พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่ลานจอดรถศาลอาญา ถ.รัชดาฯ เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า เป็นขบวนการเดียวกับเหตุระเบิดแสวงเครื่อง 2 จุด ที่บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่อาจมีวิธีการและรูปแบบการก่อเหตุที่แตกต่างกันไปตามความชำนาญของแต่ละกลุ่ม โดยทั้ง 2 จุด ไม่ผิดความคาดหมาย เพราะได้มีการเฝ้าระวัง
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าจะมีการก่อเหตุป่วนเมืองอีกหลายจุดทั่วประเทศในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ประมาท โดยสั่งปรับแผนจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องจัดกำลังตำรวจทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ รวมทั้งจุดที่มีนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จะเน้นการใช้กำลังนอกเครื่องแบบให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ผู้ต้องหาพาดพิงถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบและหาพยานหลักฐาน หากพบความเชื่อมโยงไปถึง จะเรียกสอบทุกบุคคล ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ ได้กล่าวฝากถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน หากเห็นว่าบางเรื่องที่นำเสนอไปแล้วทำให้การทำงานเจ้าหน้าที่ติดขัดหรือกระทบรูปคดี ต้องใช้วิจารณญาณด้วย เนื่องจากเรื่องเหล่านี้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าจะมีการก่อเหตุป่วนเมืองอีกหลายจุดทั่วประเทศในวันที่ 15 มีนาคมนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ประมาท โดยสั่งปรับแผนจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องจัดกำลังตำรวจทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลสถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ รวมทั้งจุดที่มีนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จะเน้นการใช้กำลังนอกเครื่องแบบให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ผู้ต้องหาพาดพิงถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบและหาพยานหลักฐาน หากพบความเชื่อมโยงไปถึง จะเรียกสอบทุกบุคคล ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ ได้กล่าวฝากถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน หากเห็นว่าบางเรื่องที่นำเสนอไปแล้วทำให้การทำงานเจ้าหน้าที่ติดขัดหรือกระทบรูปคดี ต้องใช้วิจารณญาณด้วย เนื่องจากเรื่องเหล่านี้เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
