xs
xsm
sm
md
lg

ลดค่าไฟ9.35สต./หน่วย2งวดข่าวดีปี58ค่าไฟลงรวม30สตางค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ข่าวดีเรกูเลเตอร์เคาะแล้วลดค่าเอฟทีงวด(พ.ค.-ส.ค.58) 9.35 สต./หน่วย ดึงค่าไฟงวดก.ย.-ธ.ค.58ที่ลงแรง 13 สตางค์ต่อหน่วยมาเกลี่ยจากงวดนี้ลงได้จริงเพียง 5.69 สต./หน่วยทำให้เหลือลดงวดก.ย.-ธ.ค.58 อีก9.35 สต./หน่วยหากปัจจัยต่างๆไม่เปลี่ยน ตลอดปีค่าเฟทีจ่อลงรวม30สต./หน่วย

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์)ในฐานะโหษกเรกูเลเตอร์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการฯเพื่อพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟกับประชาชนงวดพ.ค.-ส.ค.58 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเก็บค่าเอฟทีในอัตรา 49.61 สตางค์ต่อหน่วยโดยปรับลดลงจากเดิม 9.35 สตางค์ต่อหน่วยเมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมาจำนวน 58.96 สตางค์ต่อหน่วยส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าเมื่อรวมค่าไฟฐานทุกประเภทจะอยู่ที่ 3.76 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ค่าเอฟทีที่ลดลงดังกล่าวเกิดจากการนำค่าเอฟทีงวดหน้า(ก.ย.-ธ.ค.58) ที่คาดว่าจะลดลงมากถึง 13 สตางค์ต่อหน่วยมาเกลี่ยในงวดนี้เพิ่มจากที่งวดพ.ค.-ส.ค.58 จะลดลงได้เพียง 5.96 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้นจึงได้นำเอฟทีงวดหน้า13 สตางค์ต่อหน่วยรวมกับงวดนี้ที่ลงได้5.96 สตางค์ต่อหน่วยแล้วหารด้วย2 จึงทำให้ค่าไฟงวดนี้ลด9.35 สตางค์ต่อหน่วยซึ่งหมายถึงค่าไฟงวดต่อไปคือก.ย.-ธ.ค.58จะลดลงในอัตราที่เท่ากับงวดนี้เช่นกันหากปัจจัยต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่น ค่าเงินบาท และราคาน้ำมันที่จะสะท้อนไปยังราคาก๊าซฯที่ไม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเอฟทีงวดพ.ค.-ส.ค.58 ลดลงมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่สะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง6 เดือนลดลงโดยคาดว่าราคาก๊าซฯจะอยู่ที่ 262.40บาทต่อล้านบีทียู ปรับลดลงจากงวดก่อน 20.60 บาทต่อล้านบีทียู น้ำมันเตาอยู่ที่ 15.20 บาทต่อลิตรลดลง 6.83 บาทต่อลิตร แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์หยุดจ่ายก๊าซพม่าตั้งแต่ช่วง 10-27 เม.ย.ทำให้ต้องใช้น้ำมันเตาเพิ่มจากแผนเดิม 56.49 ล้านลิตร ส่วนน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 25.86 บาทต่อลิตรเพิ่มขึ้น 1.31 บาทต่อลิตร และถ่านหินนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.17 บาทต่อตัน

นอกจากนี้ความต้องการพลังงานไฟฟ้าคาดว่าจะเท่ากับ 63,401 ล้านหน่วยสูงกว่าช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.58 จำนวน6.58% ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงนี้ไม่ผันผวนมากนักโดยอยู่ระดับ33.05 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้เมื่อรวมค่าเอฟทีตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปีนี้จะลดลงรวมประมาณ30 สตางค์ต่อหน่วย

"กรณีที่ภาคเอกชนได้เสนอให้ลดค่าเอฟทีแรงๆ 15 สตางค์ต่อหน่วยนั้นเราก็เห็นว่าข้อเท็จจริงแล้วถ้านำงวดหน้ามาเกลี่ยลงงวดนี้ในอัตราดังกล่าว งวดหน้าก็อาจจะลดน้อยหรือไม่ลดเลยก็จะไม่ใช่สิ่งที่ดีและอาจทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มีภาระได้อีก อย่างไรก็ตามงวดหน้าจะลงได้ตามที่คาดหรือไม่ก็ต้องดูค่าเงินบาทหากต้องไม่อ่อนค่าไปจากปัจจุบันระดับ33บาทต่อเหรียญสหรัฐ รวมถึงการรับซื้อไฟจากถ่านหินลิกไนต์จากโรงไฟฟ้าหงสา สปป,ลาว อาจจะมีส่วนทำให้ค่าไฟถูกลงได้อีก"นายวีระพลกล่าว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คณะอนุฯเอฟทีได้พิจารณาค่าเอฟทีงวดนี้จะลงได้เพียง 4.3 สตางค์ต่อหน่วยแต่ได้มอบหมายให้กฟผ.ไป ทบทวนตัวเลขที่คำนวณได้มาใหม่และทำให้ค่าเอฟทีลงได้เป็น 5.96สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งในงวดนี้ในส่วนของต้นทุนจากพลังงานหมุนเวียนต่างๆ โดยรวมคิดเป็นผลกระทบประมาณ 8,144 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น