xs
xsm
sm
md
lg

บุก “โบนันซ่า” ไล่ล่าคนเสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

“สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง” เจ้าของวลี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” พูดกับใครๆ เสมอว่า ได้รับการชักชวนให้ซื้อที่ดินบริเวณเขาใหญ่อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่สนใจ และไม่เคยคิดจะซื้อ

เพราะเมื่อประมาณ 50-60 ปีก่อน สมัยเป็นเด็ก เคยไปเที่ยวเขาใหญ่ สองข้างทางถนนธนะรัชต์มีแต่ป่า อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีทางที่ออกโฉนดได้

แต่วันนี้ป่าหายไป ใครต่อใครเข้าไปครอบครองกรรมสิทธิ์เต็มไปหมด รีสอร์ต โรงแรม ไร่มหาเศรษฐีผุดเป็นดอกเห็ด และไม่มีใครแน่ใจว่า โฉนดที่ดินบริเวณเขาใหญ่ออกมาอย่างถูกต้องหรือไม่

รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่า ที่ดินบริเวณเขาใหญ่จำนวนมากที่รุกป่า จะครอบครองไว้ทำให้เกิดทุกข์ใจทำไม คุณสวัสดิ์จึงไม่มีที่ดินเขาใหญ่แม้แต่ตารางวาเดียว

การบุกรุกป่าบริเวณเขาใหญ่ การครอบครองที่ดินอย่างผิดกฎหมาย การออกโฉนดโดยมิชอบ เป็นปัญหาที่พูดกันมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีการตรวจสอบกันอย่างจริงจัง

“โบนันซ่า” ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ อดีตที่ปรึกษานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เชื่อกันมานานว่า ครอบครองที่ดินโดยไม่ถูกต้อง

“โบนันซ่า”เป็นอาณาจักรของนายไพวงษ์ นักธุรกิจที่แอบอิงกับการเมืองมายาวนาน มีความรุ่งเรืองขึ้นมาในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และรุ่งโรจน์ขึ้นไปใหญ่ในยุครัฐบา ลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งรัฐบาลหุ่นเชิด โดยถือเป็นอีกหนึ่งในระบอบทักษิณ

อาณาจักรของนายไพวงษ์ที่เขาใหญ่ถูกใช้เป็นแหล่งชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่บ่อยครั้ง และถูกมองเป็นแหล่งซ่องสุมกองกำลังคนเสื้อแดงด้วยซ้ำ

ถ้าพรรคเพื่อไทยยังกุมอำนาจ ถ้ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรยังอยู่ การเรียกคืนผืนป่าจาก “โบนันซ่า” จะไม่มีวันเกิดขึ้น อาณาจักรนายไพวงษ์ก็คงตั้งตระหง่านกลางเขาใหญ่ ท้าทายความรู้สึกของประชาชนอยู่ต่อไป

แต่ยุคนี้เป็นยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นยุคของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายไพวงษ์ไม่มีอำนาจการเมืองเป็นเกราะกำบังเหมือนก่อน “โบนันซ่า” จึงถูกบุก ที่ดินที่ครอบครองจึงต้องถูกตรวจสอบว่า ได้มาโดยถูกต้องและรุกป่าหรือไม่

การตรวจสอบ “โบนันซ่า” ถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาสร้างฉากว่า เป็นยุทธการเช็กบิล เครือข่ายคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับการปิดพีชทีวี และการสึกอาจารย์เพชร

การออกมาเห่าหอนว่า คนเสื้อแดงถูกจ้องตามล้างตามเช็ดนั้น เป็นบทบาทถนัดของนายจตุพรอยู่แล้ว แต่ไม่มีทางที่จะป้องกันอาณาจักร “โบนันซ่า” ของนายไพวงษ์ได้

เพราะปัญหาของโบนันซ่าอยู่ที่ว่า นายไพวงษ์รุกที่ดินป่าสงวนจริงหรือไม่ ถ้ารุกป่า ก็ต้องคืนผืนดินกลับสู่ทางราชการ และเข้าข่ายที่จะติดคุก เช่นเดียวกับคดีบุกรุกป่าของกำนันเซียะ นายประชา โพธิพิพิธ

การตรวจสอบการบุกรุกป่า ดูเหมือนนโยบายที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญ แต่การดำเนินขั้นตอนการตรวจสอบ ก็ยังมีลักษณะเครื่องติดๆ ดับอยู่ เดี๋ยวก็เอาจริง เดี๋ยวก็เหยาะแหยะ ทำให้ไม่แน่ใจว่า จะปราบการรุกป่าอย่างจริงจังขนาดไหน

หรือเพียงแค่สร้างกระแส หรือเจอปัญหารูปหน้าปะจมูก หรือว่าเลือกเล่นเป็นจุดๆหรือเป็นคนๆไป โดยไม่ลุยปราบให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันทั้งประเทศ

การบุกโบนันซ่า แม้จะมีลูกสมุนมาเห่าหอน เพื่อบิดเบือนประเด็น ปกป้องผู้กระทำผิด แต่สังคมส่วนใหญ่ปรบมือให้กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และต้องการเห็นการขยายผลตรวจสอบ ไม่เฉพาะอาณาจักรของนายไพวงษ์เท่านั้น

รีสอร์ท โรงแรม ไร่มหาเศรษฐี ที่ดินบริเวณเขาใหญ่ที่เอกชนครอบครอง จะต้องตรวจสอบให้หมด พื้นที่ใดรุกป่า โฉนดไหนออกมาโดยไม่ถูกต้อง ยกเลิก ยึดที่ดินคืนให้หมด ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทุนราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมขบวนการฮุบป่า

อย่าให้สมุน พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเห่าหอนว่า การบุก “โบนันซ่า” เป็นการเลือกปฏิบัติ เป็นการเช็กบิลคนเสื้อแดง แต่ต้องแสดงให้เห็นว่า ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ใครก็ตามที่รุกป่า ไม่ว่าใหญ่มาจากไหน ติกคุกได้ทั้งนั้น

เครือข่ายคนเสื้อแดงอย่าหลงว่ายังมีอภิสิทธิ์ ทำอะไรก็ไม่ผิดเหมือนยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้

ยุทธการปราบการรุกป่าครั้งใหม่ เริ่มแล้วที่อาณาจักรของ “ไพวงษ์ เตชะณรงค์” และจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อย่าให้แม้แต่ลูกสมุนทักษิณที่ไร้ราคาคนไหนออกมาชี้หน้าด่าได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จ้องไล่ล่าเฉพาะคนเสื้อแดง

ขอบคุณ : ภาพจากนิตยสาร HELLO


กำลังโหลดความคิดเห็น