ASTVผู้จัดการรายวัน-ส.อ.ท.จี้ลดค่าขนส่งทั้งระบบลง 20% และลดค่าเอฟทีลงหน่วยละ 20 สตางค์ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนน้ำมันที่ลดลงแรง หวังช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านเรกูเรเตอร์นัดเคาะลดค่าไฟวันนี้ แย้มลงได้ 8-10 สตางค์ต่อหน่วย เอกชนหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อเบรกค่าไฟแพง เหตุระยะยาวไทยยังต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติมากขึ้น
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาน้ำมันได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเกือบ 50% แต่ค่าโดยสารขนส่งกลับไม่ลดลงเท่าที่ควร เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลง โดยเห็นว่าค่าโดยสารทั้งบรรทุก รถยนต์ และรถไฟ เรือ ควรจะลดลงประมาณ 20% เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่เห็นว่าควรจะลดลงประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วยได้
“ค่าโดยสารต่างๆ ที่เป็นต้นทุนภาคการผลิต ควรจะลดลง 20% เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าก็ยังไม่ลดลง ซึ่ง ส.อ.ท.ต้องการเห็นค่าไฟฟ้าลดลง เพราะพลังงานที่เป็นต้นทุนลดลงมามากแล้ว หากสิ่งเหล่านี้ ไม่ลงตาม ก็ไม่เป็นการช่วยลดต้นทุนภาคอุตสาหกรรมที่จะส่งผลไปเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจปีหน้าดีขึ้นได้ โดยรัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณควบคู่ไปด้วย”นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธ์กล่าวถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนพ.ย.2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 89.7 จากที่เดือนต.ค.2557 อยู่ที่ระดับ 87.5 เนื่องจากการส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี ส่งผลให้ยอดขายในประเทศกระเตื้องขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น และการส่งออกไปประเทศคู่ค้ามีทิศทางดีขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลงต่อเนื่องช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลง แต่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ยังกังวลต่อสภาพคล่องทางการเงิน การขาดแคลนวัตถุดิบและความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐเดือนพ.ย. คือ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงยกเลิกกฏอัยการศึก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว พร้อมจัดตั้งศูนย์ติดตามมาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อแก้ปัญหาทางการค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น เหล็ก อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและช่วยเหลือผู้ผลิตในประเทศ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (25 ธ.ค.) จะมีการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft ) ประจำงวดเดือนม.ค.-เม.ย.2558 โดยคาดว่าจะปรับลดค่าเอฟทีลง 8-10 สตางค์ต่อหน่วย และคาดว่า แนวโน้มการปรับลดลงในงวดต่อไป ยังคงมีอยู่ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติจะถูกลงจากราคาที่สะท้อนจากน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือน
นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. แถลงจุดยืนด้านพลังงานของส.อ.ท.ว่า ส.อ.ท.สนับสนุนให้มีการเพิ่มสัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินสะอาด (clean coal technology) เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าในประเทศในปัจจุบันใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตมากถึง 67% แต่ก๊าซฯ อ่าวไทยเริ่มลดต้องนำเข้าจากต่างประเทศในราคาแพงที่แนวโน้มนำเข้าจะสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าให้เพิ่มตาม และในที่สุดจะกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาน้ำมันได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเกือบ 50% แต่ค่าโดยสารขนส่งกลับไม่ลดลงเท่าที่ควร เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลง โดยเห็นว่าค่าโดยสารทั้งบรรทุก รถยนต์ และรถไฟ เรือ ควรจะลดลงประมาณ 20% เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่เห็นว่าควรจะลดลงประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วยได้
“ค่าโดยสารต่างๆ ที่เป็นต้นทุนภาคการผลิต ควรจะลดลง 20% เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าก็ยังไม่ลดลง ซึ่ง ส.อ.ท.ต้องการเห็นค่าไฟฟ้าลดลง เพราะพลังงานที่เป็นต้นทุนลดลงมามากแล้ว หากสิ่งเหล่านี้ ไม่ลงตาม ก็ไม่เป็นการช่วยลดต้นทุนภาคอุตสาหกรรมที่จะส่งผลไปเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทย และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจปีหน้าดีขึ้นได้ โดยรัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณควบคู่ไปด้วย”นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธ์กล่าวถึงผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนพ.ย.2557 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 89.7 จากที่เดือนต.ค.2557 อยู่ที่ระดับ 87.5 เนื่องจากการส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี ส่งผลให้ยอดขายในประเทศกระเตื้องขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น และการส่งออกไปประเทศคู่ค้ามีทิศทางดีขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลงต่อเนื่องช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลง แต่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ยังกังวลต่อสภาพคล่องทางการเงิน การขาดแคลนวัตถุดิบและความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐเดือนพ.ย. คือ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงยกเลิกกฏอัยการศึก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว พร้อมจัดตั้งศูนย์ติดตามมาตรการกีดกันทางการค้า เพื่อแก้ปัญหาทางการค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น เหล็ก อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและช่วยเหลือผู้ผลิตในประเทศ
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า วันนี้ (25 ธ.ค.) จะมีการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft ) ประจำงวดเดือนม.ค.-เม.ย.2558 โดยคาดว่าจะปรับลดค่าเอฟทีลง 8-10 สตางค์ต่อหน่วย และคาดว่า แนวโน้มการปรับลดลงในงวดต่อไป ยังคงมีอยู่ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติจะถูกลงจากราคาที่สะท้อนจากน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือน
นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม ส.อ.ท. แถลงจุดยืนด้านพลังงานของส.อ.ท.ว่า ส.อ.ท.สนับสนุนให้มีการเพิ่มสัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินสะอาด (clean coal technology) เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าในประเทศในปัจจุบันใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตมากถึง 67% แต่ก๊าซฯ อ่าวไทยเริ่มลดต้องนำเข้าจากต่างประเทศในราคาแพงที่แนวโน้มนำเข้าจะสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าให้เพิ่มตาม และในที่สุดจะกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
