ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เรียกเสียงกรี๊ดและเรตติ้งกันไปเป็นกระบุงโกยเลยทีเดียวสำหรับ “นายกฯ ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หลังคว้า “ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250 ซีซี” ทะเบียน อธฉ กรุงเทพมหานคร 725 สีดำ ของนายจักรปราณี หวั่นเซ่ง เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้นำมาขอรับบริการใน “บูธศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน” ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ขี่ไปรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี
ยิ่งในโลกสังคมออนไลน์ด้วยแล้วยิ่งสนุกสนานกับการขี่รถจักรยานยนต์ของนายกฯ ลุงตู่กันอย่างเอิกเกริกทีเดียว เพราะมีการตัดต่อภาพนายกฯ ลุงตู่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปในหลากหลายลีลา ชนิดเรียกเสียงฮาและอารมณ์ขันกันหลายกระบุงโกย
แถมตัว พล.อ.ประยุทธ์เองก็ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อได้ขี่รถจักรยานยนต์อีกต่างหาก
ขณะอยู่บนหลังเจ้า CBR พล.อ.ประยุทธ์บีบแตรและกล่าวหยอกล้อผู้สื่อข่าวว่า “ถ้าใครไม่หลีก เดี๋ยวจะชนเลยนะ” ก่อนที่จะพุ่งรถออกไปทันทีแบบไม่มีใครตั้งตัว โดยขับวนตั้งแต่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อ้อมไปยังสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า และขึ้นไปบนทางลาดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเลี้ยวกลับมาจอดที่บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยมี รปภ. ช่างภาพ และสื่อมวลชน ให้ความสนใจวิ่งตามอย่างอุตลุด เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่านายกรัฐมนตรีจะขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยตนเอง
และเมื่อจอดรถ นายกรัฐมนตรี กล่าวติดตลก พร้อมหัวเราะชอบใจว่ารถแรงดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามกระเซ้าว่าต้องการคนซ้อนท้ายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ถ้าจะมีคนซ้อนท้าย ต้องอายุน้อยกว่านี้ และที่วันนี้ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกเพราะทดลองเฉยๆ ก็สนุกดี”
พูดจบนายกรัฐมนตรีก็เดินขึ้นห้องประชุม ครม.อย่างอารมณ์ดีทันที
และฉับพลันที่ปรากฏภาพ พล.อ.ประยุทธ์ขี่แมงกะไซค์ เว็บไซต์แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดังหลายๆ เพจ ได้พากันตัดต่อภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะต่างๆ อาทิ อยู่บนสนามแข่ง ,แปลงกลายเป็นซูเปอร์ไซย่า แบบในการ์ตูนเรื่องดรากอนบอล หรือให้ถูกตำรวจจับปรับในข้อหาไม่ใส่หมวกกันน็อก บ้างก็ตัดต่อให้ขี่ดูคาติ มีทั้งตัดต่อให้ขี่รถจักรยานยนต์วิบาก ขี่รถจักรยานยนต์ยกล้อจนไฟแลบที่ด้านท้าย
และแฟนคลับรุ่นใหญ่จำนวนไม่น้อยก็หยิกแกมหยอกว่าเหมือน “หลิว เต๋อ หัว” ในภาพยนตร์จีนเรื่องดังอย่าง “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ”
นอกจากนี้ยังมีภาพ พล.อ.ประยุทธ์ขี่จักรยานยนต์ร่วมวงไอ้มดแดง รวมถึงยังนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ดาวเทียมอิริเดียมที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้ากรุงเทพฯเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา
บางแฟนเพจอย่าง อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ก็ได้นำภาพด้านท้ายรถจักรยานยนต์ พร้อมวงกลมสีแดงที่ป้ายทะเบียนรถมาโพสต์ แล้วระบุว่า “ใครจะการเมืองอะไรกูไม่สน กูสนแต่เรื่อง คณิตศาสตร์”
แต่ที่ดูจะถูกแชร์มากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นภาพตัดต่อที่พล.อ.ประยุทธ์ ขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเป็นภาพที่ทั้งสองไม่สวมใส่หมวกกันน็อกมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งบางส่วนตอบโต้ว่า บิ๊กตู่ขับขี่ภายในทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่ถนนใหญ่
แน่นอน ยอดกดไลค์และยอดแชร์ต่อพุ่งพรวดๆ กันเลยทีเดียว
ไม่แค่ในโลกออนไลน์ แต่สื่อกระแสหลักอย่างทีวีหลายช่องก็ปล่อยภาพ "บิ๊กตู่" ขี่ ซีบีอาร์ 250 ซีซีเช่นกัน
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีถึงกรณีดังกล่าว โดยสนใจประเด็นที่นักข่าวบอกว่ามีตัดต่อภาพสาวๆ ซ้อนท้าย พร้อมถามว่า “สวยปะ เดี๋ยวจะดู แต่ขอบอกเมียก่อน” ก่อนจะขอนักข่าวดูภายหลังให้สัมภาษณ์ พร้อมกล่าวว่า ไม่รู้จักว่าสาวๆ ในภาพเป็นใคร ก่อนที่จะชี้ไปยัง “ผู้สื่อข่าวสาวหุ่นจ้ำม่ำ” ว่า “ให้คนนี้มาซ้อนท้ายแล้วกัน”
