00 การปรับคณะรัฐมนตรี ที่ตอนแรกมีการยืนยันกันอย่างแข็งขันว่าไม่มี แต่มาวันนี้เริ่มมองเห็นแล้วว่า "เป็นไปได้" โดยเฉพาะอาจจะเกิดภายในเดือนนี้ เป้าหมายก็ไม่น่าแปลกใจ ก็คือ "ทีมเศรษฐกิจ" สามกระทรวงหลัก คือ คลัง พาณิชย์ และเกษตรฯ บุคคลที่ถูกโฟกัสมานาน เริ่มตั้งแต่หัวหน้าทีมคือ "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ รมว.คลัง สมหมาย ภาษี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ และ อำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ อย่างไรก็ดี ก็ต้องมาพิจารณาถึงแบ็กกราวด์และความเป็นไปได้ เพราะถ้าพิจารณาบาง "แบ็ก" ก็จะมีความเหนียวต่างกัน แน่นอนว่า ในจำนวนนี้ก็ยังพอฟันธงได้ว่า พล.อ.ฉัตรชัย "น่าจะ" ยังเหนียวกว่าใคร
00 เมื่อพิจารณาในรายละเอียด เฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่มี "หม่อมอุ๋ย" เป็นหัวหน้า มีเสียงนินทามานานแล้วว่า "ไม่มีเอกภาพ" ไม่ค่อยได้ประสานงานกันมานานแล้ว โดยเฉพาะหัวหน้าทีมกับ รมว.พาณิชย์ คือ พล.อ.ฉัตรชัย และยังทับซ้อนไปถึงทีมเศรษฐกิจของ คสช.ที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้แท็กทีมกันแน่นปึ้กกับ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และโดยพฤตินัยทำหน้าที่ไม่ต่างจากการควบรวมเก้าอี้รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจไปแล้ว และเมื่อพิจารณาจากผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่กระเตื้อง มันจึงอาจเป็นที่มาของคำพูดล่าสุดของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ย้ำว่า "หากจำเป็นก็ปรับ" และคำพูด "จุดอ่อนทีมเศรษฐกิจในรอบ 8 เดือน" แบบนี้ก็พอเห็นแนวโน้มค่อนข้างชัด !!
00 จะเรียกว่ายิ่งนานยิ่งมีสีสัน มีลูกเล่นแพรวพราวมากขึ้นทุกวัน สำหรับ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกกันไปแบบฉีกแนวมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญภาพที่ออกมาเป็นภาพที่ "ซอร์ฟ" ลงมา และยังได้ใจสังคม ได้ทั้งพื้นที่สื่อ เรียกความสนใจไปได้อีกทางหนึ่งแบบคาดไม่ถึง ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ เริ่มเปลี่ยนไปจากคนที่มีบุคลิกดุดัน พูดเสียงดัง อารมณ์เสีย อารมณ์หลุดในก่อนหน้านี้ กลายมาเป็นคนใหม่ที่มีอารมณ์ผ่อนคลาย มีอารมณ์ขัน เป็นกันเองกับสื่อมากขึ้น กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ อย่างน่าแปลกใจ ซึ่งก็ได้ผลนี่คือ "ภาพลักษณ์ใน ทางบวก" สามารถเรียกเรตติ้งได้ดีทีเดียว
00 เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ไปบรรยายที่ตลาดหลักทรัพย์ คราวนั้นมีลูกเล่นคำพูดเรียกเสียงฮาจากผู้ฟังเป็นระยะๆ เอาเป็นว่าถ้าจะเอาดีทางทอล์กโชว์ หรือเดี่ยวไมโครโฟน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ที่น่าสนใจก็คือ ในเนื้อหาคำพูดนอกจากมีความฮาแล้วยังใช้เป็นมุกในการเปรียบเปรยแก้ปัญหา มีลักษณะของการทำการบ้าน และติดตามผล ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา หรือก่อนหน้านั้นก็ลงไปรับประทานอาหารในโรงอาหารในทำเนียบฯ มาแล้ว และล่าสุดยังโชว์ลีลาการซิ่งมอเตอร์ไซค์ ภายในทำเนียบฯ ระหว่างการเยี่ยมกิจกรรมของบรรดานักเรียนอาชีวะ เกี่ยวกับการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ช่วยเหลือสังคม จนเรียกเสียงฮือฮาได้อีกรอบ และที่สำคัญเป็นภาพที่สื่อรายงานออกไปเป็นภาพที่เด่น น่าสนใจว่าเป็นกิจกรรมแบบชาวบ้านที่สัมผัสได้
00 หากพิจารณากันแบบมีความหมาย ก็อดไม่ได้ที่จะต้องนำไปเปรียบเทียบกันสีสันที่ ทักษิณ ชินวัตร นำมาใช้ในการสร้างภาพเพื่อเรียกเรตติ้ง แม้จะเชื่อว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเวลานี้ กับ ทักษิณ ในตอนโน้น จะต่างกัน แต่เมื่อบังเอิญมาคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะความ "ติดดิน" มันก็ได้ใจ ได้พื้นที่สื่อ จำติดตาที่ ทักษิณ สร้างภาพไปนอนกลางดิน นุ่งผ้าขะม้า เจียวไข่ สารพัด มันก็ได้ผล แต่นั่นมันเป็นการ "จงใจ" ที่มีการออกแบบมาล่วงหน้าเพื่อเป้าหมายทางการเมือง แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงออกมา น่าจะออกมาแบบฉับพลันทันใด คิดและทำเดี๋ยวนั้น อาจไม่ได้หวังผลอะไรตามมา เพียงแต่ว่ามันจะได้ผลที่ผิดคาด และเป็นการสะท้อนตัวตนออกมา จนเชื่อว่าน่าจะค้นพบตัวเองแล้ว ต่อไปเราก็คงจะได้เห็นบุคลิกแบบนี้ออกมาอีก ดังนั้นเอาเป็นว่า น่าสนใจก็แล้วกัน !!
00 มาอีกมุมหนึ่งใน สนช. กับการตั้งคนในครอบครัว สามี ภรรยา หรือลูกหลานมาเป็นผู้ช่วย เลขา หรือที่ปรึกษา กินเงินเดือนหลวง กำลังบั่นทอนศรัทธาตัวเอง อย่างไม่น่าเชื่อ ทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง แน่นอนว่าในทางกฎหมายมันไม่ผิดอยู่แล้ว แต่ความสำนึกรับผิดชอบ ความเหมาะสมมันมีอยู่บ้างหรือไม่ ถ้าถามว่าถ้าเงินเดือนที่จ่ายไปนั้น เป็นเงินของตัวเอง แล้วจะจ้างเครือญาติเข้ามาหรือไม่ และที่สำคัญเรื่องแบบนี้มันเป็นช่องโหว่ ทำลายตัวเองอย่างเร็วเสียด้วย และมันจะต่างกันตรงไหนกับพวกอดีต ส.ส.และ ส.ว. หรือแม้แต่ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ ฝ่าฝืนจริยธรรม กระทำผิดต่อหน้าที่ของตัวเองจนถูกถอดถอนก่อนหน้านี้ ก็อยากถาม ประธาน พรเพชร วิชิตชลชัย คิดเห็นเรื่องแบบนี้อย่างไรบ้าง ไร้ยางอายกันบ้างหรือไม่ !!
00 เมื่อพิจารณาในรายละเอียด เฉพาะทีมเศรษฐกิจ ที่มี "หม่อมอุ๋ย" เป็นหัวหน้า มีเสียงนินทามานานแล้วว่า "ไม่มีเอกภาพ" ไม่ค่อยได้ประสานงานกันมานานแล้ว โดยเฉพาะหัวหน้าทีมกับ รมว.พาณิชย์ คือ พล.อ.ฉัตรชัย และยังทับซ้อนไปถึงทีมเศรษฐกิจของ คสช.ที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้แท็กทีมกันแน่นปึ้กกับ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และโดยพฤตินัยทำหน้าที่ไม่ต่างจากการควบรวมเก้าอี้รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจไปแล้ว และเมื่อพิจารณาจากผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่กระเตื้อง มันจึงอาจเป็นที่มาของคำพูดล่าสุดของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ย้ำว่า "หากจำเป็นก็ปรับ" และคำพูด "จุดอ่อนทีมเศรษฐกิจในรอบ 8 เดือน" แบบนี้ก็พอเห็นแนวโน้มค่อนข้างชัด !!
