เลขาฯ คสช.ระบุยังไม่มีข่าว “ยิ่งลักษณ์” ขอลี้ภัยไปสหรัฐฯ เชื่อมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม คดีความยังอยู่ในขบวนการไม่รู้ผิดหรือไม่ อย่ากังวลตั้งด่านตรวจ ไม่คิดจับจ้อง ควบคุมใครเป็นพิเศษ แค่ดูแลความเรียบร้อยหลังเกิดเหตุระเบิดสถานีรถไฟฟ้าสยาม ตรวจเยี่ยม นปอ.ให้โอวาสกำลังพล ย้ำเป็นกองทัพของชาติ เทิดทูนพระมหากษัตริย์
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) รมช.กลาโหม และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างตรวจเยี่ยมหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ถึงข่าวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) ติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเท่าที่ทราบ น.ส.ยิ่งลักษณ์คงเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ เราไม่ได้จำกัดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับคนอื่นที่ไม่ได้จำกัดเหมือนกัน แต่เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องในเรื่องคดีความซึ่งได้หารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะฉะนั้นบุคคลอื่นที่จะเดินทางก็เป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องนี้คงจะต้องฟังการชี้ชัดของศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การข่าวทางทหารพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีการขอลี้ภัยไปประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูลใดๆ และการปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่หลังเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จึงได้สั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ เพราะห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน แม้เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรใหญ่โต แต่ฝ่ายความมั่นคงโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงบูรณาการช่วยเหลือและดูแลพื้นที่ จึงได้เข้มงวดการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยดูความเหมาะสมในการตั้งจุดตรวจและตั้งด่าน บางส่วนใช้การลาดตระเวนร่วมด้วย เป็นการทำบางจังหวะและบางสถานที่ซึ่งเป็นไปตามความจำเป็น เพราะเราไม่ต้องการให้สถานการณ์เกิดความตึงเครียด แต่จำเป็นต้องมีการตรวจตราในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งหมดตามความเหมาะสม ทุกท่านเมื่อผ่านจุดตรวจก็ต้องได้รับการตรวจ
ต่อข้อถามว่า ยังมีการตั้งด่านตรวจหน้าบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า จุดตรวจสามารถวางได้ทั่วไป วันนี้วางจุดนี้ อีกวันอาจวางจุดอื่น ไม่มีการวางถาวร นอกจากจุดหลักจริงๆ ที่มีการวางจุดตรวจร่วมระหว่างตำรวจกับทหาร แต่จุดทั่วไปหากไปวางในพื้นที่หลักตลอดเวลา คนที่ปรารถนาดีไม่ดีก็จะทราบจุดตรวจ และหลีกเลี่ยงการตรวจของเจ้าหน้าที่ จึงต้องวางสลับผลัดเปลี่ยนในพื้นที่ให้คลอบคลุม บางจุดคงวางได้ไม่เป็นเวลาเพื่อให้คนไม่ปรารถนาดีจะได้ไม่ล่วงรู้และทำอะไรได้ไม่สะดวก ถือเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายความมั่นคงจะดูแลเหมือนกันหมดทุกคนใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ทุกคนเป็นประชาชน ก็ต้องดูแลความปลอดภัยทั้งสิ้น การดูแลความปลอดภัยต้องมีการตรวจ อาจมีผลกระทบบ้างในเรื่องความไม่สะดวก แต่ผลออกมาคือภาพของความปลอดภัย และสงบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่จะทำในระดับที่เหมาะสม และ มีความจำเป็นเพื่อให้ปลอดภัยกับคนทั่วไป จะได้อุ่นใจในการออกมาทำงาน และดำเนินชีวิตปกติ ดังนั้นอย่าไปกังวล หรือคิดมากเกินไป เราไม่ได้ไปจ้องจะไปควบคุมใครเป็นพิเศษ
ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดว่าจะเลือกลี้ภัย หรือต่อสู้คดีและยอมติดคุกนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า คงไปตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าทุกคนมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และต่อสังคม เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต่างๆ ทุกท่านคงรู้ตัว และคดีความต่างๆ ก็ยังไม่ได้ชี้ชัดว่าใครผิดหรือไม่ผิดในตอนนี้ คงมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เพราะฉะนั้นอย่าไปคาดเดาอะไรไปไกลขนาดนั้น จะกลายเป็นประเด็นที่ไม่ดี ขณะนี้ชาติบ้านเมืองของเราต้องการความสงบเรียบร้อย และต้องการความเข้าใจซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่เองก็จะพยายามเข้าใจในทุกส่วนและทุกฝ่าย ขอให้ร่วมมือกันและดำเนินการกันไปตามกรอบกฎหมายและขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตรวจเยี่ยม นปอ.ครั้งนี้ พล.อ.อุดมเดชให้โอวาทกำลังพลว่า ขอแสดงความชื่นชมผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับหน่วยและกำลังทุกคนที่ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้ การพัฒนาหน่วยอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือการปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและ คสช. ด้วยความมีอุดมการณ์และมีศักดิ์ศรีความเป็นทหารของชาติ ทำให้กองทัพบกเป็นที่ยอมรับจากสังคมและประชาชน
พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ประเทศของเราต้องเผชิญภัยคุกคามและปัญหาหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม กองทัพบกได้เข้าไปมีบทบาทในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้ง สนับสนุนกระบวนการปฏิรูปประเทศและสร้างความสามัคคี ปรองดอง ให้กลับคืนสู่สังคมตลอดจนการสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เพื่อเป็นรากฐานทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า สงบสุข เป็นปึกแผ่นมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป นับเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่สะท้อนให้เห็นอุดมการณ์จุดยืนของกองทัพบกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในการเป็นกองทัพของชาติ ที่มีผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นเป้าหมาย รวมถึงอุทิศตนปกป้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ขอให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด มีสติรอบคอบ มีความตั้งใจ เสียสละ อดทน เสริมสร้างพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติและราชบัลลังก์
