การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. วันนี้ (28 เม.ย.) เป็นการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ วาระที่ 15 เรื่องการสร้างสังคมผู้ประกอบการ และรายงานการพิจารณาของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม วาระที่ 6 เรื่องกิจการตำรวจ
โดยวาระที่ 15 การสร้างสังคมผู้ประกอบการนั้น คณะกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ ได้ศึกษาความเป็นมาและประเด็นปัญหาในการสร้างสังคมผู้ประกอบการ ว่าเกิดจากข้อจำกัดด้านค่านิยม จิตวิญญาณและทักษะพื้นฐานของผู้ประกอบการ ไม่ตระหนักว่าการประกอบธุรกิจมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ขาดทักษะด้านการตลาด ขาดข้อมูลเชิงลึกในการวางแผนธุรกิจ เครือข่ายวิสาหกิจที่อ่อนแอ จึงต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่จำนวนมากและมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะอยู่รอดภายใต้การค้าเสรี สามารถยกระดับความสามารถของเอสเอ็มอี ให้เติบโตจากท้องถิ่นสู่ภูมิภาคและต่างประเทศ โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยมีศักยภาพและตลาดรองรับ
ส่วนการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ วาระที่ 6 เรื่องกิจการตำรวจนั้น สืบเนื่องจากการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดปัญหาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใช้อำนาจเชิงรวมศูนย์ในทุกด้าน ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนการสั่งการบังคับบัญชา ซึ่งปัจจุบันหลายกรณีเกิดปัญหาทุจริต ส่งผลกระทบกับการทำงานทั้งระบบ มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการบริหารและการปฏิบัติงานของตำรวจทุกๆด้านจากส่วนกลาง เห็นได้จากทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็จะเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกครั้ง เพื่อให้การปฏิบัติงานของตำรวจตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมือง ส่งผลให้สังคมเกิดความแตกแยก
โดยวาระที่ 15 การสร้างสังคมผู้ประกอบการนั้น คณะกรรมาธิการปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ ได้ศึกษาความเป็นมาและประเด็นปัญหาในการสร้างสังคมผู้ประกอบการ ว่าเกิดจากข้อจำกัดด้านค่านิยม จิตวิญญาณและทักษะพื้นฐานของผู้ประกอบการ ไม่ตระหนักว่าการประกอบธุรกิจมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ขาดทักษะด้านการตลาด ขาดข้อมูลเชิงลึกในการวางแผนธุรกิจ เครือข่ายวิสาหกิจที่อ่อนแอ จึงต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดผู้ประกอบการใหม่จำนวนมากและมีความเข้มแข็งเพียงพอที่จะอยู่รอดภายใต้การค้าเสรี สามารถยกระดับความสามารถของเอสเอ็มอี ให้เติบโตจากท้องถิ่นสู่ภูมิภาคและต่างประเทศ โดยเฉพาะในสาขาที่ไทยมีศักยภาพและตลาดรองรับ
ส่วนการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ วาระที่ 6 เรื่องกิจการตำรวจนั้น สืบเนื่องจากการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดปัญหาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใช้อำนาจเชิงรวมศูนย์ในทุกด้าน ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ การใช้งบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนการสั่งการบังคับบัญชา ซึ่งปัจจุบันหลายกรณีเกิดปัญหาทุจริต ส่งผลกระทบกับการทำงานทั้งระบบ มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการบริหารและการปฏิบัติงานของตำรวจทุกๆด้านจากส่วนกลาง เห็นได้จากทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็จะเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกครั้ง เพื่อให้การปฏิบัติงานของตำรวจตอบสนองผลประโยชน์ทางการเมือง ส่งผลให้สังคมเกิดความแตกแยก
