นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมอนุกรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ประจำงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2558 ว่า ค่าเอฟทีมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะลดลงได้มากกว่า 5 สตางค์ต่อหน่วย แต่ไม่เกิน 10 สตางค์ต่อหน่วย
ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาสำหรับผลิตไฟฟ้าในช่วงแหล่งก๊าซพม่าปิดซ่อมน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับราคาก๊าซฯในตลาดโลกปรับตัวลดลงกว่า 20 บาทต่อล้านบีทียู แต่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงกว่าเดิม จึงส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงไม่ได้มากเท่ากับเอฟทีงวดที่ผ่านมา
ในการประชุมคณะอนุกรรมการครั้งนี้ ทางการไฟฟ้าฝายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เสนอให้ปรับลดค่าเอฟที 4.3 สตางค์ต่อหน่วย จากค่าเอฟทีเดิมที่อัตรา 58.96 สตางค์ต่อหน่วย แต่ที่ประชุมเห็นควรให้ กฟผ.กลับไปพิจารณาปัจจัยด้านการใช้น้ำมันเตาและดีเซลที่แท้จริงใหม่ เพราะแต่เดิม กฟผ.เสนอให้ใช้น้ำมันเตาและดีเซลซึ่งมีผลต่อค่าเอฟที 3.15 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นเงิน1,800 ล้านบาท แต่ตัวเลขการใช้น้ำมันเตาและดีเซลจริงกลับน้อยกว่าแผนที่ กฟผ.เสนอ
ทั้งนี้ จะให้ กฟผ.นำกลับมาเสนอที่ประชุมเรกูเตอร์ชุดใหญ่ใหม่ในวันที่ 22 เมษายนนี้ และจะสรุปค่าเอฟทีที่แท้จริงต่อไป ซึ่งเชื่อว่าค่าเอฟทีจะลดลงได้มากกว่า 4.3 สตางค์ต่อหน่วย แต่จะไม่ถึง 10 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ เชื่อว่าจากสถานการณ์ราคาก๊าซฯโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ค่าเอฟทีตลอดปี 2558 อยู่ในช่วงขาลง ส่วนจะปรับลดลงได้เท่าไร ขึ้นกับราคาน้ำมันโลกในปี 2558 ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาสำหรับผลิตไฟฟ้าในช่วงแหล่งก๊าซพม่าปิดซ่อมน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับราคาก๊าซฯในตลาดโลกปรับตัวลดลงกว่า 20 บาทต่อล้านบีทียู แต่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงกว่าเดิม จึงส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงไม่ได้มากเท่ากับเอฟทีงวดที่ผ่านมา
ในการประชุมคณะอนุกรรมการครั้งนี้ ทางการไฟฟ้าฝายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เสนอให้ปรับลดค่าเอฟที 4.3 สตางค์ต่อหน่วย จากค่าเอฟทีเดิมที่อัตรา 58.96 สตางค์ต่อหน่วย แต่ที่ประชุมเห็นควรให้ กฟผ.กลับไปพิจารณาปัจจัยด้านการใช้น้ำมันเตาและดีเซลที่แท้จริงใหม่ เพราะแต่เดิม กฟผ.เสนอให้ใช้น้ำมันเตาและดีเซลซึ่งมีผลต่อค่าเอฟที 3.15 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นเงิน1,800 ล้านบาท แต่ตัวเลขการใช้น้ำมันเตาและดีเซลจริงกลับน้อยกว่าแผนที่ กฟผ.เสนอ
ทั้งนี้ จะให้ กฟผ.นำกลับมาเสนอที่ประชุมเรกูเตอร์ชุดใหญ่ใหม่ในวันที่ 22 เมษายนนี้ และจะสรุปค่าเอฟทีที่แท้จริงต่อไป ซึ่งเชื่อว่าค่าเอฟทีจะลดลงได้มากกว่า 4.3 สตางค์ต่อหน่วย แต่จะไม่ถึง 10 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ เชื่อว่าจากสถานการณ์ราคาก๊าซฯโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ค่าเอฟทีตลอดปี 2558 อยู่ในช่วงขาลง ส่วนจะปรับลดลงได้เท่าไร ขึ้นกับราคาน้ำมันโลกในปี 2558 ด้วย
