การปาระเบิดถล่มศาลอาญาเมื่อวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจกำลังเปิดเกมใหม่ เล่นแรง ก่อกวน สร้างความปั่นป่วน ทำลายความสงบสุข ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ท้าทายกฎอัยการศึก
ระเบิดที่สยามพารากอน จนป่านนี้ยังจับตัวกลุ่มคนร้ายไม่ได้ แต่ระเบิดที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก คว้าคอมือระเบิดได้ทันควัน และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน แต่ยังสาวไม่ถึงตัวผู้บงการใหญ่
มีแต่การพาดพิงโยงใยถึงพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผลักดันให้ได้ตำแหน่ง ผบ.ทบ. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่พ.ต.ท.ทักษิณจัดตำแหน่ง ผบ.ชน.ตบรางวัลให้เท่านั้น
ระเบิดที่สยามพารากอนและระเบิดที่ศาลอาญา มีความเชื่อมโยงกันแน่ เป็นเครือข่ายเดียวกัน และผู้บงการใหญ่อาจเป็นคนคนเดียวกัน
เป้าหมายในการบึ้มทั้งสองสถานที่ และแผนการบึ้มอีกหลายพื้นที่ที่เตรียมกันไว้ เพื่อสร้างความปั่นป่วน ก่อความไม่สงบ จุดชนวนความรุนแรงทางการเมือง หวังทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ใครอยู่เบื้องหลังบงการให้ทำเรื่องเลวๆ แทบไม่ต้องสืบหา เพราะกลุ่มที่ปฏิบัติการใช้อาวุธสงครามถล่มศาลอาญา เป็นเครือข่ายกลุ่มคนที่เคยใช้อาวุธสงครามคุกคามข่มขู่ประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาแล้ว แต่เงียบหายไป หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ
ปฏิบัติการป่วนเมือง ทำลายความสงบสุขของประชาชน ท้าทาย คสช.ครั้งใหม่ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจ จะไม่ยอมตั้งรับในความเงียบต่อไปแล้ว แต่จะเปิดยุทธการในเชิงรุก เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง การใช้อาวุธสงครามคุกคามข่มขู่ศาล สร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน การบงการให้อันธพาลลอบกัดประชาชนที่ชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างสงบเคยเกิดขึ้นถี่ยิบ ช่วงปลายยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และไม่เคยจับคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว จนกลุ่มอันธพาลรับจ้างได้ใจ ปฏิบัติการโดยไม่กลัวกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ประกาศก้อง ไม่กลัวคนเลว ส่วนพวกที่ไม่กลัวกฎอัยการศึก ขอให้คอยดูกันต่อไป ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่า จะมีความเด็ดขาดปราบพวกกวนเมือง และเป็นเครือข่ายลูกสมุนกลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจขนาดไหน
รอดูซิว่าพล.อ.ประยุทธ์ถูกหยามหน้า หยามกฎอัยการศึก หยามชายชาติทหารขนาดนี้ จะปรับเปลี่ยนนโยบายจากการปรองดองลูกเดียว หันมาสู่การใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ปราบปรามกลุ่มคนที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างจริงจังหรือไม่
ตัวผู้บงการใหญ่ คงอยู่ในบัญชีดำของ คสช.แล้ว เพราะเมื่อจับผู้รับจ้างวานและสาวถึงเครือข่ายได้ ย่อมโยงใยไปถึงต้นตอคนที่อยู่เบื้องหลัง เพียงแต่จะเล่นงานกันอย่างเอาเป็นเอาตายหรือเปล่าเท่านั้น
ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจและอยากจะกลับมามีอำนาจใหม่ ประกาศสงครามการใช้ความรุนแรงแล้ว และคงไม่หยุดป่วนเมืองง่ายๆ
พล.อ.ประยุทธ์พูดถูก คนที่จ้างวานลงมือโง่ คนที่ลงมือก็โง่ และก็โง่จริง โง่ที่ยังหลงผิดว่า การขนอาวุธสงครามมาถล่มใครที่ไหน จะไม่มีวันถูกจับ เหมือนยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อันธพาลแก๊งนี้อาจปฏิบัติการป่วนเมืองในช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เสียจนลำพองใจ เพราะขนอาวุธสงครามไปยิงใส่ใคร ขนระเบิดไปถล่มที่ไหนก็ปลอดโปร่ง ไม่ต้องกลัวตำรวจตามจับ
และต้องยอมรับว่า ในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็น ผบ.ตร. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างเป็น ผบช.น.ไม่ว่าระเบิดลงที่ไหน ใครขนอาวุธสงครามมาถล่มใส่ศาลและองค์กรอิสระ หรือประเคนทั้งปืนและระเบิดใส่ประชาชนที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจนเจ็บตายกันระนาว ตำรวจไม่เคยจับตัวคนร้ายได้
แก๊งอันธพาลที่รับจ้างสร้างความปั่นป่วนในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ อาจยังหลงผิดอยู่ หลงคิดว่ายังมีอำนาจรับคุ้มกะลาหัว หลงผิดว่า ตำรวจยังเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไฟเขียวให้อันธพาลปฏิบัติการได้เหมือนก่อน โดยลืมไปว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยล่มสลายไปแล้ว และไม่น่ามีโอกาสกลับมามีอำนาจใหม่
ลืมไปว่าตำรวจที่ทำตัวเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ สิ้นอำนาจวาสนา หลบไปอยู่ในรูแทบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนสี สยบให้ทหาร
และลืมไปว่า ชั่วโมงนี้พล.อ.ประยุทธ์ใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์คงเตรียมพร้อมรับมือการป่วนเมืองรอบใหม่แล้ว เพราะรู้ว่า มันเล่นแรงแน่ และวิธีสยบความรุนแรงได้ น่าจะมีทางเลือกเดียว
พวกมันเล่นแรงมา พล.อ.ประยุทธ์ต้องแรงกลับไป อย่าปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณและลูกสมุนโงหัวเด็ดขาด
ระเบิดที่สยามพารากอน จนป่านนี้ยังจับตัวกลุ่มคนร้ายไม่ได้ แต่ระเบิดที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก คว้าคอมือระเบิดได้ทันควัน และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน แต่ยังสาวไม่ถึงตัวผู้บงการใหญ่
มีแต่การพาดพิงโยงใยถึงพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผลักดันให้ได้ตำแหน่ง ผบ.ทบ. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่พ.ต.ท.ทักษิณจัดตำแหน่ง ผบ.ชน.ตบรางวัลให้เท่านั้น
ระเบิดที่สยามพารากอนและระเบิดที่ศาลอาญา มีความเชื่อมโยงกันแน่ เป็นเครือข่ายเดียวกัน และผู้บงการใหญ่อาจเป็นคนคนเดียวกัน
เป้าหมายในการบึ้มทั้งสองสถานที่ และแผนการบึ้มอีกหลายพื้นที่ที่เตรียมกันไว้ เพื่อสร้างความปั่นป่วน ก่อความไม่สงบ จุดชนวนความรุนแรงทางการเมือง หวังทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ใครอยู่เบื้องหลังบงการให้ทำเรื่องเลวๆ แทบไม่ต้องสืบหา เพราะกลุ่มที่ปฏิบัติการใช้อาวุธสงครามถล่มศาลอาญา เป็นเครือข่ายกลุ่มคนที่เคยใช้อาวุธสงครามคุกคามข่มขู่ประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาแล้ว แต่เงียบหายไป หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ
ปฏิบัติการป่วนเมือง ทำลายความสงบสุขของประชาชน ท้าทาย คสช.ครั้งใหม่ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจ จะไม่ยอมตั้งรับในความเงียบต่อไปแล้ว แต่จะเปิดยุทธการในเชิงรุก เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง การใช้อาวุธสงครามคุกคามข่มขู่ศาล สร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน การบงการให้อันธพาลลอบกัดประชาชนที่ชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างสงบเคยเกิดขึ้นถี่ยิบ ช่วงปลายยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และไม่เคยจับคนร้ายได้แม้แต่คนเดียว จนกลุ่มอันธพาลรับจ้างได้ใจ ปฏิบัติการโดยไม่กลัวกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ประกาศก้อง ไม่กลัวคนเลว ส่วนพวกที่ไม่กลัวกฎอัยการศึก ขอให้คอยดูกันต่อไป ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่า จะมีความเด็ดขาดปราบพวกกวนเมือง และเป็นเครือข่ายลูกสมุนกลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจขนาดไหน
รอดูซิว่าพล.อ.ประยุทธ์ถูกหยามหน้า หยามกฎอัยการศึก หยามชายชาติทหารขนาดนี้ จะปรับเปลี่ยนนโยบายจากการปรองดองลูกเดียว หันมาสู่การใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ปราบปรามกลุ่มคนที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างจริงจังหรือไม่
ตัวผู้บงการใหญ่ คงอยู่ในบัญชีดำของ คสช.แล้ว เพราะเมื่อจับผู้รับจ้างวานและสาวถึงเครือข่ายได้ ย่อมโยงใยไปถึงต้นตอคนที่อยู่เบื้องหลัง เพียงแต่จะเล่นงานกันอย่างเอาเป็นเอาตายหรือเปล่าเท่านั้น
ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มการเมืองที่สูญเสียอำนาจและอยากจะกลับมามีอำนาจใหม่ ประกาศสงครามการใช้ความรุนแรงแล้ว และคงไม่หยุดป่วนเมืองง่ายๆ
พล.อ.ประยุทธ์พูดถูก คนที่จ้างวานลงมือโง่ คนที่ลงมือก็โง่ และก็โง่จริง โง่ที่ยังหลงผิดว่า การขนอาวุธสงครามมาถล่มใครที่ไหน จะไม่มีวันถูกจับ เหมือนยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อันธพาลแก๊งนี้อาจปฏิบัติการป่วนเมืองในช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เสียจนลำพองใจ เพราะขนอาวุธสงครามไปยิงใส่ใคร ขนระเบิดไปถล่มที่ไหนก็ปลอดโปร่ง ไม่ต้องกลัวตำรวจตามจับ
และต้องยอมรับว่า ในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็น ผบ.ตร. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างเป็น ผบช.น.ไม่ว่าระเบิดลงที่ไหน ใครขนอาวุธสงครามมาถล่มใส่ศาลและองค์กรอิสระ หรือประเคนทั้งปืนและระเบิดใส่ประชาชนที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจนเจ็บตายกันระนาว ตำรวจไม่เคยจับตัวคนร้ายได้
แก๊งอันธพาลที่รับจ้างสร้างความปั่นป่วนในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ อาจยังหลงผิดอยู่ หลงคิดว่ายังมีอำนาจรับคุ้มกะลาหัว หลงผิดว่า ตำรวจยังเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไฟเขียวให้อันธพาลปฏิบัติการได้เหมือนก่อน โดยลืมไปว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยล่มสลายไปแล้ว และไม่น่ามีโอกาสกลับมามีอำนาจใหม่
ลืมไปว่าตำรวจที่ทำตัวเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ สิ้นอำนาจวาสนา หลบไปอยู่ในรูแทบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนสี สยบให้ทหาร
และลืมไปว่า ชั่วโมงนี้พล.อ.ประยุทธ์ใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์คงเตรียมพร้อมรับมือการป่วนเมืองรอบใหม่แล้ว เพราะรู้ว่า มันเล่นแรงแน่ และวิธีสยบความรุนแรงได้ น่าจะมีทางเลือกเดียว
พวกมันเล่นแรงมา พล.อ.ประยุทธ์ต้องแรงกลับไป อย่าปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณและลูกสมุนโงหัวเด็ดขาด
