xs
xsm
sm
md
lg

หมายจับเพิ่ม4รายเอี่ยวบึ้มศาล จ่อสอบพี่แม้ว-แจ๊ด ผบ.ตร.ฟันธงโยงเหตุพารากอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ตวาดคนจ้างป่วนโง่ ขู่พวกไม่กลัวอัยการศึกก็รอดูต่อไป ท้าอยากสู้ก็มาสู้กัน ด้าน “ชัยสิทธิ์” ตั้งโต๊ะแถลง ปัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขู่ใครถามนำผู้ต้องหาโดนฟ้องแน่ ชี้พฤติกรรมกำจัดตระกูลชินฯ ขอที่ให้ยืนสักคน อย่าล่อโดยไม่มีเหตุผล ท้า ผบ.พล.1 รอ.ออกหมายจับ “คำรณวิทย์” มึนตึ้บมีชื่อเอี่ยว บอกไม่ยุ่งการเมืองตั้งแต่เกษียณ ผบ.ตร.ยันบึ้มศาลฯโยงคดีพารากอน จ่อเรียก “ชัยสิทธิ์ - แจ๊ด” สอบ ออกหมายจับเพิ่ม 4 ราย สั่งปรับแผนจัดกำลังคุมเข้ม 15 มี.ค. อธิบดีศาลฯเล็งเอาผิดมือบึ้มละเมิดอำนาจ

วานนี้ (9 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเหตุคนร้ายปาระเบิดที่หน้าศาลอาญา รัชดาว่า เชื่อว่าคนร้ายมุ่งหวังสร้างความปั่นป่วน สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาก็ยังมีบทบาทอยู่ ฉะนั้นคนที่ก่อเหตุถือว่าโง่ ส่วนผู้จ้างวานก็โง่กว่า แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว และกำลังสืบสวนหาความเชื่อมโยงผู้บงการต่อไป ส่วนจะโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่นั้น ก็ให้ไปดูว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง จากหลักฐานสมุดโทรศัพท์ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ก็ได้รับการข่าวเข้ามา และได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าทุกพื้นที่เสี่ยง และทราบว่า ยังมีกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่อีกจำนวนหลายร้อยคน แต่ก็ได้กระจายกระจายหนีไป ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการก่อเหตุในวันที่ 15 มี.ค.นั้น ก็ยังให้เจ้าหน้าที่ติดตามดูทุกวัน และขอให้ประชาชนช่วยเฝ้าระวังด้วย
“จะให้ผมทำอย่างไร ถามว่าทำอะไรได้มากกว่านี้หรือไม่ รัฐบาลที่แล้วจับมือระเบิดได้บ้างไหม แต่รัฐบาลนี้จับได้แล้ว ฉะนั้นต้องช่วยอธิบายว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มงวดขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“บิ๊กตู่” ท้าคนเลวมาสู้กัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการระบุว่าคนร้ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสรีไทยที่นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทราบหรือไม่ขณะนี้นายจารุพงศ์หลบหนีอยู่ที่ใด นายกฯ กล่าวว่า ให้ตำรวจชี้แจง เพราะเขามีการสอบอยู่แล้ว และทราบว่า นายจารุพงศ์อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับกรณีที่มีกลุ่มบุคคลไปฝึกใช้อาวุธอยู่ในประเทศลาว ก็ได้ประสานกับทางการลาวตลอดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าวันนี้ประชาชนยังฝากความหวังนายกฯ ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ถามแบบนี้ไม่สร้างสรรค์ ไปลงอุโมงค์ไป ผมมั่นใจว่า ผมทำ ผมจะไม่ยอมคนเลว ทุกวันนี้ไม่ยอมอยู่แล้ว ถ้ายอมเลิกไปนานแล้ว”

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 13 - 14 มี.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตัดสินใจไว้แล้วทุกคนมีความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องความมั่งคงก็มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าอยากจะสู้ก็สู้กัน

