xs
xsm
sm
md
lg

คำหยาบ อารมณ์ เรือนร่าง และความเป็นมนุษย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญญาพลวัตร
โดย พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

การแสดงออกในที่สาธารณะของผู้คนเป็นการสะท้อนภาวะของสังคม ยิ่งมีการแสดงออกโดยมีรากฐานจากสัญชาติญาณดิบและอารมณ์เชิงลบมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าสังคมกำลังเดินไปสู่สภาวะที่ไม่พึงปรารถนามากยิ่งขึ้น เพราะนั่นหมายถึงภาวะของความเป็นมนุษย์ในสังคมนั้นกำลังตกต่ำลง และมีความโน้มเอียงใกล้เคียงกับสังคมแบบอมนุษย์มากขึ้น

การใช้ภาษาและการกระทำเป็นรูปแบบพื้นฐานของการแสดงออกทางสังคม เราสามารถวิเคราะห์ผ่านการใช้ภาษาและการกระทำได้ว่าผู้ใช้มีกรอบความคิดและความเชื่อแบบใด และมีความโน้มเอียงของการมีจริยธรรมมากน้อยเพียงใด ยิ่งสังคมใดมีผู้คนดำรงตามวิถีของจริยธรรมมากเท่าไร ก็ยิ่งบ่งชี้ว่าผู้คนในสังคมนั้นสามารถพัฒนาจิตให้สูงขึ้นและพ้นจากภาวะของการเป็นอมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น

การใช้ภาษาและการกระทำของคนผู้หนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น แต่จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานภาพและบทบาทของผู้แสดง ตลอดจนความกว้างไกลและความถี่ของการแพร่ขยายสิ่งเหล่านั้น คนที่มีสถานภาพ ตำแหน่งและบทบาทสูงในสังคมย่อมสร้างอิทธิพลทางความคิดและการกระทำแก่ผู้คนได้เป็นจำนวนมากกว่าผู้ที่มีสถานภาพ ตำแหน่งและบทบาทต่ำ

ยิ่งคนที่เป็นผู้นำประเทศด้วยแล้วภาษาที่ใช้และการกระทำที่แสดงออกมา ก็จะยิ่งถูกจดจำและเลียนแบบโดยผู้คนที่ชื่นชมนิยมชมชอบเขาได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นหากบุคคลที่เลียนแบบขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์และไม่มีสติปัญญาเพียงพอในการแยกแยะว่าการกระทำใดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม พวกเขาก็จะคิดว่าภาษาและการกระทำทุกอย่างที่ผู้นำแสดงออกมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม และควรค่าต่อการเลียนแบบทั้งหมด

การใช้ภาษาหยาบคายในยุคสมัยใหม่อาจเป็นเรื่องปกติภายในกลุ่มเพื่อนเพราะมีความหมายทางสังคมที่บ่งชี้ถึงระดับความสนิทสนม และกลุ่มที่ใช้คำหยาบระหว่างกันมักเป็นเพื่อนสมัยวัยเรียนเสียส่วนใหญ่ ส่วนเพื่อนที่รู้จักในช่วงที่ทำงานแล้ว ผู้คนมีแนวโน้มที่ใช้คำหยาบระหว่างกันลดลง ในแง่นี้คำหยาบจึงเป็นคำสะท้อนอารมณ์ของความเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุวุฒิภาวะทางอารมณ์ ส่วนผู้ใหญ่ที่ยังใช้คำหยาบระหว่างเพื่อนเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเขาห่วงหาอาลัยชีวิตในวัยเด็กของตนนั่นเอง

แต่การใช้ภาษาหยาบคายต่อคนที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรือคนรู้จักแต่ไม่ได้เป็นเพื่อนมีความหมายทางสังคมแตกต่างออกไป นั่นคือเป็นการแสดงความเป็นปรปักษ์ที่ผสานด้วยความโกรธและเกลียด และอาจเจือปนด้วยการดูถูกเหยียดหยามต่อเป้าหมายของการใช้คำหยาบ การใช้คำหยาบในลักษณะนี้จึงเป็นบ่มเพาะสภาวะของการสร้างความรุนแรงทางสังคมขึ้นมา

ยิ่งการใช้คำหยาบกระทำโดยผู้นำประเทศหรือกลุ่มผู้นำของประเทศ ก็ยิ่งทำให้กระแสของอารมณ์ที่ปนอยู่ในถ้อยคำและความหมายถูกเลียนแบบโดยผู้คนในสังคมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอในการแยกแยะ เมื่อพวกเขาฟังสิ่งที่ผู้นำประเทศพูดและเห็นพฤติกรรมที่ผู้นำประเทศกระทำ การเลียนแบบก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในวงกว้าง ความเป็นปรปักษ์ ความโกรธ และความเกลียดก็จะถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นแบบแผนของสังคม

