เกาะกระแส
00 เรียกว่าตามหลังกันมาติดๆ ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้องค์คณะผู้พิพากษา พิจารณาคดีขายข้าวแบบจีทูจีมิชอบ ที่มี อดีตรมว.พาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมช.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล และพวกตกเป็นผู้ต้องหา โดยศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งชี้ชะตาในวันที่ 20 เมษาฯว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ถ้ารับฟ้องก็จะเลื่อนฐานะขึ้นเป็นจำเลย เหมือนกับ "นายหญิง"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายนับ 6 แสนล้านบาท ก็ต้องจับตาว่าจะชี้ออกมาอย่างไร
00 พูดถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ก็มีเจ้าหน้าที่ไปปิดหมายศาลที่บ้านเรียบร้อยแล้วเพื่อนัดหมายให้ไปฟังการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในวันที่ 19 พ.ค.กลายเป็นว่าเธอได้ตกเป็นจำเลยสมบูรณ์แบบแล้ว และในวันที่ 19 มี.ค.ดังกล่าวก็ต้องไปปรากฏตัวที่ศาล หากไม่ไปก็ต้องถูกออกหมายจับ และจำหน่ายคดีออกไปชั่วคราว แต่ถึงอย่างไรก็ยังมั่นใจว่าเธอต้องไปแน่ เพราะเคยประกาศว่าจะยอมตายคาประชาธิปไตย แม้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับประชาธิปไตย แต่ขึ้นชื่อว่านักประชาธิปไตยก็ต้องไม่หนีศาล คงไม่เหมือนพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่มักสร้างกระแสให้เข้าใจว่าเป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งที่จวนตัวก็หนี"หางจุกตูด"ทุกที
00 วันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) ก็ต้องจับตาดูกันว่า ตามกำหนดการแล้ว ทักษิณ ชินวัตร หลังจากไปเคารพศพ ลีกวนยู อดีตผู้นำสิงคโปร์แล้ว จะอยู่พำนักที่นั่นต่อไปจนถึงวันที่ 29-30 มี.ค.หรือไม่ เพราะถ้าอยู่ต่อก็เป็นเรื่องที่ชวนติดตามอย่างยิ่ง เพราะ นายกฯและหัวหน้า คสช.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีคิวได้รับเชิญให้ไปเคารพศพในวันที่ 29 มี.ค.แต่เชื่อเถอะกำหนดการเปิดเผยแบบนี้ไม่มีทางพบกันหรอก เพราะถ้าพบคนที่มีแต่เสียก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีภาพบวก ขณะที่ ทักษิณ มีแต่ได้กับได้ ดังนั้นแม้ว่าทางการสิงคโปร์จะไม่เชิญ ตัวเขาก็ต้อง"เจือกเสนอหน้า"ไปจนได้ เพราะจะได้เป็นข่าว ได้เห็นความเคลื่อนไหวเที่ยวโร่จับมือคนโน้นคนนี้ให้สื่อถ่ายรูป แค่นี้ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว !!
00 จะเรียกว่า "ปรี๊ดแตก"ก็ได้สำหรับ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 25 มี.ค.ก่อนเดินทางไปเยือนบรูไน ได้ออกการเฉ่งสื่อชุดใหญ่ คราวนี้ก็ยังพุ่งเป้ามาที่ เอเอสทีวีผู้จัดการ เช่นเคย เพียงแต่พ่วง มติชนเข้ามาด้วย สำหรับ เอเอสทีวีผู้จัดการซัดไปที่คอลัมนิสต์บางคนบริภาษว่าเขียนโจมตีอย่างมีอคติ ทำนองว่าล้มเหลวไม่ได้เรื่องอย่างนั้นอย่างนี้ ตัวเองไม่ใช่พระอิฐพระปูนย่อมทนไม่ได้ แถมขู่จะใช้อำนาจจัดการ อารมณ์แบบนี้ทิ้งช่วงมานานพอสมควร แสดงว่ายังไม่ชินสักที ก็อยากจะบอกให้ "ใจเย็นลงนีดดนึง"ถือว่าเป็นเสียงนกเสียงกา เสียงวิจารณ์อาจไม่หวานหอม แต่ถ้ามองในแง่บวกก็ต้องมีทั้งสองด้านทั้งชมทั้งติ ที่สำคัญการเป็นผู้นำถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะเลี่ยงไม่พ้นต้องมีเสียงนินทา แต่ทุกอย่างต้องพิสูจน์กันแบบจับต้องได้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ทำดีสร้างความพอใจให้กับสังคมส่วนใหญ่ได้มากกว่า ก็ย่อมต้องมีคนหนุนเป็นหลังพิงให้ เหมือนกับที่เขาได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า "ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่มีผลประโยชน์"ถ้าชาวบ้านเห็นมันก็มีแต่เสียงชม ขณะเดียวกันจะให้มีแต่เสียงชม หรือฟังอย่างเดียวก็คงไม่ได้หรอก
00 ที่ผ่านมาก็เคยเห็นภาพ "น่ารัก"ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแล้ว เมื่อหลายวันก่อนตอนไปพูดที่ตลาดหลักทรัพย์ ที่ตอนนั้นมีการพูดแบบติดตลกปะปนด้วยเสียงฮา ไม่ต่างจากทอล์กโชว์ มันเป็นภาพน่ารัก เป็นบุคลิกที่น่าชื่นชมจับต้องได้ แต่เมื่ออารมณ์เปลี่ยนแบบนี้ ทำให้น่าเป็นห่วง เป็นห่วงว่าจะ"ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่"จะเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่ หรืออีกมุมหนึ่งทำให้เห็นว่า นายกฯกำลัง"เครียด"จากปัญหาหลายเรื่องที่ไม่ได้ดังใจ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การส่งออก ราคาสินค้าเกษตรฯ สารพัด โดยเฉพาะเรื่อง รธน.ที่กำลังถูกกดดันจากพวกพรรคการเมือง ก็น่าเห็นใจ ไหนจะข่าวเกาเหลวในครม.อีก เป็นใครมันก็ต้องโมโห แต่ขอให้มองเป็นเรื่องธรรมดา โกรธได้ แต่ต้องเก็บไว้ เก็เตือนด้วยความรักก็แล้วกันนะ "ลุงตู่ใจเย็ลล์" !!