“บิ๊กตุ๋ย” โวยโดนลากพันมือบึ้ม

อีกด้าน ที่สวนทวดจีบ จ.ปทุมธานี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงข่าวกรณีมีชื่อเข้าไปพัวพันกับคนร้ายที่ปาระเบิดศาลอาญา รัชดาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความเมตตาธรรมของตนเอง ใครมาหาเพราะความเดือดร้อนใจตนก็ดูแลไปตามอัตภาพ บางคนมาขอเงิน ขอกินข้าวก็ให้ไป เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว นานจนตนลืมไปแล้ว ส่วนเจตนาที่ต้องการโยงผมไปเกี่ยวข้องเพื่อต้องการสาวให้ถึงใครหรือไม่นั้น ก็ขอว่าอย่าลากตนเข้าไป ทั้งนี้ ตนคิดว่าเรื่องการข่าว การสอบสวน ตำรวจก็ทำงานดีอยู่แล้ว เพราะทราบล่วงหน้าว่าจะมีการก่อเหตุซึ่งควรจะมุ่งไปในประเด็นนั้น มากกว่ามุ่งประเด็นมาที่ตน

“ผมลูกผู้ชายตัวจริง เป็นทหารมา รับใช้ประเทศชาติมาก็เยอะ โดยเฉพาะน้องๆ ที่ถามนำผู้ต้องหาอยู่ตลอดเพื่ออะไร ก็เตรียมพบทนายได้เพราะทำให้ผมเสียหาย ผมจะฟ้องร้องทั้งหมด เพราะเขาถามนำตลอด” พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว

ท้า ผบ.พล.1 รอ.ออกหมายจับ

เมื่อถามว่า การเชื่อมโยงทางการข่าวต้องการกำจัดตระกูลชินวัตรหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งว่ามีการตั้งธงกันไว้หรือไม่ ตนไม่ทราบได้ แต่พฤติกรรมก็มีแนวโน้มอาจจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าคงจะมีที่ยืนให้คนในตระกูลชินวัตรสักคน ไม่ใช่เป็นตระกูลชินวัตรแล้วจัดการหมดทุกคน โดยไม่มีเหตุและผล

“ขอให้เช็กข่าวกันให้ดี ไม่ใช่เจอฝ่ายข่าวที่นั่งเทียน หรือมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคนในตระกูลชินวัตร อยากให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าโมเม อย่าลากหรือดึงเข้าไป ซึ่งผมจะไม่หนีไปไหน มีคนอยากให้ผมหนี แต่ผมไม่ไป ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. อยู่อย่างสงบ เจียมตัว สิ่งที่ผมไม่สบายใจและอยากฝากถึง คสช.ก็คือ ผบ.พล.1 รอ.บอกว่าจะออกหมายจับผม ก็เอาเลย ก็ให้ออกหมายจับมาว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมก็อยากจะรู้แค่สมุดโทรศัพท์มีชื่อผม และศาลจะออกหมายจับ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าประเทศจะเป็นอย่างไร” พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าว

แจงเมียคนร้ายแค่มาขอข้าวกิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบการแถลงข่าว พล.อ.ชัยสิทธิ์ได้ชูกำปั้นพร้อมกับตะโกนว่าพร้อมสู้ และร้องเพลงรอยยิ้มของนักสู้ เพลงที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์มักร้องประจำเวลาออกงาน
ต่อมา พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ไม่รู้จัก 2 ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา รัชดา เพียงแต่เคยมีหนึ่งในภรรยาของผู้ต้องหา ทราบเพียงแต่ชื่อเล่นว่า "นัท" เคยมาขอความช่วยเหลือ ขอเงินกินข้าว ซึ่งตนก็ช่วยเหลือตามอรรถภาพ และเรื่องดังกล่าวก็นานมากแล้ว ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเป็นภรรยาหรือเป็นแฟนใคร ส่วนข่าวที่ออกมาว่าตนรู้จัก 2 ผู้ต้องหานั้นเป็นการเข้าใจผิดของสื่อมวลชนเอง

“คำรณวิทย์” ยันไม่ยุ่งการเมือง

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ซึ่งมีปรากฎชื่อเชื่อมโยงกับคนร้ายเช่นกัน กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา รัชดาภิเษก หลังถูก นายมหาหิน ขุนทอง ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา รัชดาฯ กล่าวพาดพิง ส่วนกรณีที่นายมหาหินอ้างว่าแฟนสาวเคยทำงานกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร และรู้จักกับตนเองนั้น ยืนยันไม่เคยรู้จักคุ้นเคยกับคนร้ายหรือแฟนสาวแต่อย่างใด ทั้งนี้ รู้สึกแปลกใจที่มีชื่ออยู่ในสมุดจดบันทึกของนายมหาหิน และตนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตั้งแต่เกษียณราชการมุ่งมั่นรักษาคนป่วยที่มารักษาวันหนึ่งรวม 50 กว่าคนตั้งแต่เช้าจนบ่าย และไม่เคยไปมาหาสู่กับใคร ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือนักการเมือง

“ยังงงๆ อยู่เลยว่าเป็นใคร มาจากไหน ทุกวันนี้ได้ยุติบทบาททางการเมืองไปแล้ว ไม่เคยเกี่ยวข้องเลย วันๆ มัวแต่รักษาผู้ป่วยด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณด้วยการฝังเข็มฟรีที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เท่านั้น ผมเคยเป็น ผบช.น.จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่ประชาชนทั้งประเทศจะรู้จัก” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุ

“บิ๊กอ๊อด” ชี้โยงบึ้มพารากอนชัด

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นขบวนการเดียวกันกับเหตุระเบิด 2 จุด คือ บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม กับห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. แต่อาจมีวิธีการและรูปแบบแตกต่างกันไปตามความชำนาญของแต่ละกลุ่ม เหตุการณ์ทั้ง 2 จุดไม่ผิดความคาดหมาย เพราะได้เฝ้าระวังอยู่แล้ว เปรียบเสมือนการเก็งข้อสอบถูก ส่วนที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่าจะมีการก่อเหตุป่วนเมืองอีกหลายจุดทั่วประเทศวันที่ 15 มี.ค. ได้สั่งปรับแผนจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจและทหารในและนอกเครื่องแบบ ดูแลสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ จุดที่มีนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จะเน้นใช้กำลังนอกเครื่องแบบให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และภาวะเศรษฐกิจ

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบบุคคลที่มีรายชื่อตามที่ผู้ต้องหาพาดพิงถึง อาทิ พล.อ.ชัยสิทธิ์ หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและหาพยานหลักฐาน หากพบความเชื่อมโยงจะเรียกสอบทุกคน ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย

“อยากฝากถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน หากเห็นว่าบางเรื่องที่นำเสนอไปแล้ว ทำให้การทำงานเจ้าหน้าที่ติดขัดหรือกระทบรูปคดี ต้องใช้วิจารณญาณด้วย เนื่องจากเรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เบื้องต้นสรุปได้ว่าเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองชัดเจน แต่ว่าจะมีใครเกี่ยวข้องอย่างไร จะต้องรอพนักงานสอบสวน อย่าพึ่งรีบร้อน” ผบ.ตร. ระบุ

ออกหมายจับเพิ่ม 4 ราย

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.กล่าวถึงความมีส่วนของภรรยาของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกออกหมายจับ คือ น.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง อายุ 56 ปี ภรรยา นายมหาหิน และ น.ส.ธัชพรรณ ปกครอง อายุ 20 ปี ภรรยา นายยุทธนา เย็นภิญโญ ว่า มีส่วนร่วมในการไปรับอาวุธจาก นายวีระศักดิ์ โตวังจร ที่ จ.ปทุมธานี เบื้องต้น ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. เป็นประธานประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดจากศาลทหารเพิ่มเติมจำนวน 4 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เพราะอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่การทำงานยากขึ้น

หลักฐานยังโยงไม่ถึง 2 นายพล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการยืนยันว่ามี 2 นายพลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่มีการยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะพบหลักฐานแค่เบอร์โทรศัพท์และนามบัตร นอกจากนี้ยังเป็นเพียงคำพาดพิงของ นายมหาหิน เท่านั้น และขณะนี้ผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้ง 5 ราย ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาแต่อย่างใด ต้องรอให้ทางกองทัพส่งตัวมาก่อน จึงจะมีการแจ้งข้อหาให้ทราบต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเพียงการถูกควบคุมตัวภายใต้กฎอัยการศึก
เมื่อถามอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวผู้เกี่ยวข้องคนใดมาส่งให้พนักงานสอบสวนที่ บช.น. นั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าทางทหารจะส่งใครมา ส่วน นายมหาหิน และ นายยุทธนา คนที่ก่อเหตุควบคุมตัวไว้แล้ว ส่วน นายวิระศักดิ์ น.ส.ณัฏฐพัชร์ และ น.ส.ธัชพรรณ ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าถูกควบคุมตัวแล้วหรือไม่ แต่ถ้าหากตนเจอที่ไหน ก็จะมีการจับกุมก่อน เพราะมีหมายจับแล้ว

เผย “มหาหิน” ซัดทอด 4 คน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการขออนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 4 รายนั้น เป็นไปตามคำให้การของนายมหาหินว่า ทั้ง 4 รายเป็นผู้ชายทั้งหมด มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางแผนเตรียมการก่อเหตุความไม่สงบดังกล่าวที่ร้านนมสดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ช่วงวันที่ 14-15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้นายมหาหิน และน.ส.ณัฏฐพัชร์ ไปรออยู่ที่บ้านญาติที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เพื่อรอประชุมในวันดังกล่าวแล้วมาวางแผนต่อที่อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา

เล็งเอาผิดละเมิดอำนาจศาล

ที่ห้องประชุมชั้น 10 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอธิป จิตต์สำเริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วย นายโชคชัย รุจินินนาท รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และนางศศิรัศมิ์ ปราณีจิตต์ เลขานุการอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา แถลงข่าวภายหลังได้รับรายงานความคืบหน้าเหตการณ์กลุ่มคนร้ายลอบปาระเบิดเข้าบริเวณลานจอดรถของศาลอาญาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายอธิปกล่าวยืนยันว่า ศาลอาญายังยึดหลักพิจารณาตามพยานหลักฐานซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้พิพากษายึดถือมาตลอด ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยผู้พิพากษาทุกคนก็ปฏิบัติตัวไปตามปกติ

ด้าน นายโชคชัย กล่าวว่า การใช้อาวุธสงครามกระทำต่อศาลอาญาเคยเจอมาแล้วประมาณ 3 ครั้ง ครั้งนี้เกิดเหตุเวลากลางคืน ไม่มีประชาชนหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในบริเวณนั้น จึงมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในช่วงกฎอัยการศึก ถือว่าเป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ท้าทายอำนาจบ้านเมือง เพราะศาลอาญาก็เป็นส่วนหนึ่งของศาลยุติธรรม

“ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นจะมีการแยกคดีออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกจะเป็นเรื่องของการใช้อาวุธสงครามกระทำการซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงกฎอัยการศึกจึงเป็นอำนาจของศาลทหาร และส่วนที่ 2 คือ กฎหมายได้ให้อำนาจในการคุ้มครองศาลจากกรณีที่มีการละเมิดหรือก่อเหตุภยันตรายๆ ใด ซึ่งเราจะดำเนินการในส่วนนี้” นายโชคชัย กล่าว

“แรมโบ้อีสาน” ร้อนตัว

วันเดียวกัน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตประธานผู้ก่อตั้งอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) เข้ายื่นหนังสือ พร้อมนำหลักฐาน อาทิ ข่าวที่ปรากฎตามสื่อว่า ตนเองได้ยุติบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว ต่อ พล.ต.อ.สมยศ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ หลังเกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดศาลอาญา พร้อมกล่าวว่า การแถลงข่าวคดีนี้ต่อสื่อมวลชน ปรากฏว่ามีผ้าพันคอสีขาวที่มีสัญลักษณ์ อพปช.อยู่ด้วยนั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง และไม่รู้จักกับผู้ต้องหาทั้งสองคน

“ป้าธิดา” สวนเสื้อแดงไม่โง่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ" โดย ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนปช. เรื่องความรุนแรงและการใช้อาวุธนั้น ไม่ใช่ขบวนการต่อสู้ของ นปช. และขอให้สอบสวนตรงไปตรงมา ไม่ตั้งธงล่วงหน้า และสงสัยว่าทำไมต้องให้ใส่เสื้อแดง
กำลังโหลดความคิดเห็น