ASTVผู้จัดการรายวัน – “โรส” ปักธงมุ่งขายคอนเทนต์ พร้อมผลิตเกมโชว์ป้อนทีวีดิจิตอล และฟรีทีวี หวังเป็นรายได้หลักในอนาคต ชี้เศรษฐกิจชะลอตัว ขายโฆษณายาก ฉีกวิธีใหม่ขายโฆษณาแบบเหมารวม ช่วยพยุงรายได้ปีนี้สู่ 600 ล้านบาท
นางอรพรรณ บวรวัฒนะ ประธานกรรมการ บริษัท โรส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงต้นปีนี้ไม่ดี ทำให้ขายโฆษณาได้น้อย ทางบริษัทจึงต้องมีการปรับวิธีการขายโฆษณาใหม่แบบเหมารวมให้ลูกค้าสามารถลงโฆษณาได้ในทุกสื่อที่มีอยู่ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9,500 บาทต่อนาที ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารช่องทีวีดาวเทียมอยู่ 2 ช่อง คือ แก็งการ์ตูน, 40-50 และบริหารบางช่วงเวลาในทีวีดิจิตอลอีก 3 ช่อง คือ ช่อง3แฟมิลี่, จีเอ็มเอ็ม แชนแนล และ เนชั่นทีวี โดยลูกค้าจะสามารถลงโฆษณาได้ทั้งหมดในราคาดังกล่าว
“เศรษฐกิจไม่ดี เอเจนซี่พิจารณาการใช้เงินซื้อโฆษณามากขึ้น ปกติจะนิยมซื้อผ่านทางช่องมากกว่า เพราะจะได้ส่วนลดหรือประโยชน์ที่ดีกว่า ดังนั้นรายการที่มีอยู่ในหลายๆช่องจึงขายโฆษณาได้ยาก ทำให้บริษัทต้องมีการปรับวิธีการขายโฆษณาใหม่เป็นแบบขายเหมารวม ลูกค้าได้ลงในทุกช่องทางที่เรามี”
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะมุ่งขายคอนเทนต์ไปยังช่องทีวีดิจิตอลและฟรีทีวีมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีการประมูลทีวีดิจิตอลเสร็จสิ้นจนถึงปัจจุบัน ที่ได้รับการติดต่อจากหลายๆช่องเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งทางบริษัทมีความสนใจและขอเลือกพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุน .
จากปัจจุบันมีคอนเทนต์นำเสนอใน 3 ช่อง คือ ช่อง3แฟมิลี่, จีเอ็มเอ็ม แชนแนล และ เนชั่นทีวี ปีนี้กำลังพิจารณาที่จะเพิ่มเข้ามาอีก 2 ช่อง ในการที่จะนำคอนเทนต์การ์ตูนไปออกอากาศ รวมถึงผลิตเกมโชว์สำหรับเด็กและครอบครัว ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศ ให้กับทีวีดิจิตอลและฟรีทีวี ที่ได้นำเสนอรายการไปในหลายๆช่องให้พิจารณา เชื่อว่าจะเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ในอนาคต
“หลังจากนี้บริษัทจะวางคอนเทนต์การ์ตูนที่ออกอากาศในทีวีดิจิตอลเป็น เฟิร์สทรัน ขณะที่ช่องแก็งค์การ์ตูนจะทำหน้าที่รีรัน ดังนั้นทีวีดิจิตอลจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้หลักต่อไป ถึงแม้ว่าปัจจุบันเรตติ้งทีวีดิจิตอลยังไม่ดีแต่มองเป็นโอกาสในอนาคต ส่งผลให้บริษัทยังพร้อมที่จะลงทุนซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์การ์ตูนเข้ามาในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในการออกอากาศทางทีวีดิจิตอลไม่ต่ำกว่า 4,000 ตอนต่อปี โดยปีนี้ลงทุนไปกว่า 150 ล้านบาทในการซื้อคอนเทนต์ใหม่”
นางอรพรรณ กล่าวต่อว่า ช่วงที่เตรียมตัวประมูลช่องทีวีดิจิตอล บริษัทได้ลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท สร้างสตูดิโอขึ้นมารองรับ พร้อมรับพนักงานใหม่อีก 60-70 อัตรา แต่เมื่อไม่ได้ทำให้ต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานใหม่ โดยในระยะแรกยอมรับว่าเสียดาย แต่มาจนถึงปัจจุบันหลังจากที่มองเห็นความล่าช้าและปัญหาต่างๆที่ทำให้ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นได้ช้า รายได้ไม่มี หลายรายแบกรับต้นทุนจากปัญหาแย่งชิงซื้อคอนเทนต์อย่างหนักในปีก่อน จึงถือว่าโชคดีกว่าหลายราย อีกทั้งยังมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากการขายคอนเทนต์ให้กับทีวี ดิจิตอลหลายๆช่อง
อย่างไรก็ตามปีนี้ตั้งเป้าขายคอนเทนต์ไว้ 200-300 ล้านบาท แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ทำการขายได้เพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น บวกกับรายได้โฆษณาที่ทำไว้ โดยรวมตลอดปีนี้มองว่า โรสเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะมีรายได้ที่ 300 ล้านบาท โตขึ้น 20% ส่วนบริษัท โรสมีเดีย จำกัด ที่ดูแลในเรื่องของโฮมวิดีโอทั้งหมด ปีนี้น่าจะทำรายได้ที่ 200-300 ล้านบาท เท่าปีก่อน ส่งผลให้ทั้งปีน่าจะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท
