชิกสปช.ทั้งหมด เกี่ยวกับการให้แยกงานสอบสวนเป็นอิสระออกจากสตช. เห็นว่าเสียง สปช.ทั้ง 250 คน ในเรื่องนี้ ยังคงก่ำกึ่งกันอยู่ จะออกทางไหนก็ได้ แต่เรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แน่นอน เพราะทุกคนเห็นตรงกันว่า การปฏิรูปตำรวจ เป็นวาระแห่งชาติ เพียงแต่ยังมีความเห็นต่างที่จะต้องปรึกษาหารือกันต่อไป" นายวันชัย กล่าว
นายวันชัยกล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ ที่ประชุมวิป สปช. ได้มีมติให้เป็นอำนาจของ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ที่จะตั้งคณะกรรมการกิจการปฏิรูปตำรวจ โดยมีผู้แทนจากคณะกรรมาธิการปฏิรูปจาก 5 คณะ ประกอบด้วย คณะกมธ.ปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กมธ.ปฏิรูปการปกครองท้องถิ่น กมธ.การเมือง และ กมธ.ปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งเชื่อว่า นายเทียนฉาย จะรีบตั้งคณะกรรมการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นประเด็นที่ประชาชนสนใจ และอาจจะให้กรอบเวลาดำเนินการภายใน 60วัน โดยจะพิจารณาทั้งเนื้อหาสาระของกมธ.ปฏิรูปรวมถึงความเห็นต่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น