xs
xsm
sm
md
lg

ฝันของคนเสื้อแดงเรื่องสาธารณรัฐ

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ประเด็นสำคัญที่นายมหาหิน ขุนทอง คนเสื้อแดงที่ถูกจับได้หลังก่อเหตุปาระเบิดศาลอาญา นอกจากต้องการก่อเหตุวุ่นวายเพื่อเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงประเทศไทยแล้ว เป้าหมายของพวกเขาก็คือ การเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศเป็นระบอบสาธารณรัฐ

ความคิดเรื่องสาธารณรัฐพูดในหมู่คนเสื้อแดงผ่านคลิปใต้ดินอย่างเปิดเผยมานานแล้ว โดยทั้งที่พูดออกมาตรงและใช้นัยว่าการเมืองเปลี่ยนผ่าน แต่การไปสู่ระบอบสาธารณรัฐได้ก็คือ การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั่นเอง

อุดมการณ์สาธารณรัฐนั้นอาจจะไม่ใช่ความผิดในทางสากล เพราะในโลกนี้มีหลายประเทศที่ปกครองโดยระบอบสาธารณรัฐ แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว หมายถึงการล้มล้างระบอบกษัตริย์ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันคงจะยอมรับไม่ได้ และแน่นอนว่า อุดมการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย

คนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวใต้ดินซึ่งยึดมั่นแนวทางสาธารณรัฐในระดับแกนนำส่วนใหญ่แล้วจะหนีออกไปต่อสู้นอกประเทศไม่ว่าจะเป็นจักรภพ เพ็ญแข ชูพงษ์ ถี่ถ้วนหรือที่รู้จักกันในนามของชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ คนที่ใช้นามว่าดร.เพียงดิน รักไทย รวมถึงสุรชัย แซ่ด่าน ฯลฯ แน่นอนว่า ทั้งหมดใช้มวลชนเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณเป็นฐานในการต่อสู้

ความคิดเรื่อง “ล้มเจ้า” จึงถูกปลูกฝังอยู่ในหมู่มวลชนเสื้อแดง ไปพร้อมกับการปลุกปั่นเรื่องไพร่กับอำมาตย์ที่มีนัยสะท้อนไปถึงเบื้องบนว่า อยู่เบื้องหลังการเมืองมาทุกยุคสมัยรวมถึงการโค่นล้มทักษิณเพราะอำมาตย์อิจฉาที่ทักษิณทำให้คนจนกินดีอยู่ดีขึ้น ซึ่งเป็นคำพูดที่เอามาบิดเบือนในหมู่คนชั้นล่างที่ยากจนอยู่แล้วให้รู้จักปวดร้าวกับโชคชะตาของตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกับชนชั้นสูง ทั้งที่จริงแล้วไม่มีผู้นำประเทศไหนในโลกนี้หรอกที่จะอิจฉา ถ้าประชาชนของตัวเองกินดีอยู่ดีขึ้น

แต่วาทกรรมของคนเสื้อแดงเหล่านั้นก็สร้างขึ้น เพื่อด้านหนึ่งต้องการดึงเอามวลชนของทักษิณมาเป็นแนวร่วมในการไปสู่อุดมการณ์เปลี่ยนระบอบของตัวเอง ด้านหนึ่งพยายามกดดันให้ทักษิณออกมาประกาศการต่อสู้ในแนวทางดังกล่าว เราจะเห็นว่า เดิมเป้าหมายของระบอบทักษิณไม่ได้ต้องการไปถึงขั้นนั้น แต่ใน “ปฏิญญาฟินแลนด์” ประกาศเพียงว่า จะทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ โดยเป้าหมายของพวกเขาก็คือ ระบอบกษัตริย์แบบญี่ปุ่นและอังกฤษนั่นเอง

ทั้งนี้ในความหมายว่าไม่ใช่คนเสื้อแดงทั้งหมดล้มเจ้า แต่คนล้มเจ้าทั้งหมดเป็นเสื้อแดง หรือถ้าจะพูดอย่างเป็นธรรมมีคนล้มเจ้าเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ฝังตัวอยู่ในมวลชนเสื้อแดง โดยพวกนี้มองว่า ระบอบกษัตริย์เป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นต้องเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ

จักรภพ เพ็ญแข เคยพูดว่า ตอนนี้เป็นไฟต์บังคับของทักษิณแล้ว หากทักษิณคิดจะไม่เป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงถึงระดับโครงสร้าง ทักษิณก็ต้องออกมาปฏิเสธที่จะเป็น แต่สถานการณ์มันแต่งตั้งและบรรจุทักษิณในภารกิจนี้แล้วเรียบร้อย

ในขณะที่ชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ บอกว่า ถ้าทักษิณประกาศแตกหักเมื่อไร ก็จะทำให้ชนะแน่ๆ “รับประกันวันนี้ ไม่เกิน 2 คืน ยึดประเทศไทยได้แน่ๆ”

ความพยายามเชิดชูให้ทักษิณขึ้นเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงระบอบเกิดขึ้นตลอดเวลา หนังสือพิมพ์ค่ายหนึ่งถึงกับยกย่องว่า ถ้าจับทักษิณมาติดคุกก็จะเกิดเหตุการณ์แบบคุกบาสตีย์ ซึ่งมีนัยถึงการล้มระบอบกษัตริย์สถาปนาระบอบสาธารณรัฐของฝรั่งเศสนั่นเอง

ทักษิณปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า คนที่มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบสาธารณรัฐนั้นเป็นส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดงที่เป็นมวลชนของตัวเอง ทักษิณจะไม่รับรู้เลยหรือว่าในหมู่คนเสื้อแดงระดับนำนั้นใครคิดอะไร จักรภพคิดอย่างไร สุรชัยคิดอย่างไร และปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ความพยายามต่อสู้ด้วยความรุนแรงและติดอาวุธนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในหมู่มวลชนเสื้อแดง ที่พูดกันมาตลอดว่า นั่นคือ แก้ว 3 ประการของการต่อสู้ที่สมบูรณ์ เพราะมีทั้งพรรค มวลชน และกองกำลังติดอาวุธ

การประกาศจัดตั้งกองกำลังต่างๆ เกิดขึ้นอย่างเปิดเผยในหมู่มวลชนเสื้อแดง ทั้งในยุคของเสธ.แดง และการจัดตั้งกองกำลังของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แม้เจ้าตัวจะบอกว่าเลิกภารกิจนั้นไปแล้วก็ตาม แต่เราต้องยอมรับว่า มีกองกำลังติดอาวุธอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงจริงทั้งการปรากฏตัวอย่างเปิดเผยครั้งแรกในวันที่ 10 เมษายน 2553 และการระดมยิงอาวุธสงครามใส่มวลชนฝั่งตรงข้ามทักษิณและหน่วยงานราชการอีกหลายครั้ง

คนเสื้อแดงอาจจะตอบโต้ว่า มวลชนที่ต่อต้านทักษิณก็ติดอาวุธเช่นเดียวกัน ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้ว่าไม่จริง แต่เราจะเห็นว่า มวลชนฝ่ายตรงข้ามทักษิณไม่ได้จัดตั้งกองกำลังไปสุ่มยิงทำร้ายฝ่ายตรงข้าม แต่มีลักษณะป้องกันตัวซึ่งเป็นสัญชาตญาณและความชอบธรรมที่มนุษย์จะป้องกันชีวิตของตัวเอง

ทุกวันนี้แนวคิดเรื่องล้มเจ้า ตรวจสอบสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นถูกจุดประเด็นขึ้นในมุมสว่างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวร่วมของคนเสื้อแดงอย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่ปัจจุบันหนีไปอยู่ในประเทศฝรั่งเศส มีคนติดตามความเห็นของสมศักดิ์จำนวนมากในโซเชียลมีเดีย โดยประเด็นของสมศักดิ์ก็คือ ต้องวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เหมือนกับบุคคลธรรมดาทั่วไป

คนพวกนี้เชื่อว่า โดยเงื่อนไขของเวลา แนวทางสากล และวัฏสงสารแล้ว วันหนึ่งพวกเขาจะต้องชนะไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้า สุนัย จุลพงศธรกล่าวเปรียบเปรยถึงกลยุทธ์การต่อสู้ของคนเสื้อแดงว่า “เทวดามีไดโนเสาร์เป็นกำแพงป้องกันอย่างแน่นหนา ทำให้ไพร่เข้าประชิดตัวลำบาก ดังนั้นไพร่ต้องสู้แบบปลวกกินเรือน ค่อยๆ เจาะกินศรัทธาเงียบๆ กว่าเทวดาจะรู้ตัวเรือนก็พังเสียแล้ว เช่นแอบซุบซิบนินทา แอบส่งซีดีและเอกสารข้อมูล หรือสู้แบบตีวัวกระทบคราด ตวาดหมูด่าแมว”

คนเสื้อแดงบางคนฝันว่า การเปลี่ยนแปลงระบอบจะเกิดขึ้นได้เมื่อถึงวัน “เปลี่ยนผ่าน” ที่ประชาชนจะลุกฮือขึ้นพร้อมกัน แต่ยังมีคนเสื้อแดงอีกบางกลุ่มที่เชื่อว่า การจะเปลี่ยนแปลงระบอบสำเร็จนั้นจะต้องสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นและดึงเอาต่างชาติเข้ามาแทรกแซง ทำให้บางครั้งในกลุ่มจัดตั้งของคนเสื้อแดงแม้จะมีเป้าหมายเดียวกันแต่ก็ขัดแย้งและด่าทอเหน็บแนมกันไปมา เหมือนที่สุรชัย แซ่ด่านออกมาด่ากลุ่มที่ปาระเบิดศาลว่า เป็นกลุ่มอ่อนหัด

อย่างไรก็ตาม ผมไม่เชื่อว่า เป้าหมายของคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนระบอบจะประสบความสำเร็จได้ ตราบเท่าที่คนไทยส่วนใหญ่มองเห็นถึงความชั่วร้ายกว่าของระบอบทักษิณทุนนิยมสามานย์ที่เกาะกินประเทศไทย

คนเสื้อแดงระดับนำนั้นหนีไปอยู่ต่างประเทศหมดแล้ว มีแต่คนเสื้อแดงระดับไพร่อย่างนายมหาหินเท่านั้นที่ติดคุกและตายแทนด้วยการแลกเปลี่ยนกับเศษเงินไม่กี่บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น