xs
xsm
sm
md
lg

จับตาราคาน้ำมัน–ค่าไฟขาลงถึงสิ้นปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-จับตาราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าของไทยหลังเม.ย.จนถึงสิ้นปี ยังคงมีทิศทางที่จะเป็นขาลงต่อเนื่อง หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ยทรงตัวในระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฐานะดี มีลุ้นลดเก็บเงินอีกได้ ส่วนค่าไฟงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) ได้รับผลดีจากน้ำมัน จ่อลดแรงกว่า10 สตางค์ต่อหน่วย

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตผู้บริหาร บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ทิศทางราคาน้ำมันขายปลีกของไทยยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลงได้ต่ออีกในปีนี้ หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาดูไบเฉลี่ยไม่เกินระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ก็ต้องติดตามปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะมีการฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใดด้วย

“ถ้าราคาน้ำมันตลาดโลกยังอ่อนตัวในระดับปัจจุบันโอกาสที่ราคาขายปลีกของไทยจะลดลงก็ยังมีอยู่ไปต่อเนื่อง แต่จะสิ้นปีหรือไม่คงต้องดูช่วงไตรมาส4 ที่ปกติน้ำมันจะมีราคาสูง โดยเฉพาะดีเซล เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ถ้าเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ในแง่ของการปรับลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงมา ซึ่งจะมีผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันต่ำลงอีกนั้น ก็คงอยู่ที่นโยบายรัฐบาล แต่ส่วนตัวมองว่าถ้าน้ำมันโลกยังต่ำระดับนี้ การเก็บเงินที่สูงกว่า3หมื่นล้านบาทของกองทุนน้ำมันฯ ก็มีโอกาสจะเห็นลดลงได้อีก”นายอนุสรณ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดต่ำลง ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะเอทานอลลดตามไปด้วย โดยเฉพาะยอดขายแก๊สโซฮอล์ E85 ที่ลดต่อเนื่อง เพราะราคาเมื่อเทียบกับแก๊สโซฮอล์ 91 ไม่จูงใจเมื่อเทียบการประหยัดแก๊สโซฮอล์ 91ก็มากกว่า ดังนั้น การลดหัวจ่ายน้ำมันโดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 91เพื่อให้การใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น ก็ไม่มีผลที่จะไปทำให้ประชาชนหันมาเติม E 20 และE85เพิ่มขึ้นแต่อย่างใดในช่วงราคาน้ำมันถูก จึงเป็นที่มาให้รัฐกำหนดเป้าหมายการใช้เอทานอลจากเดิมที่วางไว้ 9 ล้านลิตรต่อวันเหลือ 6ล้านลิตรต่อวันในปี 2564

ทั้งนี้ รัฐมองว่าการจะเร่งให้ไปใช้ E 85 ที่ต้องอุดหนุนราคาถึง8.20 บาทต่อลิตร ก็ต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นอีกมาก เป้าหมายการใช้เอทานอลที่ลดลงมาแล้ว หากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงระดับต่ำจากที่เคยอยู่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐเช่นนี้ ก็ยากที่จะส่งเสริมให้ใช้ได้ระดับ6 ล้านลิตร โดยมองว่าระดับ 4.5 ล้านลิตรต่อวันก็ดีสุดแล้ว

นายเทียนไชย จงพีร์เพียร กรรมการในคณะอนุกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า กล่าวว่า จากราคาน้ำมันตลาดโลกปี 2557 เฉลี่ยที่ระดับ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลลดลงมาอยู่ในขณะนี้เพียง 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลทำให้ฐานราคาน้ำมันในภาพรวมปีนี้ลดต่ำลงมากเกือบ50% ดังนั้น จึงสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติที่อิงน้ำมันย้อนหลัง6 เดือนให้ลดต่ำลง ดังนั้น หากมองเช่นนี้แล้วจะมีผลทำให้ราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ใน2งวดสุดท้ายของปี คือ งวด พ.ค.-ส.ค.และงวดก.ย.-ธ.ค.2558 มีโอกาสลดลงต่อ

“ผมเป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการพิจารณาเอฟที ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์ ซึ่งจะมีการประชุมกันในช่วงหลังสงกรานต์นี้ เพื่อพิจารณาค่าเอฟทีซึ่งจะเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนงวดพ.ค.-ส.ค. ซึ่งราคาลดลงแน่แต่เท่าใดยังคงบอกไม่ได้ส่วนงวดต่อไปหากราคาน้ำมันโลกไม่เปลี่ยนแปลงมากก็น่าจะลดลงได้ต่อ”นายเทียนไชยกล่าว

แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า แนวโน้มค่าเอฟทีงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) นี้ มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงเฉลี่ยอย่างต่ำ 10 สตางค์ต่อหน่วยจากภาวะอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าและราคาก๊าซธรรมชาติที่สะท้อนจากต้นทุนราคาน้ำมันย้อนหลัง6 เดือนที่ราคาน้ำมันได้ลดต่ำลงต่อเนื่องทำให้ก๊าซฯมีราคาลดลง

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องรอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) พิจารณาอย่างเป็นทางการภายในเม.ย.นี้ อีกครั้ง เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามา เช่น แผนการลงทุนของ3การไฟฟ้าว่าจะมีการนำมาเกลี่ยลดหรือไม่อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น