00 กำหนดการ "กรรม" เรียงกันมาตามลำดับ เอากันแบบสดๆ ร้อนๆก่อน เริ่มจาก ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีต อธิบดีดีเอสไอ ที่ถูกป.ป.ช. สั่งอายัดทรัพย์สินกว่า 40 ล้านบาท ฐานต้องสงสัยว่า "ร่ำรวยผิดปกติ" และให้ชี้แจงภายใน 30 วัน นี่ยังไม่นับรวมคดีอาญาที่ถูกฟ้องร้องนับหลายสิบคดี ต้องเดินขึ้นศาลไปอีกนาน เรียกว่านี่คือ "กรรม" ของธาริต ที่ใครจะนึกว่าจะมีชะตากรรมพลิกผันแบบนี้ไปได้ !!
00 ถัดมาติดๆ ก็อดีต รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน ที่ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับรับฟ้องในคดีที่ขายข้าวแบบจีทูจีโดยมิชอบ โดยศาลได้นัดคู่ความพร้อมหน้านัดแรก วันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งเจ้าตัวต้องมาปรากฏตัวที่ศาล เเต่ก่อนหน้านั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ศาลฯ นัดพิจารณาคดีที่ใช้อำนาจมิชอบ ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท ก็ต้องไปปรากฏตัว ในวันที่ 19 พ.ค. ถ้าไม่ไป ก็ต้องถูกออกหมายจับ ก็ต้องจับตากันว่าเธอจะ "ยอมตายคาประชาธิปไตย" ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
00 ถ้าบอกว่านับจากนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องลุ้นกันว่า จะมีรายการป่วนตามมาหรือไม่ ก็ได้แต่หวังว่าคงไม่มีลงทุนขายชีวิตรับ "เศษเงิน" ของบางคน เพราะมันไม่คุ้ม และที่สำคัญงานนี้มีการ "จับตามอง" อย่างใกล้ชิด ยิ่งมีการยืนยันออกมาว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดทั้งที่กรุงเทพฯ และเกาะสมุย มีความเชื่อมโยงกัน และชี้เป้าไปที่ "กลุ่มอำนาจเก่า" แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมามีการประกบติดทุกฝีก้าว !!
00 เริ่มอภิปรายแบบมาราธอน 7 วัน 7 คืน สำหรับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กับคณะกรรมาธิการยก ร่าง รธน. ในร่าง รธน. ที่เป็นร่างแรก เพื่อเสนอแนะ ปรับปรุงแก้ไข ได้เห็นความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายก่อนที่จะถึงวันอภิปราย ดูขึงขัง แต่เชื่อเถอะ อย่างมากก็เพียงแค่การแสดงเท่านั้น เอาเข้าจริงถึงอย่างไรก็ต้องผ่านฉลุยอยู่แล้ว อาจมีการปรับแก้ไขกันบ้าง เพื่อความเหมาะสม และคนที่คุมเกมจริงๆ ต้องดูสัญญาณมาจากข้างบน นั่นคือต้นกำเนิดของแม่น้ำ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ส่งผ่านมายังประธาน กมธ.ยกร่างฯ คือ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นั่นแหละ แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ โดยเฉพาะในมาตราสำคัญโดยรวมๆ ก็ถือว่าโอเคนะ หากไม่ดัดจริตกันมากนัก ก็น่าจะรับกันได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องมีระบบการตรวจสอบถ่วงดุล ที่มีที่มาให้อิสระจริงๆ ถ้าทำได้ บ้านเมืองก็พัฒนาแน่นอน !!
00 แต่นี่น่าจะเป็นสัญญาณอันตรายกว่า สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจาก ระยะหลังหากสังเกตให้ดีจะพบว่า แทบทุกโพล ที่สอบถามชาวบ้านล้วนออกมาในโทนเดียวกัน คือ แม้จะพอใจในความสงบของบ้านเมือง แต่เมื่อถามถึงเรื่องด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง คำตอบที่ได้ตรงกันคือ "ไม่แฮปปี้" แม้ว่าที่ผ่านมาจะพยายามชี้ให้เห็นตลอดเวลาว่า เป็นการปรับโครงสร้าง ต้องเห็นผลในระยะยาว แต่เมื่อผ่านมาทั้งในรูปของ คสช. และมาจนถึงรัฐบาลรวมๆ กันแล้วผ่านมาเกือบปี แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามชาวบ้านบอกว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" ไปจากเดิม มันก็น่าห่วงเหมือนกันนะ เพราะเชื่อว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานับจากนี้ จะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมอีก !!
00 ไม่รู้เป็นเพราะความ "เกรงใจ" หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้หลังจากยึดอำนาจใหม่ๆ อุตส่าห์ไปอ้อนวอน เชื้อเชิญให้เข้ามาร่วมงาน แต่พอเวลาผ่านไป จะให้ลงจากเก้าอี้ มันก็คิดมากเหมือนกัน มันถึงทำให้ต้องอยู่อาการ "กระอักกระอ่วน" พิลึก แต่ถ้าถามชาวบ้านสะท้อนออกมาจากผลงานภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จยังเป็นอย่างที่เห็น มันก็สมควรตัดใจโละไปเถอะ ลุงตู่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง รู้กันอยู่ รวมไปถึงบรรดา รมต.ที่อย่าว่าแต่ชื่อเลย ว่าชื่ออะไร แค่เห็นหน้าแว่บๆ ก็ไม่เคยผ่านจอ ไม่ต้องพูดถึงผลงานว่ามีอะไรบ้าง !!