00 จะเรียกว่ายิ่งนานยิ่งมีสีสัน มีลูกเล่นแพรวพราวมากขึ้นทุกวัน สำหรับ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงบุคลิกกันไปแบบฉีกแนวมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญภาพที่ออกมาเป็นภาพที่ "ซอร์ฟ" ลงมา และยังได้ใจสังคม ได้ทั้งพื้นที่สื่อ เรียกความสนใจไปได้อีกทางหนึ่งแบบคาดไม่ถึง ภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ เริ่มเปลี่ยนไปจากคนที่มีบุคลิกดุดัน พูดเสียงดัง อารมณ์เสีย อารมณ์หลุดในก่อนหน้านี้ กลายมาเป็นคนใหม่ที่มีอารมณ์ผ่อนคลาย มีอารมณ์ขัน เป็นกันเองกับสื่อมากขึ้น กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ อย่างน่าแปลกใจ ซึ่งก็ได้ผลนี่คือ "ภาพลักษณ์ใน ทางบวก" สามารถเรียกเรตติ้งได้ดีทีเดียว
00 เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ไปบรรยายที่ตลาดหลักทรัพย์ คราวนั้นมีลูกเล่นคำพูดเรียกเสียงฮาจากผู้ฟังเป็นระยะๆ เอาเป็นว่าถ้าจะเอาดีทางทอล์กโชว์ หรือเดี่ยวไมโครโฟน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ที่น่าสนใจก็คือ ในเนื้อหาคำพูดนอกจากมีความฮาแล้วยังใช้เป็นมุกในการเปรียบเปรยแก้ปัญหา มีลักษณะของการทำการบ้าน และติดตามผล ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา หรือก่อนหน้านั้นก็ลงไปรับประทานอาหารในโรงอาหารในทำเนียบฯ มาแล้ว และล่าสุดยังโชว์ลีลาการซิ่งมอเตอร์ไซค์ ภายในทำเนียบฯ ระหว่างการเยี่ยมกิจกรรมของบรรดานักเรียนอาชีวะ เกี่ยวกับการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ช่วยเหลือสังคม จนเรียกเสียงฮือฮาได้อีกรอบ และที่สำคัญเป็นภาพที่สื่อรายงานออกไปเป็นภาพที่เด่น น่าสนใจว่าเป็นกิจกรรมแบบชาวบ้านที่สัมผัสได้
00 หากพิจารณากันแบบมีความหมาย ก็อดไม่ได้ที่จะต้องนำไปเปรียบเทียบกันสีสันที่ ทักษิณ ชินวัตร นำมาใช้ในการสร้างภาพเพื่อเรียกเรตติ้ง แม้จะเชื่อว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเวลานี้ กับ ทักษิณ ในตอนโน้น จะต่างกัน แต่เมื่อบังเอิญมาคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะความ "ติดดิน" มันก็ได้ใจ ได้พื้นที่สื่อ จำติดตาที่ ทักษิณ สร้างภาพไปนอนกลางดิน นุ่งผ้าขะม้า เจียวไข่ สารพัด มันก็ได้ผล แต่นั่นมันเป็นการ "จงใจ" ที่มีการออกแบบมาล่วงหน้าเพื่อเป้าหมายทางการเมือง แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงออกมา น่าจะออกมาแบบฉับพลันทันใด คิดและทำเดี๋ยวนั้น อาจไม่ได้หวังผลอะไรตามมา เพียงแต่ว่ามันจะได้ผลที่ผิดคาด และเป็นการสะท้อนตัวตนออกมา จนเชื่อว่าน่าจะค้นพบตัวเองแล้ว ต่อไปเราก็คงจะได้เห็นบุคลิกแบบนี้ออกมาอีก ดังนั้นเอาเป็นว่า น่าสนใจก็แล้วกัน !!
00 มาอีกมุมหนึ่งใน สนช. กับการตั้งคนในครอบครัว สามี ภรรยา หรือลูกหลานมาเป็นผู้ช่วย เลขา หรือที่ปรึกษา กินเงินเดือนหลวง กำลังบั่นทอนศรัทธาตัวเอง อย่างไม่น่าเชื่อ ทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง แน่นอนว่าในทางกฎหมายมันไม่ผิดอยู่แล้ว แต่ความสำนึกรับผิดชอบ ความเหมาะสมมันมีอยู่บ้างหรือไม่ ถ้าถามว่าถ้าเงินเดือนที่จ่ายไปนั้น เป็นเงินของตัวเอง แล้วจะจ้างเครือญาติเข้ามาหรือไม่ และที่สำคัญเรื่องแบบนี้มันเป็นช่องโหว่ ทำลายตัวเองอย่างเร็วเสียด้วย และมันจะต่างกันตรงไหนกับพวกอดีต ส.ส.และ ส.ว. หรือแม้แต่ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ ฝ่าฝืนจริยธรรม กระทำผิดต่อหน้าที่ของตัวเองจนถูกถอดถอนก่อนหน้านี้ ก็อยากถาม ประธาน พรเพชร วิชิตชลชัย คิดเห็นเรื่องแบบนี้อย่างไรบ้าง ไร้ยางอายกันบ้างหรือไม่ !!