สังคมใดที่ถูกครอบงำด้วยคำหยาบ อารมณ์โกรธและความเกลียดชังย่อมเป็นสังคมแห่งความรุนแรง และเป็นความรุนแรงที่ซึมลึกเข้าไปสู่จิตใต้สำนึก อันจะนำไปสู่การแสดงออกของความรุนแรงเชิงกายภาพในอนาคตเมื่อมีเงื่อนไขเอื้อให้เกิดหรือถูกกระตุ้น ซึ่งจะทำให้สังคมเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ ด้วยห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ยิ่งนัก

นอกจากคำหยาบที่เจือปนด้วยความโกรธแล้ว สังคมไทยยังมีการแพร่ระบาดของการใช้ภาษาที่เจือปนด้วยอารมณ์ซึ่งถูกขับเคลื่อนจากสัญชาติญาณดั้งเดิมเพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาว เป็นภาษาที่สะท้อนความรู้สึกและความต้องการทางเพศและความรุนแรงอย่างเปิดเผย โดยมีการกระจายผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์หลากหลายประเภท

รวมทั้งยังมีการแพร่หลายของการเปิดเผยเรือนร่างที่ปราศจากอาภรณ์ปกคลุมหรือมีการปกปิดเพียงน้อยนิดตรงอวัยวะสืบพันธุ์และอวัยวะที่ให้นมบุตรในที่สาธารณะอีกด้วย เป้าหมายของการเผยเปิดเผยเรือนร่างในที่สาธารณะ ผู้ใช้มีเจตนาใช้เรือนร่างเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนและเสพสิ่งที่แอบแฝงอยู่ภายใต้เรือนร่างที่นำเสนอ

โดยทั่วไปผู้เปิดเผยเรือนร่างในที่สาธารณะมักมีเป้าประสงค์เพื่อธุรกิจ ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการโฆษณาขายสินค้า สำหรับสินค้าที่ขายก็มีหลากหลายชนิด รวมทั้งตัวเรือนร่างของผู้นั้นเองด้วย แต่ก็ยังมีการเปิดเผยเรือนร่างของกลุ่มคนบางประเภทที่มีเป้าประสงค์ใช้เรือนร่างเป็นสื่อเพื่อส่งผ่านอุดมการณ์และความเชื่อบางอย่าง

อย่างไรก็ตามการเปิดเผยเรือนร่างส่วนใหญ่มีเป้าประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลัก และกลายเป็นการกระทำที่ปกติของผู้คนจำนวนหนึ่งโดยปราศจากความเคอะเขินใดๆ อันที่จริงการกระทำเยี่ยงนี้เป็นธรรมชาติของสัตว์เดรัจฉานทั่วไปซึ่งไม่ต้องการอาภรณ์เครื่องประดับมาปกคลุมกายให้รุงรัง ต่างกันแต่เพียงเดรัจฉานไม่มีเป้าประสงค์ในการใช้เรือนร่างของเองเป็นสินค้าเท่านั้น

การใช้คำหยาบคายที่แฝงด้วยอารมณ์โกรธหรืออารมณ์ทางเพศ การกระทำที่รุนแรงทั้งในเชิงสัญลักษณ์และเชิงกายภาพและการเปิดเผยเรือนร่างเพื่อเป็นสินค้า เป็นสถานการณ์ที่ลดคุณภาพของสังคมเพราะทำให้ความเป็นมนุษย์ของผู้คนในสังคมตกต่ำลง

เราคงไม่อยากให้สังคมไทยดิ่งลงห้วงเหวลึกไปกว่านี้ ดังนั้นหากใครรู้ตัวแล้วว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้สังคมไทยต้องตกต่ำลง โปรดเปลี่ยนแปลงการใช้ภาษาหยาบคาบ การแสดงอารมณ์เชิงลบในที่สาธารณะและการกระทำที่รุนแรงเชิงสัญลักษณ์เสียเถิด

สิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะผู้นำคือการใช้ภาษาที่ผ่านการไตร่ตรอง ใช้อย่างสุภาพ มีเหตุผล เปี่ยมด้วยอารมณ์เชิงบวก รวมทั้งมีการกระทำที่เปี่ยมด้วยจริยธรรมและปราศจากความรุนแรง

ช่วยๆ กันดึงความเป็นมนุษย์กลับคืนสู่สังคมเถอะครับ เพื่อลูกหลานในอนาคต



กำลังโหลดความคิดเห็น