นางอรพรรณ บวรวัฒนะ ประธานกรรมการ บริษัท โรส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงต้นปีนี้ไม่ดี ทำให้ขายโฆษณาได้น้อย ทางบริษัทจึงต้องมีการปรับวิธีการขายโฆษณาใหม่แบบเหมารวมให้ลูกค้าสามารถลงโฆษณาได้ในทุกสื่อที่มีอยู่ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9,500 บาทต่อนาที ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารช่องทีวีดาวเทียมอยู่ 2 ช่อง คือ แก็งการ์ตูน, 40-50 และบริหารบางช่วงเวลาในทีวีดิจิตอลอีก 3 ช่อง คือ ช่อง3แฟมิลี่, จีเอ็มเอ็ม แชนแนล และ เนชั่นทีวี โดยลูกค้าจะสามารถลงโฆษณาได้ทั้งหมดในราคาดังกล่าว
“เศรษฐกิจไม่ดี เอเจนซี่พิจารณาการใช้เงินซื้อโฆษณามากขึ้น ปกติจะนิยมซื้อผ่านทางช่องมากกว่า เพราะจะได้ส่วนลดหรือประโยชน์ที่ดีกว่า ดังนั้นรายการที่มีอยู่ในหลายๆช่องจึงขายโฆษณาได้ยาก ทำให้บริษัทต้องมีการปรับวิธีการขายโฆษณาใหม่เป็นแบบขายเหมารวม ลูกค้าได้ลงในทุกช่องทางที่เรามี”
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะมุ่งขายคอนเทนต์ไปยังช่องทีวีดิจิตอลและฟรีทีวีมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีการประมูลทีวีดิจิตอลเสร็จสิ้นจนถึงปัจจุบัน ที่ได้รับการติดต่อจากหลายๆช่องเข้ามาตลอดเวลา ซึ่งทางบริษัทมีความสนใจและขอเลือกพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุน .
จากปัจจุบันมีคอนเทนต์นำเสนอใน 3 ช่อง คือ ช่อง3แฟมิลี่, จีเอ็มเอ็ม แชนแนล และ เนชั่นทีวี ปีนี้กำลังพิจารณาที่จะเพิ่มเข้ามาอีก 2 ช่อง ในการที่จะนำคอนเทนต์การ์ตูนไปออกอากาศ รวมถึงผลิตเกมโชว์สำหรับเด็กและครอบครัว ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศ ให้กับทีวีดิจิตอลและฟรีทีวี ที่ได้นำเสนอรายการไปในหลายๆช่องให้พิจารณา เชื่อว่าจะเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ในอนาคต
“หลังจากนี้บริษัทจะวางคอนเทนต์การ์ตูนที่ออกอากาศในทีวีดิจิตอลเป็น เฟิร์สทรัน ขณะที่ช่องแก็งค์การ์ตูนจะทำหน้าที่รีรัน ดังนั้นทีวีดิจิตอลจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้หลักต่อไป ถึงแม้ว่าปัจจุบันเรตติ้งทีวีดิจิตอลยังไม่ดีแต่มองเป็นโอกาสในอนาคต ส่งผลให้บริษัทยังพร้อมที่จะลงทุนซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์การ์ตูนเข้ามาในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในการออกอากาศทางทีวีดิจิตอลไม่ต่ำกว่า 4,000 ตอนต่อปี โดยปีนี้ลงทุนไปกว่า 150 ล้านบาทในการซื้อคอนเทนต์ใหม่”
นางอรพรรณ กล่าวต่อว่า ช่วงที่เตรียมตัวประมูลช่องทีวีดิจิตอล บริษัทได้ลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท สร้างสตูดิโอขึ้นมารองรับ พร้อมรับพนักงานใหม่อีก 60-70 อัตรา แต่เมื่อไม่ได้ทำให้ต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานใหม่ โดยในระยะแรกยอมรับว่าเสียดาย แต่มาจนถึงปัจจุบันหลังจากที่มองเห็นความล่าช้าและปัญหาต่างๆที่ทำให้ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นได้ช้า รายได้ไม่มี หลายรายแบกรับต้นทุนจากปัญหาแย่งชิงซื้อคอนเทนต์อย่างหนักในปีก่อน จึงถือว่าโชคดีกว่าหลายราย อีกทั้งยังมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มจากการขายคอนเทนต์ให้กับทีวี ดิจิตอลหลายๆช่อง
อย่างไรก็ตามปีนี้ตั้งเป้าขายคอนเทนต์ไว้ 200-300 ล้านบาท แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ทำการขายได้เพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น บวกกับรายได้โฆษณาที่ทำไว้ โดยรวมตลอดปีนี้มองว่า โรสเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะมีรายได้ที่ 300 ล้านบาท โตขึ้น 20% ส่วนบริษัท โรสมีเดีย จำกัด ที่ดูแลในเรื่องของโฮมวิดีโอทั้งหมด ปีนี้น่าจะทำรายได้ที่ 200-300 ล้านบาท เท่าปีก่อน ส่งผลให้ทั้งปีน่าจะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท