“เพราะผู้ต้องขังเดินทางมาซื้อหนังสือไปอ่านเองไม่ได้ เราจึงอาสาเป็นหนุ่มสาวไปรษณีย์ส่งหนังสือดี บินเข้าไปในห้องสมุดเรือนจำ 8 แห่งให้แทน”
ความคิดนี้ ผุดขึ้นในใจของเหล่าสมาชิกนักกิจกรรมเพื่อสังคมอย่าง พรเพ็ญ วงศ์กิจมโนชัย ผู้ก่อตั้งกลุ่มปันหนังสือเข้าเรือนจำ หลังเธอและเพื่อนมีโอกาสเข้าไปร่วมทำกิจกรรมกับผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำแห่งหนึ่ง เมื่อกลางปี 2556
ภาพแนวกำแพงสูงแข็งแรงกั้นด้วยรั้วลวดหนามไฟฟ้า เหล่าผู้คุมท่าทางดุดันกระชับปืนไรเฟิลในอก ด่านตรวจค้นอันแสนเคร่งครัดรัดกุม ล้วนน่าเกรงขาม แต่การได้ใกล้ชิดกับบรรดานักโทษกว่าร้อยชีวิตนั้น เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายยิ่งกว่า
“ตอนที่พี่เข้าไป ยอมรับว่าแรกๆ ก็กลัวนะ แต่ความรู้สึกนี้มันหายไปเลย พอได้เห็น ได้ทำความรู้จักกับผู้ต้องขังหลายๆ คน พวกเขาไม่เกเร ไม่น่ากลัว น่าเห็นใจมากกว่า”
มองเผินๆ ก็เหมือนคนธรรมดาๆ ทั่วไป ใบหน้าเรียบเฉย บุคลิกนิ่งขรึม คำพูดคำจาสุภาพอ่อนน้อม ไม่มีรังสีแห่งความรุนแรง ไม่มีวี่แววของความก้าวร้าวหยาบคาย ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกเขาเหล่านี้น่ะหรือ คือมือปืนอาชีพ อดีตฆาตกร หรือเจ้าแม่ค้ายาเสพติด ผู้ถูกสังคมตราหน้าว่ามีจิตใจโหดเหี้ยม ก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรงจนต้องถูกพิพากษาให้จำคุกสถานเดียว เพื่อชดใช้กรรมที่เคยก่อไว้ในอดีต
และการได้เข้าไปร่วมกิจกรรมกับผู้ต้องขังในครั้งนั้น ทำให้พรเพ็ญ และเพื่อนพบกับเรื่องที่ต้องหนักใจ นั่นก็คือ ปริมาณของหนังสือ
“จริงๆ พี่ว่า การอ่านหนังสือคือทางผ่อนคลายเดียวที่พวกเขามีอยู่นะ แต่พอได้เห็นห้องสมุดในเรือนจำ บอกเลยว่าโทรมมาก หนังสือส่วนใหญ่ก็จะมีแนวบุญกรรม พวกสัตว์โลกมีกรรมเป็นของตน หลายเล่มถูกฝุ่นกลบ ส่วนเล่มที่ฮิตๆ ก็อ่านกันจนเยิน ผุพัง บางหน้าก็ขาด และพอได้พูดคุยกับผู้ต้องขังหญิงคนหนึ่ง เธอก็บอกพี่ว่า อ่านหมดทุกเล่มจนไม่รู้จะอ่านอะไรแล้ว”
แน่นอนเรื่องนี้ ย่อมทำให้คนที่มีความเชื่อว่า “หนังสือช่วยเปิดโลกทางปัญญา และสามารถปลดแอกจินตนาการของนักโทษ เพื่อฟื้นฟูจิตใจไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก” อย่างพรเพ็ญ และกลุ่มเพื่อน รู้สึกไม่สบายใจเป็นแน่
นับแต่วันนั้น กลุ่มพรเพ็ญและเพื่อน จึงเกิดความคิดอยากส่งหนังสือเข้าเรือนจำ ให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง พวกเธอจึงเริ่มประชาสัมพันธ์รวบรวมหนังสือมือสองจากเพื่อนๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก "แบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำ" โดยเน้นหนังสือที่อยู่ในสภาพดี หลากหลายประเภท ทั้งที่ให้แง่คิดต่อชีวิต และเพื่อความผ่อนคลายจิตใจ
“ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีมาก ทั้งคนส่งและคนอ่าน ผู้ต้องขังได้เรียนรู้โลกใหม่ๆ ผ่านตัวอักษรและจินตนาการมากขึ้น อยากให้ช่วยกันบริจาค ช่วยกันประชาสัมพันธ์เรื่องดีๆ เพื่อสังคมนี้ร่วมกัน” พรเพ็ญ กล่าวน้ำเสียงตื้นตัน
นอกจากนี้เธอยังฝากแง่คิดดีๆ มาอีกว่า “ความผิดพลาดในอดีตไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินตัวตนของคน แต่สิ่งที่จะตัดสินก็คือการให้โอกาสพวกเขาได้เปลี่ยนชีวิตที่ดีขึ้น”
อย่างไรก็ดี ทีม Feel Good ขอชื่นชม พร้อมทั้งขอสนับสนุน คุณพรเพ็ญ วงศ์กิจมโนชัย และสมาชิกทุกคนในกลุ่ม “ปันหนังสือเข้าเรือนจำ” รวมถึงผู้ร่วมบริจาค ที่ได้ร่วมส่งต่อความดีให้กับสังคมของเรา และอย่าลืมนะครับหนังสือเป็นได้หลายอย่าง เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ทั้งน้อง เหมาะสำหรับนักโทษผู้มีชีวิตที่เหลือต้องอยู่อย่างเดียวดาย ยังไงก็
เชิญร่วมบริจาคได้ที่ http://thbooks4prisoners.com/
ติดตามข่าวสารโครงการและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/thbooks4prisoners และtaejai.com/projects/แบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำ