00 ส่งสัญญาณค่อนข้างจะชัดเจนออกมาแล้วว่า จะมีการปรับครม.ในเดือนมี.ค.นี้ โดยคาดว่าเป้าหมายในการปรับ น่าจะเป็น ครม.เศรษฐกิจ แบบยกชุด อย่างไรก็ดี อาจมีการยกเว้นบางคนที่อยู่ "ในสายแข็ง" พูดกันตรงๆ ก็คือ รมต.ที่มาจากกองทัพบางคน ที่อาจยังต้องรักษาสภาพเอาไว้ ไม่ให้"ขาลอย" หลุดวงโคจร
00 เป้าหมายสำคัญที่คาดว่าจะต้องมีการปรับค่อนข้างแน่ หากพิจารณากันรายกระทรวง และตัวบุคคลที่อยู่ในข่ายมาตั้งแต่ต้น ก็ต้องเริ่มจาก "หัวหน้าทีมศก." รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ คือ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รมว.คลัง สมหมาย ภาษี รมว.เกษตรฯ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวมทั้ง รมช.เกษตรฯ อำนวย ปะติเส นี่คือล็อตแรก แต่ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันในทีมเศรษฐกิจ มันก็ต้องพ่วงเอา รมว.พาณิชย์ อย่าง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เข้าไปด้วย แต่ก็อย่างว่า รายหลังนี่ดันอยู่ในสายแข็งจากกองทัพ จึงต้องแยกออกมาพิจารณากันเป็นพิเศษต่างหาก ที่สำคัญในทีมเศรษฐกิจ ยังมีรายละเอียดภายใน นั่นคือที่ผ่านมามีคนเห็นรายการ "ซดเกลาเหลา" กันอยู่บ่อยครั้ง สังเกตได้ก็คือมีการเรียกประชุมทีมเศรษฐกิจแทบจะนับครั้งได้ โดยเฉพาะ กับกระทรวงพาณิชย์
00 อย่างไรก็ดี ที่น่าจับตาไม่แพ้กัน และกลายเป็นแรงขย่มสะเทือนเข้าไปในกองทัพอีกด้วย เพราะมีข่าวการปรับครม.ทีไร ก็จะมีข่าวที่เป็นแรงกดดันให้ระดับ "บิ๊กในกองทัพ" เลิก "ถ่างขา" ควบเก้าอี้รัฐมนตรี กับตำแหน่งในกองทัพ เสียงที่ออกมาให้ "ทิ้งเก้าอี้ในกองทัพ" แล้วไปเอาดีทางฝ่ายการเมืองเพียงอย่างเดียว อ้างว่าหากยังถ่างอยู่แบบนี้ จะสร้างปัญหาให้กับการบริหารในกองทัพจะต้องหยุดชะงัก หรือเดินไปไม่เต็มสูบ ความหมายก็คือ มี "แซะ" จากภายใน ซึ่งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เมื่อมีข่าวปรับครม.ในช่วงปลายปีที่แล้วเริ่มแรง ทั้ง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. และ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ร่วมคุมเกมกันอยู่ ต้องออกมาเบรกแบบเด็ดขาด ทุกอย่างจึงค่อยสงบลงชั่วคราว !!
00 แน่นอนว่าย่อมเป็นแรงกดดันไปถึงบิ๊กหลายคน แน่นอนว่าพุ่งไปที่รายแรกคือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่ยังเป็น รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่เป็น รอง ผบ.สส. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน และปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และรองเสนาธิการทหารบก เป็นต้น อย่างไรก็ดี แม้ว่ามีแรงกดดัน แต่ถ้าพิจารณาจากแบ็กกราวด์ และที่มาในการเข้ามานั่งเก้าอี้ใน ครม. ก็ต้องบอกว่า "แข็ง" พอตัว
00 แต่คำพูดของ "ลุงตู่" ที่ทิ้งท้ายแบบปริศนาว่า "ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ" และยอมรับว่า ในรอบ 8 เดือนทีมเศรษฐกิจเป็น "จุดอ่อน" มันก็ชัดเจนในตัวเอง และยิ่งได้เห็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าทีมติตตามการทำงานของรมต. ที่ก่อนหน้านี้จะมีการประเมินและสรุปในเดือนมี.ค. ดังนั้นก็ถึงเวลาแล้ว และถึงเวลาที่ต้องโละไปพร้อมกัน รวมไปถึงเก้าอี้ที่มีปัญหา ประเภท "ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ" ก็ต้องไปด้วยหรือเปล่า ซึ่งก็มีอยู่หลายคน แถมยังเป็นคนกันเองเสียด้วย !!
00 เป้าหมายสำคัญที่คาดว่าจะต้องมีการปรับค่อนข้างแน่ หากพิจารณากันรายกระทรวง และตัวบุคคลที่อยู่ในข่ายมาตั้งแต่ต้น ก็ต้องเริ่มจาก "หัวหน้าทีมศก." รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ คือ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รมว.คลัง สมหมาย ภาษี รมว.เกษตรฯ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวมทั้ง รมช.เกษตรฯ อำนวย ปะติเส นี่คือล็อตแรก แต่ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันในทีมเศรษฐกิจ มันก็ต้องพ่วงเอา รมว.พาณิชย์ อย่าง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เข้าไปด้วย แต่ก็อย่างว่า รายหลังนี่ดันอยู่ในสายแข็งจากกองทัพ จึงต้องแยกออกมาพิจารณากันเป็นพิเศษต่างหาก ที่สำคัญในทีมเศรษฐกิจ ยังมีรายละเอียดภายใน นั่นคือที่ผ่านมามีคนเห็นรายการ "ซดเกลาเหลา" กันอยู่บ่อยครั้ง สังเกตได้ก็คือมีการเรียกประชุมทีมเศรษฐกิจแทบจะนับครั้งได้ โดยเฉพาะ กับกระทรวงพาณิชย์
00 อย่างไรก็ดี ที่น่าจับตาไม่แพ้กัน และกลายเป็นแรงขย่มสะเทือนเข้าไปในกองทัพอีกด้วย เพราะมีข่าวการปรับครม.ทีไร ก็จะมีข่าวที่เป็นแรงกดดันให้ระดับ "บิ๊กในกองทัพ" เลิก "ถ่างขา" ควบเก้าอี้รัฐมนตรี กับตำแหน่งในกองทัพ เสียงที่ออกมาให้ "ทิ้งเก้าอี้ในกองทัพ" แล้วไปเอาดีทางฝ่ายการเมืองเพียงอย่างเดียว อ้างว่าหากยังถ่างอยู่แบบนี้ จะสร้างปัญหาให้กับการบริหารในกองทัพจะต้องหยุดชะงัก หรือเดินไปไม่เต็มสูบ ความหมายก็คือ มี "แซะ" จากภายใน ซึ่งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ เมื่อมีข่าวปรับครม.ในช่วงปลายปีที่แล้วเริ่มแรง ทั้ง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. และ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ร่วมคุมเกมกันอยู่ ต้องออกมาเบรกแบบเด็ดขาด ทุกอย่างจึงค่อยสงบลงชั่วคราว !!
00 แน่นอนว่าย่อมเป็นแรงกดดันไปถึงบิ๊กหลายคน แน่นอนว่าพุ่งไปที่รายแรกคือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ที่ยังเป็น รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ที่เป็น รอง ผบ.สส. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน และปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และรองเสนาธิการทหารบก เป็นต้น อย่างไรก็ดี แม้ว่ามีแรงกดดัน แต่ถ้าพิจารณาจากแบ็กกราวด์ และที่มาในการเข้ามานั่งเก้าอี้ใน ครม. ก็ต้องบอกว่า "แข็ง" พอตัว
00 แต่คำพูดของ "ลุงตู่" ที่ทิ้งท้ายแบบปริศนาว่า "ถ้าจำเป็นก็ต้องปรับ" และยอมรับว่า ในรอบ 8 เดือนทีมเศรษฐกิจเป็น "จุดอ่อน" มันก็ชัดเจนในตัวเอง และยิ่งได้เห็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าทีมติตตามการทำงานของรมต. ที่ก่อนหน้านี้จะมีการประเมินและสรุปในเดือนมี.ค. ดังนั้นก็ถึงเวลาแล้ว และถึงเวลาที่ต้องโละไปพร้อมกัน รวมไปถึงเก้าอี้ที่มีปัญหา ประเภท "ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ" ก็ต้องไปด้วยหรือเปล่า ซึ่งก็มีอยู่หลายคน แถมยังเป็นคนกันเองเสียด้วย !!