“แกรมมี่” ซุ่มดูเชิงทีวีดาวเทียม แม้มีปัญหาร้อนรายวัน มั่นใจศักยภาพ เดินหน้าลุยช่อง “จีเอ็มเอ็ม แชนแนล” ส่งคิลเลอร์คอนเทนต์ลงผังเดือน ต.ค. มั่นใจปี 58 รายได้ 1 พันล้านบาท คุ้มทุนใน 3-5 ปี พร้อมขึ้นแท่น 1 ใน 5 ในแง่เรตติ้งช่องทีวีดิจิตอลใน 3 ปี
นางสาวสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด เปิดเผยว่า การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมโทรทัศน์จากระบบแอนะล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลที่มีปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงข่าย การรับรู้ของประชาชน ความล่าช้าของคูปองแลกซื้อกล่องรับสัญญา ความต้องการของเอเยนซี เรตติ้งรายการ รวมถึงปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกว่าจะจอดำหรือไม่ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่เเราทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ แล้วค่อยทำให้ดีที่สุด
“ปัญหาช่อง 3 แอนะล็อกจะจอดำหรือไม่ในปลายเดือน ก.ย.นี้ มองเป็นเรื่องปกติที่เป็นปัญหาของการเปลี่ยนผ่านจากแอนะล็อกสู่ดิจิตอลซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความกังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอล จึงต้องเฝ้าดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจทำอะไร แต่เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เรามีและจะทำให้ดีที่สุด จึงพร้อมนำเสนอช่อง จีเอ็มเอ็ม แชนแนล อย่างเป็นทางการ ด้วยผังรายการในเดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป”
สำหรับช่อง “จีเอ็มเอ็ม แชนแนล” บริษัทฯ วางให้เป็นช่องแห่งความสนุกสำหรับผู้ชม โดยเฉพาะฐานแฟนเพลงแกรมมี่ที่มีหัวใจเป็นเด็ก มีความสนุก รักความบันเทิง เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยแบ่งสัดส่วนรายการออกเป็น ข่าว 20% สาระความรู้ 30% วาไรตี้ ละคร ซิตคอม 40% และกีฬา 10% ด้วยสโลแกน “สนุกทุกวัน อยู่ด้วยกันทุกเวลา”
ล่าสุดในเดือน ต.ค.ศกนี้ ยังมีการจัดผังรายการใหม่ หลังจากที่ทดลองออกอากาศมา 4-5 เดือน โดยมาพร้อมคิลเลอร์ คอนเทนต์ใหม่ๆ เช่น รายการ “4 มิติ” เป็นวาไรตี้ขยี้ข่าวจาก 4 พิธีกรคือ โอปอล์ ปาณิสรา, เผือก พงศธร, เอกกี้ เอกชัย และอ้อม สุนิสา รายการ “เกรียน Possible” รายการที่จะปั้นเด็กเกรียนให้เกิด รายการ “F Tube” รายการวัยรุ่นที่จะเล่าเรื่องง่ายๆให้ได้อารมณ์ รายการ “GMM News” รายการข่าว นำเสนอแบบทันสมัยด้วย ดร.อั๋น ภูวนาท คุณผลิน, ดร.เปปเปอร์ รัฐศาสตร์ กรสูต, นาเดีย โสณกุล เป็นต้น และรายการ “Club Friday Day the Series#5” เป็นต้น
“เบื้องต้นต่อปีจะมีการลงทุนราว 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าผลิตคอนเทนต์ 400-500 ล้านบาท และค่าไลเซนส์ 500 ล้านบาท โดยผังรายการใหม่นี้จะมีการลดจำนวนการรีรันจากสัดส่วน 40% เหลือ 15% และมีการดึงคอนเทนต์รายการจากช่องทีวีดาวเทียมของแกรมมี่ คิดเป็นสัดส่วน 20-25% ของผังรายการทั้งหมด เช่น แฉแต่เช้า และฮอร์โมน เป็นต้น ซึ่งมากกว่า 50% ทางแกรมมี่เป็นผู้ผลิตรายการเอง และจ้างผลิตกับผู้จัดจากภายนอกด้วย โดยรายการที่สามารถขายโฆษณาได้สูงสุดคือ Club Friday Day, เกรียน Possible และEFM TV เป็นต้น”
นางสาวสายทิพย์ กล่าวต่อว่า ผังรายการใหม่เดือน ต.ค.นี้ถือเป็นการรุกในธุรกิจทีวีดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบครั้งแรกของช่อง “จีเอ็มเอ็ม แชนแนล” โดยจะเริ่มขายโฆษณาหลังจากนี้เป็นต้นไ ภายใต้ราคาโฆษณาที่วางไว้เฉลี่ย 2.5-3 หมื่นบาทต่อนาที ซึ่งจะมีการขายเป็นแพกเกจพ่วงกับไทอิน หรืออีเวนต์ตามคอนเซ็ปต์ช่องที่ชูในเรื่องของรีเรชัน มาร์เกตติ้ง และอีเวนต์ เทเลวิชัน เชื่อว่าในปี 2558 จะมีรายได้คุ้มทุน 1,000 ล้านบาท หรือคุ้มทุนและมีกำไรภายใน 3-5 ปี โดยมั่นใจว่าภายใน 3 ปีจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ในแง่เรตติ้งช่องทีวีดิจิตอลทั้งหมด