xs
xsm
sm
md
lg

ปปง.ตามยึดเงินโกง4คดีดัง อายัดเพิ่ม8พันล. เปิดขายทรัพย์สิน"พงศ์พัฒน์"รอบ2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ปปง.ตามยึดทรัพย์ โกง 4 คดีดังอีกรอบ ทั้งยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แก๊ง "พงศ์พัฒน์" ตบทรัพย์ ลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และคดีเปิดบ่อนแทงบอล แทงบาคาร่าออนไลน์ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท พร้อมเปิดขายทรัพย์สินเครือข่ายพงศ์พัฒน์ครั้งที่ 2 อีก 941 รายการ เปิดให้เข้าชม 21-22 มี.ค. ขายจริง 23-26 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา13.30น. วานนี้ (18มี.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 4/2558 โดยที่ประชุมมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์ที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเพิ่มเติม4คดี มูลค่ารวมกว่า8,000ล้านบาท เพื่อตรวจสอบไม่เกิน 90 วัน

***อายัดเพิ่มเงินโกงสหกรณ์7พันล้าน

พ.ต.ท.สีหนาทกล่าวว่า คดีแรกได้มีมติให้ยึดอายัดทรัพย์สิน กรณีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด กับพวก ร่วมกันยักยอกทรัพย์สหกรณ์กว่า13,000ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานธุรกรรมทางการเงินของนายศุภชัย พบว่า นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล นางรินนา วัฒนาศิรินุกุล นายกิตติธัช วัฒนาศิรินุกุล นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ นางสิริกร นวอิสรารักษ์ น.ส.อริสรา นวอิสรารักษ์ นายอภิชัย ศรีม่วงงาม และนายธวัช ฮ่วนสกุล เป็นบุคคลที่รับโอนเงินและทรัพย์สินต่างๆ จากนายศุภชัย

"ผู้เกี่ยวข้องอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว จึงมีมติให้ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบไม่เกิน90วัน จำนวน 192 รายการ มูลค่ากว่า7,000ล้านบาท"

สำหรับทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ ได้แก่ 1.หุ้นในบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอส.ดับบลิว. ภูเก็ตกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอส.ดับบลิว.ลันตากรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 11 รายการ มูลค่าประมาณ เป็นเงิน 6,600,000,000 บาท 2.ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จำนวน 7รายการ (อยู่ระหว่างรอการประเมิน) 3.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 4 รายการ (อยู่ระหว่างรอการประเมิน) 4.บัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 18 บัญชี ประมาณ 194,205 บาท 5.หุ้นในบริษัท จีแอลโอดับบลิว ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด จำนวน 3รายการ มูลค่าประมาณ เป็นเงิน 500,000,000 บาท 6.ที่ดินตามโฉนดที่ดิน จำนวน 24 รายการ (อยู่ระหว่างรอการประเมิน) 7.ทองรูปพรรณ พระเครื่อง วัตถุมงคล เครื่องประดับ อาวุธปืน กรมธรรม์ประกันชีวิต บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จำนวน 125 รายการ (อยู่ระหว่างรอการประเมิน)

***จ่อยึดเงินแก๊งเดอะกิ๊ก 17 ล้าน

พ.ต.ท.สีหนาทกล่าวว่า คดีที่ 2 กรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. กับพวก มีพฤติการณ์รับสินบนในการค้าน้ำมันเถื่อน และเรียกรับเงินในการซื้อตำแหน่งข้าราชการตำรวจ โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล และนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล ซึ่งมีความสัมพันธ์ในทางเครือญาติกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ได้อาศัยช่องทางความเป็นเครือญาติในการกระทำความผิดและมีการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

โดยจากการตรวจสอบ ปปง. พบว่ามีทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้จากการกระทำความผิดอีก21รายการ มูลค่ากว่า17ล้านบาท ซึ่งได้อายัดไว้ทั้ง 21 รายการ เพื่อตรวจสอบ ได้แก่ 1.บัญชีเงินฝาก ของ น.ส.สุดาทิพย์ ม่วงนวล จำนวน 13 บัญชี จำนวน 2,165,021.6 บาท 2.บัญชีเงินฝาก ของพ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล จำนวน 4 บัญชี จำนวน 660,000 บาท 3.บัญชีเงินฝากของ สวนผึ้งรีสอร์ท จำนวน 1 บัญชี จำนวน6,779.56 บาท และ 4.ห้องชุดพักอาศัย จำนวน 3 ยูนิต ประมาณ 14,971,900 บาท

***ตามเงินยักยอก สจล.อีก 8 ล้าน

พ.ต.ท.สีหนาทกล่าวว่า คดีที่ 3 กรณีนายทรงกลด ศรีประสงค์ และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ กับพวก ที่ร่วมกันยักยอกทรัพย์สินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบว่า เงินที่มีการยักยอกไปจาก สจล. นั้น ได้มีการโอนไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารของนายทรงกลด และนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และยังพบว่าเงินที่ได้มีการยักยอกไปบางส่วนนั้น นายกิตติศักดิ์ ได้นำไปซื้อทรัพย์สินต่างๆ ให้กับตนเองและบุคคลอื่น ได้แก่ น.ส.จุฑารัตน์ ปัดภัย (น้องสาว) นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ (เพื่อน) และยังมีการนำเงินบางส่วน ไปลงทุนในกิจการต่างๆ ได้แก่ บริษัท มัทธุจัด จำกัด กิจการ Street puband restaurant ซึ่งบุคคลอื่นๆ ที่ได้รับโอนเงินจากนายกิตติศักดิ์ ก็ได้มีการนำเงินดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินจำนวนมาก

โดยต่อมา ปปง. ได้รวบรวมพยานหลักฐานพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายทรงกลดและน.ส.อัมพรกับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอีกจำนวน 24 รายการ มูลค่าประมาณ 8,070,000 บาท จึงได้มีมติให้อายัดไว้เช่นเดียวกัน ได้แก่ 1.ห้องชุดของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด จำนวน 2 ห้อง ประมาณ5,204,329 บาท 2.บัญชีเงินฝาก ของนางระดม มัทธุจัด จำนวน 1 บัญชี จำนวน50,978.34 บาท 3.บัญชีเงินฝาก ของนายทรงกลด ศรีประสงค์ จำนวน 2 บัญชีจำนวน2,234,963.42 บาท 4.รถจักรยานยนต์ ของ นายชิตธวัฒน์ วชิรินทราวัฒน์ จำนวน 1รายการ ประมาณ 45,000 บาท 5.ทรัพย์สินรายการอื่น ของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด จำนวน 18รายการ ประมาณ 534,000 บาท

***ตามทรัพย์สินเปิดบ่อนออนไลน์พันล้าน

พ.ต.ท.สีหนาทกล่าวว่า คดีที่ 4 กรณีนายอรรถพล สวนใจเย็น กับพวก ร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันผ่านเว็บไซต์ (ทายผลฟุตบอล , บาคาร่า) ออนไลน์ โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า การกระทำความผิดดังกล่าว มีจำนวนผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นแต่ละครั้งเกินกว่าหนึ่งร้อยคน หรือมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าเกินกว่า10ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ที่ได้มีการยึดและอายัดไว้แล้วบางส่วนก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ปปง. มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พบว่า นายอรรถพลกับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพิ่มเติมจากที่เคยได้ยึดไว้อีกจำนวน 79รายการ มูลค่าประมาณ1,100ล้านบาท จึงได้มีมติให้อายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบเช่นเดียวกัน โดยทรัพย์สินที่อายัดไว้ ได้แก่ 1. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 49 บัญชี ประมาณ 92,000,000บาท 2.ห้องชุด จำนวน 3 ยูนิต ประมาณ 48,000,000 บาท และอีกจำนวน 6 ยูนิต (อยู่ระหว่างรอการประเมิน) 3.ที่ดิน จำนวน 5 แปลง ประมาณ 20,000,000 บาท และอีกจำนวน 1 แปลง (อยู่ระหว่างรอการประเมิน)

นอกจากนี้ ปปง. ยังได้ใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรค 2 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 2 คำสั่ง ได้แก่ 1.คำสั่งเลขาธิการ ปปง. ที่ ย. 49/2558 ลงวันที่ 2 มี.ค.2558 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 8 รายการ พร้อมดอกผล เป็นเงินประมาณ 205 ล้านบาท และ 2.คำสั่งเลขาธิการ ปปง. ที่ ย. 57/2558 ลงวันที่ 10 มี.ค.2558 อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 7 รายการพร้อมดอกผล เป็นเงินประมาณ 738 ล้านบาท

***ขายทอดตลาดทรัพย์"พงศ์พัฒน์"รอบสอง

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวถึงการจัด "มหกรรมขายทอดตลาดตัดวงจรการฟอกเงิน นำเงินคืนสู่แผ่นดิน" ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5-8 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า สำนักงาน ปปง. สามารถประมูลขายทอดตลาดทรัพย์สิน ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ยึดได้จากเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กับพวก 865 รายการ จากจำนวน 1,000 รายการ มูลค่า 38,433,100 บาท

ทั้งนี้ ปปง. จะจัด "มหกรรม ขายทอดตลาด ตัดวงจรการฟอกเงิน นำเงินคืนสู่แผ่นดิน" ครั้งที่ 2 ขึ้นอีก โดยจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าดูทรัพย์สินระหว่างวันที่ 21-22 มี.ค.2558 ระหว่างเวลา 09.30-16.30 น. และจะขายทอดตลาดทรัพย์สิน ในวันที่ 23-26 มี.ค.2558 ระหว่างเวลา 10.00-16.30 น. ที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

"ในการขายทอดตลาดครั้งที่ 2นี้ มีทรัพย์สินที่ยึดได้จากการกระทำความผิดของเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์จำนวน 941 รายการ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ภาพจิตรกรรม เครื่องถ้วย เครื่องแก้ว เครื่องตกแต่ง และของมีค่าอื่นๆ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นจุดเด่นของงาน ได้แก่ เก๋งไม้จีนลวดลายมังกรฝีมือวิจิตรงดงาม เครื่องถ้วยเครื่องชามเบญจรงค์โบราณต่างๆ ภาพวาดสีน้ำมันอายุ 109 ปี ราคาประเมิน 15 ล้านบาท"

อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมประมูลทรัพย์สินดังกล่าวสามารถเข้าชมรายละเอียดทรัพย์สินได้ทาง www.amlo.go.th หรือ สายด่วน ปปง. 1710 ในวันและเวลาราชการ
กำลังโหลดความคิดเห็น