ASTVผู้จัดการรายวัน - "ธีระชัย" หนุนความเห็นเอกชนกรณีนโยบายดอกเบี้ยยังสูง ค่าเงินบาทแข็งเกินไป ชี้เป็นปัจจัยฉุดทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ฟื้น แถมคนไทยที่มีเงินแห่ไปชอปปิ้งเมืองนอก ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจเข้าไปอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า เห็นด้วยกับภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลที่ออกมาระบุว่า เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.คงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่สูงเกินไป ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลง
นายธีระชัยโพสต์ว่า "ผมเขียนหลายครั้งแล้วว่า กนง.คงดอกเบี้ยไว้สูงเกินไป ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้เงินของเขาอ่อนลงทำให้เงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ข่าวไทยรัฐวันนี้ คุณทศ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ก็ออกมาชี้ปัญหานี้ด้วย คุณทศเขาเรียนจบเศรษฐศาสตร์จากลอนดอนสกูลออฟอีโคโนมิค มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ (ที่เดียวกับผม) ความเห็นของคุณทศ จึงเป็นแง่มุมของนักธุรกิจที่เข้าใจด้านวิชาการด้วย จึงต้องให้น้ำหนัก คุณทศบอกว่า
1.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 2.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งเกินไป เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นที่ค่าเงินลดลง 30% ยุโรปลดลง 30% รัสเซียลดลง 50% สิงค์โปร์และมาเลซียลดลง 10% 3.คนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ สามปัจจัยนี้ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าปลีกของประเทศไทยยังดีขึ้นไม่มาก ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ
ค่าเงินบาทที่แข็งนั้น มีผลกระทบกว้างขวาง นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่มาไทย เพราะเมื่อเทียบเป็นเงินของเขาแล้ว ราคาแพง แต่นักท่องเที่ยวไทยได้เฮ ออกไปเที่ยวญี่ปุ่น ยุโรป รัสเซียได้ เพราะคิดเป็นบาทแล้วถูก คนไทยวางแผนเที่ยวกันคึกคัก ซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันหนัก ราคารถจากญี่ปุ่นและยุโรปน่าใช้ไปหมด คนไทยกำลังใช้จ่ายเกินตัว ก็เพราะเงินบาทแข็งนี้แหละ แต่การใช้จ่ายเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเลย”
ก่อนหน้านี้ หรือเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.00% เหลือ 1.75% นายธีระชัยได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แล้ว "ผมเห็นว่าตัดสินใจถูกแล้ว แต่ยังลงได้อีกในการประชุมครั้งต่อๆ ไป"
ส่วนเนื้อหาที่นายธีระชัยอ้างถึงครั้งล่าสุด นายทศยังระบุด้วยว่า แม้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังดูน้อยไปในแง่ของภาพรวม นายทศอยากให้รัฐบาลดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เพราะแข็งผิดปกติ ขณะที่ประเทศอื่นๆ แข่งกันลด
“หากยังนิ่งเฉย เงินบาทแข็ง นักท่องเที่ยวลดลง ส่งออกลดลง และคนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้น จบเห่แน่” นายทศกล่าว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala ระบุว่า เห็นด้วยกับภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลที่ออกมาระบุว่า เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในขณะนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.คงดอกเบี้ยไว้ในระดับที่สูงเกินไป ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้ค่าเงินอ่อนลง
นายธีระชัยโพสต์ว่า "ผมเขียนหลายครั้งแล้วว่า กนง.คงดอกเบี้ยไว้สูงเกินไป ขณะที่หลายประเทศผ่อนคลายดอกเบี้ยเพื่อให้เงินของเขาอ่อนลงทำให้เงินบาทแข็งมากเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ข่าวไทยรัฐวันนี้ คุณทศ จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ก็ออกมาชี้ปัญหานี้ด้วย คุณทศเขาเรียนจบเศรษฐศาสตร์จากลอนดอนสกูลออฟอีโคโนมิค มหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ (ที่เดียวกับผม) ความเห็นของคุณทศ จึงเป็นแง่มุมของนักธุรกิจที่เข้าใจด้านวิชาการด้วย จึงต้องให้น้ำหนัก คุณทศบอกว่า
1.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 2.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งเกินไป เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นที่ค่าเงินลดลง 30% ยุโรปลดลง 30% รัสเซียลดลง 50% สิงค์โปร์และมาเลซียลดลง 10% 3.คนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ สามปัจจัยนี้ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าปลีกของประเทศไทยยังดีขึ้นไม่มาก ผมเห็นด้วยอย่างแรงครับ
ค่าเงินบาทที่แข็งนั้น มีผลกระทบกว้างขวาง นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่มาไทย เพราะเมื่อเทียบเป็นเงินของเขาแล้ว ราคาแพง แต่นักท่องเที่ยวไทยได้เฮ ออกไปเที่ยวญี่ปุ่น ยุโรป รัสเซียได้ เพราะคิดเป็นบาทแล้วถูก คนไทยวางแผนเที่ยวกันคึกคัก ซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันหนัก ราคารถจากญี่ปุ่นและยุโรปน่าใช้ไปหมด คนไทยกำลังใช้จ่ายเกินตัว ก็เพราะเงินบาทแข็งนี้แหละ แต่การใช้จ่ายเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเลย”
ก่อนหน้านี้ หรือเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.00% เหลือ 1.75% นายธีระชัยได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แล้ว "ผมเห็นว่าตัดสินใจถูกแล้ว แต่ยังลงได้อีกในการประชุมครั้งต่อๆ ไป"
ส่วนเนื้อหาที่นายธีระชัยอ้างถึงครั้งล่าสุด นายทศยังระบุด้วยว่า แม้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังดูน้อยไปในแง่ของภาพรวม นายทศอยากให้รัฐบาลดูแลอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เพราะแข็งผิดปกติ ขณะที่ประเทศอื่นๆ แข่งกันลด
“หากยังนิ่งเฉย เงินบาทแข็ง นักท่องเที่ยวลดลง ส่งออกลดลง และคนไทยเดินทางออกไปใช้จ่ายเงินนอกประเทศมากขึ้น จบเห่แน่” นายทศกล่าว.