“สมยศ” สั่งทุกโรงพักเข้มรับมือ ป้องกันเหตุป่วนเมือง

“สมยศ” สั่งเข้มให้ทุกหน่วยระมัดระวังการให้ข่าวคดีสำคัญ ที่ทำให้กระทบต่อการสืบสวนขยายผลให้สะดุด “ขู่หากหน่วยไหนบกพร่อง สั่งให้เอาผิดทางวินัย” พร้อมสั่งย้ำให้ทุกโรงพักวางมาตรการเข้มรับมือ ป้องกันเหตุป่วนเมือง และ ให้หัวหน้าหน่วยต้องลงพื้นที่ตรวจด้วยตัวเอง อย่างเคร่งครัด

วันนี้ (9 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้มีหนังสือคำสั่งวิทยุในราชการ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุดที่ 0001 (ศปก.ตร.)/39 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2558 ถึง ผบช.น. ผบช.ภ.1-9, ศชต, ผบช.ก., สตม., ปส., ส., สพฐ. ตร. สยศ. ตร., หน.ฝอ.ศปก.ตร. และโฆษก ตร. โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามระเบียบการตำรวจที่ไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 30 การแถลงข่าวหรือการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ การปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าวการแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชนและการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์

"เนื่องจากปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชนในการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีสำคัญบางคดี ได้มีข้าราชการการตำรวจได้ให้ข่าวเกี่ยวกับแนวทางสืบสวนสอบสวน การจับกุม ตรวจค้นและการรวบรวมพยานหลักฐานในขั้นตอนต่างๆต่อสื่อมวลชน ซึ่งข้อมูลบางเรื่องเป็นข้อมูลที่มีผลต่อการสืบสวนสอบสวน พิสูจน์ความผิดและการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำความผิดร่วมขบวนการรายอื่นต่อไปอีก รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยานให้ข่าวต่อสื่อมวลชนโดยตรง แล้วไม่การควบคุมประเด็นการซักถาม ให้ทำได้เฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปด้วยเรียบร้อยเหมาะสม จึงขอกำชับให้ ผบช./ ผบก.ถือปฏิบัติและกำกับดูแลการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ตำรวจในสังกัดต่อสื่อมวลชนตามระเบียบโดยเคร่งครัด หากพบว่าปล่อยปละละเลย หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามจะได้ดำเนินการทางปกครองและวินัยกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด” ผบ.ตร. สั่งการ

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ ยังได้มีหนังสือคำสั่งวิทยุในราชการ ศปก.ตร. ด่วนที่สุดที่ 0001 (ศปก.ตร.)/40 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2558 ถึง ผบช.น. ผบช.ภ.1-9, ศชต., ผบช.ก., สยศ. ตร. และ หน.ฝอ.ศปก.ตร. โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า อ้างถึง วิทยุ ผบ.ตร. ด่วนที่สุดที่กำชับให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการด้านการข่าวเชิงรุก เพิ่มความเข้ม และความถี่ในการตรวจสถานที่สำคัญและการตั้งจุดตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมทั้งได้กำชับเพิ่มเติมให้ทุกหน่วยวิเคราะห์และกำหนดพื้นที่เสี่ยง เพิ่มมาตรการสายตรวจทุกประเภท บูรณาการด้านการข่าวและประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันเหตุการสร้างสถานการณ์ เพื่อป้องกันเหตุร้ายจากเหตุระเบิดที่บริเวณสยามพารากอนเมื่อ 1 ก.พ. 2558 และเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถศาลอาญา

“ดังนั้น เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่สำคัญ และการรักษาความเรียบร้อยในภาพรวมของ ตร. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจึงกำชับให้ปฏบัติตามวิทยุสั่งการของ ตร. อย่างเคร่งครัดโดยต้องมีคำสั่งมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบและพื้นที่รับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาทุกระดับตั้งแต่ระดับ บช/ภ. ศชต. ระดับ บก/ภ.จว. และ สน./สภ. ให้ชัดเจนโดยผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบจะต้องลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของแผนป้องกันเหตุ แผนเผชิญเหตุ กล้องทั้งของราชการและเอกชนรวมทั้งต้องตรวจติดตามผลการปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ให้เพิ่มมาตรการเชิงรุกและความเข้มข้นในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ บ้านพักบุคคลสำคัญและสถานที่สำคัญในพื้นที่รับผิดชอบที่อาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์โดยให้ประสานกับหัวหน้ารักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่นั้นอย่างใกล้ชิดให้ ศปก.ตร. เป็นหน่วยขับเคลื่อนและติดตามผลของการปฏิบัติแล้วให้รายงานให้ ตร. ทราบ และทุกหน่วยถือปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด” หนังสือดังกล่าวระบุ