กระนั้นก็ดี สิ่งที่ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจก็คือ อยากรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ขี่และชอบรถจักรยายนต์มานานหรือยัง และในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ยังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่หรือไม่
“ส่วนตัวชอบการขับขี่จักรยานยนต์ เครื่องยนต์อยู่แล้ว ตอนเด็กพ่ออยากให้เรียนวิศวกรรมแต่ตนเองอยากเป็นทหาร”
นั่นคือข้อมูลสั้นๆ ที่ออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของสื่อมวลชนหลายสำนักพบว่า คำตอบบางส่วนถูกบันทึกไว้ในหนังสือ เส้นทางพยัคฆ์ ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก “ทหารเสือ” สู่ “หลังเสือ” ซึ่งเขียนโดย วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง
“อาจเพราะวัยเด็กก็ต้องชอบดูหนังญี่ปุ่น ประเภทซูเปอร์ฮีโร่ ตระกูลมดเอ็กซ์มดแดง ขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างเท่มาต่อสู้กับเหล่าร้าย อีกทั้งเมื่อโตมาเป็นทหารเสือราชินีจะต้องมีความสามารถพิเศษในเรื่องการขับขี่มอเตอร์ไซค์แล้วยิงปืนอย่างแม่นยำไปด้วยประกอบกับอยู่ในหน่วยต่างจังหวัดจึงทำให้ บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา กลายเป็นนายทหารคนหนึ่งที่พิสมัยกับความเร็วบนยานยนต์สองล้อ”
วาสนา เปิดเผยว่า “ตั้งแต่เมื่อครั้งรับราชการที่ ร.21 รอ. ชลบุรี บิ๊กตู่ก็มีรถมอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะคู่ใจ และชอบขับขับขี่รถสองล้อไปที่นั่นที่นี่บ่อยๆจนเป็นที่รู้กันว่า พล.อ.ประยุทธ์ “รักการขับขี่เป็นอย่างมาก และมักจะใช้เวลาในการดูแลรักษามอเตอร์ไซค์ของเขาเสมอๆ”
“สำหรับมอเตอร์ไซค์คู่ใจของ พล.อ.ประยุทธ์ก็คือ สมาร์ตไบก์สไตล์ทหารเสือฯ แนวช็อปเปอร์ ว่ากันว่า แม้กระทั่งเมื่อติดยศพลตรี ดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. แล้ว เขาก็ยังนิยมขับขี่มอเตอร์ไซค์อยู่เลยดังนั้น ทุกวันนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเสือราชินี ณ ร.21 รอ. จึงยังมีมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อไทเกอร์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยใช้ขับขี่ ตั้งแสดงอยู่ และแม้เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ก็ว่ากันว่า บิ๊กตู่ มีมอเตอร์ไซค์คู่ใจคันใหม่เป็นจักรยานยนต์ยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน
“แม้งานการจะยุ่ง จนแทบไม่มีเวลาขับขี่ฮาร์เลย์คันดังกล่าว แต่ก็มีเสียงเล่าลือว่า พล.อ.ประยุทธ์ มักหาเวลานำรถสองล้อคู่ใจออกมาขี่ลาดตระเวน รอบๆ บ้านพัก ใน ร.1 รอ. ยามค่ำคืน โดยมักขับขี่ออกมาคนเดียว ไม่มีนายทหารรปภ. คอยติดตาม แต่อย่างใด”
แหม...นายกฯ ลุงตู่ของเรานี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การที่ดูเหมือนว่า ช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนๆ ที่อารมณ์บูด พร้อมเกรี้ยวกราดใส่นักข่าวให้เห็นเป็นระยะๆ เนื่องจากอาจเป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์คลายปมปัญหาสำคัญๆ ให้ยุติลงไปได้เป็นลำดับ ทั้งเรื่องการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในคดีรับจำนำข้าว ทั้งการสั่งชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 และที่ดูเหมือนจะได้ใจสังคมเป็นพิเศษคือการพูดชัดๆ เรื่อง “กองกำลังชายชุดดำ” ของคนเสื้อแดง เป็นต้น
ทว่า เรื่องสำคัญที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์และกำลังทวีความรุนแรงเป็นลำดับก็คือเรื่องเศรษฐกิจที่ยังไม่มีสัญญาณในทางบวกให้เห็นเท่าใดนัก ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วก็แก้ไม่ยาก เพราะต้นสายปลายเหตุสำคัญอันทำให้ต้นทุนชีวิตของประชาชนเพิ่มขึ้นก็คือ “พลังงาน”
ถ้ารัฐบาลจัดการเรื่องพลังงานได้สำเร็จ บวกกับไม่มีการปรองดองกับคนทำผิดผ่านการนิรโทษกรรมที่กำลังเป็นที่จับตาว่าจะตกม้าตายด้วยการเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ รับรองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะหล่อขึ้นอีกเยอะ จนแฟนคลับต้องร้องกรี๊ด...กรี๊ด...กรี๊ด...ว่า “หลิว เต๋อ ตู่ อู้หู...หล่อจัง” กันเลยทีเดียว