00 ทำเอาถึงกับมึนกันไปเลย กับคำยืนยันล่าสุดของ นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะมีการเลือกตั้งในปลายปีนี้ แถมยังพูดประชดตามมาอีกว่า "ดีใจกันหรือเปล่า" ถ้าเป็นแบบนี้จริงก็หมายความว่า จะร่นเวลาเข้ามาอีกจากเดิมที่กำหนดเอาไว้คร่าวๆ ก่อนหน้านี้ว่าจะเป็นตอนต้นปีหน้า หรืออย่างช้าไม่เกินกลางปี ตามที่ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรธน. เปิดเผยตารางเวลาออกมาเป็นขั้นเป็นตอน และสอดคล้องกับคำพูดของ "กุนซือใหญ่" อย่าง วิษณุ เครืองาม ว่า อย่างช้าไม่เกินกลางปี แต่นั่นหมายความว่า ไม่มีทำประชามตินะ ซึ่งที่ผ่านมาก็ชี้แจงให้ทางตัวแทนสหรัฐฯได้ทราบไปแล้ว
00 ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทะลุกลางปล้องออกมาแบบนี้ มันก็ทำให้ต้องมึนกันเป็นธรรมดา แต่ถึงอย่างไรเมื่อพิจารณากันตามเวลา ตามโรดแมปมันก็ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่าเมื่อคนพูดยืนยันเป็นถึง "ต้นตอแม่น้ำ 5 สาย" มีอำนาจมากที่สุด มันก็ต้องเชื่อว่าต้องเป็นไปได้ เว้นเสียแต่ว่าคนพูดจะมึนเอง แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะยังพูดเหน็บแนมตามมาว่า "ดีใจกันหรือเปล่า" นั่นก็แสดงว่าตั้งใจพูด ก็รอดูรอฟังกันอีกทีก็แล้วกันเพื่อความแน่นอน
00 เมื่อก่อนเที่ยงวันที่ 24 มี.ค. มีกำหนดการที่น่าสนใจก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม เข้าพบหารือกับ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบฯ คุยลับกันอยู่นานสองนาน ออกมาก็ยืนยันว่าไม่ได่ซดเกาเหลากับ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ แต่ก่อนหน้านี้ นายกฯ ก็โพล่งออกมาลอยๆ เหมือนกันว่า "เฝ้าดูอยู่ว่าใครทะเลาะกัน" แล้วก็เอ่ยชื่อทั้งคู่ขึ้นมา โดยกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ก็ได้รับมอบหมายงานด้านความมั่นคง ก็ต้องให้ความสำคัญเพราะหากบ้านเมืองมั่นคงก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมมั่นคงไปด้วย ไม่ได้มอบหมายสั่งงานมากกว่าใคร ส่วนงานด้านเศรษฐกิจ ก็ให้ หม่อมอุ๋ย ดูแลไป
00 แต่คำพูดที่ตัดตอนออกมาเป็นคำๆ เช่น เฝ้าดูอยู่ว่าใครทะเลาะกัน และต่อมามีการเข้าพบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และปฏิเสธว่า ไม่ได้ซดเกาเกลากับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มันก็เหมือนตอกย้ำอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาข่าวคราวของทั้งคู่หนาหูกันเหลือเกิน และคราวนี้ เมื่อปะติดปะต่อกันมันก็เข้าเค้า เมื่อมันเข้าเคัาก็ต้องจับตากันต่อว่าจะมีการ "ปรับครม." ตามมาหรือเปล่า !!
00 ในที่สุดหมายศาลก็มาปิดถึงบ้าน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อนัดหมายให้ไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 19 พ.ค. หลังจากตกเป็นจำเลยคดีใช้อำนาจมิชอบจนสร้างความเสียหายกับโครงการรับจำนำข้าว เอาเป็นว่าในวันดังกล่าวเธอต้องไปปรากฏตัวที่ศาลฯ ถ้าไม่ไปก็จะต้องโดนออกหมายจับ และนี่ก็คือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเต็มรูปแบบแล้ว และหากมองในแง่ดี ก็ถือเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะได้พิสูจน์ความจริง !!
00 ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทะลุกลางปล้องออกมาแบบนี้ มันก็ทำให้ต้องมึนกันเป็นธรรมดา แต่ถึงอย่างไรเมื่อพิจารณากันตามเวลา ตามโรดแมปมันก็ยังมองไม่ออกว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่เอาเป็นว่าเมื่อคนพูดยืนยันเป็นถึง "ต้นตอแม่น้ำ 5 สาย" มีอำนาจมากที่สุด มันก็ต้องเชื่อว่าต้องเป็นไปได้ เว้นเสียแต่ว่าคนพูดจะมึนเอง แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะยังพูดเหน็บแนมตามมาว่า "ดีใจกันหรือเปล่า" นั่นก็แสดงว่าตั้งใจพูด ก็รอดูรอฟังกันอีกทีก็แล้วกันเพื่อความแน่นอน
00 เมื่อก่อนเที่ยงวันที่ 24 มี.ค. มีกำหนดการที่น่าสนใจก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม เข้าพบหารือกับ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบฯ คุยลับกันอยู่นานสองนาน ออกมาก็ยืนยันว่าไม่ได่ซดเกาเหลากับ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ แต่ก่อนหน้านี้ นายกฯ ก็โพล่งออกมาลอยๆ เหมือนกันว่า "เฝ้าดูอยู่ว่าใครทะเลาะกัน" แล้วก็เอ่ยชื่อทั้งคู่ขึ้นมา โดยกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ก็ได้รับมอบหมายงานด้านความมั่นคง ก็ต้องให้ความสำคัญเพราะหากบ้านเมืองมั่นคงก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมมั่นคงไปด้วย ไม่ได้มอบหมายสั่งงานมากกว่าใคร ส่วนงานด้านเศรษฐกิจ ก็ให้ หม่อมอุ๋ย ดูแลไป
00 แต่คำพูดที่ตัดตอนออกมาเป็นคำๆ เช่น เฝ้าดูอยู่ว่าใครทะเลาะกัน และต่อมามีการเข้าพบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และปฏิเสธว่า ไม่ได้ซดเกาเกลากับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มันก็เหมือนตอกย้ำอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาข่าวคราวของทั้งคู่หนาหูกันเหลือเกิน และคราวนี้ เมื่อปะติดปะต่อกันมันก็เข้าเค้า เมื่อมันเข้าเคัาก็ต้องจับตากันต่อว่าจะมีการ "ปรับครม." ตามมาหรือเปล่า !!
00 ในที่สุดหมายศาลก็มาปิดถึงบ้าน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อนัดหมายให้ไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 19 พ.ค. หลังจากตกเป็นจำเลยคดีใช้อำนาจมิชอบจนสร้างความเสียหายกับโครงการรับจำนำข้าว เอาเป็นว่าในวันดังกล่าวเธอต้องไปปรากฏตัวที่ศาลฯ ถ้าไม่ไปก็จะต้องโดนออกหมายจับ และนี่ก็คือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเต็มรูปแบบแล้ว และหากมองในแง่ดี ก็ถือเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะได้พิสูจน์ความจริง !!