“เรกูเลเตอร์” แย้มข่าวดีค่าไฟส่อแนวโน้มลดลงตลอดปี 58 หากน้ำมันดิบเฉลี่ย 60 เหรียญต่อบาร์เรล ประเดิมงวดแรก (ม.ค.-เม.ย. 58) เคาะลด 10.04 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีเหลือ 58.96 สตางค์ต่อหน่วย
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ ในฐานะโฆษกเรกูเลเตอร์ เปิดเผยภายหลังการประชุม กกพ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อเรียกเก็บงวด ม.ค.-เม.ย. 2558 ในอัตรา 58.96 สตางค์ต่อหน่วย โดยปรับลดลงจากเดิม 10.04 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมาที่ค่าเอฟทีอยู่ที่ 69 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทจ่ายจะอยู่ที่ 3.86 บาทต่อหน่วย
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าไฟลดลงมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแรงซึ่งจะสะท้อนมายังราคาก๊าซธรรมชาติให้ปรับตัวลงตามแนวโน้มก็จะทำให้ค่าเอฟทีลดลง แต่จะลดลงมากน้อยเพียงใดก็คงจะขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกด้วย โดยหากราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยประมาณ 60 เหรียญต่อบาร์เรลตลอดทั้งปีคาดว่าจะส่งผลให้ค่าเอฟทีงวดที่เหลืออีก 2 งวดปรับตัวลดลง
“กรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องการเห็นค่าเอฟทีงวดนี้ลดลง 20 สตางค์ต่อหน่วยนั้นก็ไม่ทราบว่านำตัวเลขมาจากที่ใด เพราะการพิจารณาก็จะยึดตามต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละงวด ซึ่งการผลิตไฟเชื้อเพลิงหลักมาจากก๊าซธรรมชาติซึ่งสูตรราคาก๊าซฯ จะอิงกับน้ำมันเตาย้อนหลังแล้วแต่สัญญา 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งน้ำมันที่ลงแรงไม่ได้จะมีผลในทันทีทั้งหมด” นายวีระพลกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ค่าเอฟทีในงวด ม.ค.-เม.ย. 58 ลดลงมาจากราคาก๊าซฯ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ผลิตไฟฟ้าหลัก 67% อยู่ที่ 285.90 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 7.43 บาทต่อล้านบีทียู น้ำมันเตาจะอยู่ที่ 22.03 บาทต่อลิตร ลดลง 5.86 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าคาดว่าจะเท่ากับ 59,424 ล้านหน่วย สูงกว่าช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 57 ประมาณ 1.59% ตามความต้องการที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ขณะเดียวกันอัตราแลกเปลี่ยนช่วงต้นปี 58 คาดว่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดที่ผ่านมา เป็นต้น
“หลักๆ ครั้งนี้ที่ทำให้ค่าไฟลดลงคือราคาก๊าซจากพม่าเพราะมีสัดส่วนที่จะสะท้อนจากราคาน้ำมันถึง 50% และย้อนหลัง 4 เดือน และอีกส่วนก็คือราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG นำเข้าที่ลดลงเหลือ 10-11 เหรียญต่อล้านบีทียู จากเดิม 15-16 เหรียญต่อล้านบีทียู ส่วนก๊าซฯ จากอ่าวไทยที่จะอิงน้ำมันประมาณ 30% จะไปสะท้อนในงวดหน้าเป็นหลัก” นายวีระพลกล่าว