00 ถัดมาติดๆ ก็อดีต รมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมช.พาณิชย์ กับพวกรวม 21 คน ที่ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประทับรับฟ้องในคดีที่ขายข้าวแบบจีทูจีโดยมิชอบ โดยศาลได้นัดคู่ความพร้อมหน้านัดแรก วันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งเจ้าตัวต้องมาปรากฏตัวที่ศาล เเต่ก่อนหน้านั้น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ศาลฯ นัดพิจารณาคดีที่ใช้อำนาจมิชอบ ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท ก็ต้องไปปรากฏตัว ในวันที่ 19 พ.ค. ถ้าไม่ไป ก็ต้องถูกออกหมายจับ ก็ต้องจับตากันว่าเธอจะ "ยอมตายคาประชาธิปไตย" ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
00 ถ้าบอกว่านับจากนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องลุ้นกันว่า จะมีรายการป่วนตามมาหรือไม่ ก็ได้แต่หวังว่าคงไม่มีลงทุนขายชีวิตรับ "เศษเงิน" ของบางคน เพราะมันไม่คุ้ม และที่สำคัญงานนี้มีการ "จับตามอง" อย่างใกล้ชิด ยิ่งมีการยืนยันออกมาว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดทั้งที่กรุงเทพฯ และเกาะสมุย มีความเชื่อมโยงกัน และชี้เป้าไปที่ "กลุ่มอำนาจเก่า" แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมามีการประกบติดทุกฝีก้าว !!
00 เริ่มอภิปรายแบบมาราธอน 7 วัน 7 คืน สำหรับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กับคณะกรรมาธิการยก ร่าง รธน. ในร่าง รธน. ที่เป็นร่างแรก เพื่อเสนอแนะ ปรับปรุงแก้ไข ได้เห็นความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายก่อนที่จะถึงวันอภิปราย ดูขึงขัง แต่เชื่อเถอะ อย่างมากก็เพียงแค่การแสดงเท่านั้น เอาเข้าจริงถึงอย่างไรก็ต้องผ่านฉลุยอยู่แล้ว อาจมีการปรับแก้ไขกันบ้าง เพื่อความเหมาะสม และคนที่คุมเกมจริงๆ ต้องดูสัญญาณมาจากข้างบน นั่นคือต้นกำเนิดของแม่น้ำ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ส่งผ่านมายังประธาน กมธ.ยกร่างฯ คือ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นั่นแหละ แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ โดยเฉพาะในมาตราสำคัญโดยรวมๆ ก็ถือว่าโอเคนะ หากไม่ดัดจริตกันมากนัก ก็น่าจะรับกันได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องมีระบบการตรวจสอบถ่วงดุล ที่มีที่มาให้อิสระจริงๆ ถ้าทำได้ บ้านเมืองก็พัฒนาแน่นอน !!
00 แต่นี่น่าจะเป็นสัญญาณอันตรายกว่า สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจาก ระยะหลังหากสังเกตให้ดีจะพบว่า แทบทุกโพล ที่สอบถามชาวบ้านล้วนออกมาในโทนเดียวกัน คือ แม้จะพอใจในความสงบของบ้านเมือง แต่เมื่อถามถึงเรื่องด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง คำตอบที่ได้ตรงกันคือ "ไม่แฮปปี้" แม้ว่าที่ผ่านมาจะพยายามชี้ให้เห็นตลอดเวลาว่า เป็นการปรับโครงสร้าง ต้องเห็นผลในระยะยาว แต่เมื่อผ่านมาทั้งในรูปของ คสช. และมาจนถึงรัฐบาลรวมๆ กันแล้วผ่านมาเกือบปี แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามชาวบ้านบอกว่า "ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" ไปจากเดิม มันก็น่าห่วงเหมือนกันนะ เพราะเชื่อว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานับจากนี้ จะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมอีก !!
00 ไม่รู้เป็นเพราะความ "เกรงใจ" หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้หลังจากยึดอำนาจใหม่ๆ อุตส่าห์ไปอ้อนวอน เชื้อเชิญให้เข้ามาร่วมงาน แต่พอเวลาผ่านไป จะให้ลงจากเก้าอี้ มันก็คิดมากเหมือนกัน มันถึงทำให้ต้องอยู่อาการ "กระอักกระอ่วน" พิลึก แต่ถ้าถามชาวบ้านสะท้อนออกมาจากผลงานภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จยังเป็นอย่างที่เห็น มันก็สมควรตัดใจโละไปเถอะ ลุงตู่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง รู้กันอยู่ รวมไปถึงบรรดา รมต.ที่อย่าว่าแต่ชื่อเลย ว่าชื่ออะไร แค่เห็นหน้าแว่บๆ ก็ไม่เคยผ่านจอ ไม่ต้องพูดถึงผลงานว่ามีอะไรบ้าง !!