xs
xsm
sm
md
lg

4 จว.เหนือวิกฤตแล้ว หมอกควันเกินเกณฑ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่" วิกฤตแล้วหมอกควันปกคลุมเต็มพื้นที่ ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอนสูงเกินค่ามาตรฐานทุกจังหวัด พบ"ลำปาง"หนักสุด ด้าน สสจ.เชียงใหม่เตือนหมอกควันเกินมาตรฐานกระทบสุขภาพ เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน เผยมีผู้ป่วยหลายกลุ่มโรคที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบเกือบ 1.2 แสนคน ขณะที่ผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งผนึกกำลังสกัดหมอกควันตลอด 24 ชม. พร้อมประสาน C130 ดับไฟป่า

วานนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากไฟป่าจนมืดทืบทำให้การจราจรทุกเส้นทางที่เข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลงเหลือประมาณ 200 เมตร ส่งผลให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

นอกจากนั้น หมอกควันจากไฟป่าที่ลงปกคลุมหนาทืบยังส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของอากาศยานบริเวณท่าอากาศยานเชียงใหม่ ต้องเปิดไฟบริเวณทางวิ่งเพื่อนำร่องในการขึ้นลงของเครื่องบินขนาดใหญ่ ซึ่งระยะการมองเห็นในมุมสูงเหลือไม่เกิน 1,500 เมตร จนเครื่องบินขนาดใหญ่ที่ทะยานขึ้นจากรันเวย์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ขึ้นสู่ท้องฟ้าถูกหมอกควันปกคลุมจนมองไม่เห็น และเครื่องบินต้องเปิดไฟช่วยเพิ่มขณะแท็กซี่บนรันเวย์ด้วย

ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมื่อช่วงเช้าวานนี้ที่สถานีฯ บริเวณโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ในตัวเมืองเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอนได้ 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่วัดค่าได้ 162 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่สภาพกาศของ จ.ลำปาง โดยเฉพาะในตัวเมืองก็ไม่ต่างจากวันก่อนหน้านี้ที่เต็มไปด้วยหมอกควันไฟที่ขาวขุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง ผู้ขับขี่ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อป้องกันอันตราย ซึ่งรวมถึงเส้นทางการบินขึ้น-ลงของสนามบินลำปาง แทบมองไม่เห็นหอบังคับการบินในระยะไกล เนื่องจากปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการเปิดไฟให้สัญญาณเต็มพื้นที่เวลาเครื่องบินจะแลนดิ้ง เนื่องจากนักบินมองไม่เห็นรันเวย์ของสนามบิน

ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ ได้แจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นเนื่องจากเริ่มมีผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะภาคเหนือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแพร่ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)เฉลี่ย 24 ชั่วโมงเกินค่ามาตรฐานทั้งหมด

โดยที่ จ.ลำปาง เป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศสูงที่สุดคือการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะวัดค่าได้ 260 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรถือว่าเกินค่ามาตรฐานไปกว่าเท่าตัว ส่วนที่สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปางวัดได้ 238 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, โรงพยาบาลฯ บ้านสบป้าด อำเภอแม่เมาะ วัดได้ 199 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านท่าสี อ.แม่เมาะ วัดค่าได้ 232 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานทุกสถานี ทำให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ตั้งแต่มกราคมจนถึงวันนี้เกินค่ามาแล้ว 13 วัน

วันเดียวกัน นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้แจ้งให้ทุกหน่วยโดยเฉพาะนายอำเภอทุกแห่งที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเกิดไฟป่าขึ้นบ่อยครั้งให้เข้าร่วมประชุมวางแผนและประเมินสถานการณ์ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางแล้ว

ด้าน ดร.ทันตแพทย์ สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศของ จ.เชียงใหม่ ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐาน จนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้วนั้น อยากแจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก คนชรา คนท้อง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและมีโรคประจำตัว ให้ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่นอกตัวอาคาร โดยในส่วนของผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้เตรียมยารักษาโรคประจำตัวไว้ให้พร้อมด้วย เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันและมลพิษทางอากาศอาจจะทำให้อาการเจ็บป่วยมีการกำเริบรุนแรงได้

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องออกนอกตัวอาคารให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้ง และควรใช้เวลาอยู่กลางตัวอาคารให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ในส่วนของผู้ที่นิยมออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นประจำนั้น ในช่วงนี้ให้งดการออกกำลังกายในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อป้องกันการรับมลพิษเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ขณะที่การเตรียมความพร้อมในส่วนของหน่วยงานสาธารณสุขนั้น ที่ผ่านมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้มีการจัดเตรียมและจัดสรรหน้ากากอนามัยประมาณ 70,000 ชิ้น ให้สถานบริการสาธารณสุขทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสำหรับใช้สวมใส่ป้องกันตัวเองแล้ว หากสถานการณ์ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องก็พร้อมที่จะจัดหามาเพิ่มเติมให้อีก

นอกจากนี้ได้มีการเน้นย้ำให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งเตรียมพร้อมการรักษาพยาบาลไว้อย่างเต็มที่แล้วด้วย โดยคาดว่าในช่วง 3-4 วันหลังจากนี้น่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากหมอกควันและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินมาตรฐาน

สำหรับผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศของ จ.เชียงใหม่นั้น รายงานข่าวแจ้งว่าตามข้อมูลประจำเดือน ก.พ.58 ระบุมีกลุ่มผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจำนวนทั้งสิ้น 118,466 คน ประกอบด้วยผู้ป่วยกลุ่มโรคตาอักเสบ, โรคหัวใจหลอดเลือด, โรคทางเดินหายใจ, โรคปอดบวม, โรคหลอดลมอักเสบ, โรคภูมิแพ้, โรคหืดหอบ และโรคผิวหนังอักเสบ

ผู้ว่าฯ ชม.สั่งสกัดหมอกควัน24ชม.

วันเดียวกันที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือแนวทางมาตรการป้องกันแก้ไขบรรเทาปัญหา

นายสุริยะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้นพบว่า ปัจจัยที่ทำให้เชียงใหม่ต้องเผชิญปัญหาหมอกควันไฟป่าและมลพิษอากาศ โดยมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.58 ซึ่งเร็วกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น เนื่องจากการเผาที่มีมากในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดใกล้เคียง แล้วมีลมพัดพานำหมอกควันเข้ามาปกคลุมพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยนอกเหนือการควบคุม อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็ต้องเร่งหาทางป้องกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด รวมทั้งจะต้องทำงานอย่างเข้มงวดจริงจังให้มีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เบื้องต้นได้สั่งการกำชับให้ทุกอำเภอและทุกพื้นที่บูรณาการการทำงานร่วมกันในการรณรงค์ป้องกันและลดการเผาทุกชนิดในพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งเหตุต่างๆ เกี่ยวกับการเผา โดยเฉพาะเผาป่า และเข้าดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วทันท่วงที ขณะเดียวกันให้มีการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวดกับผู้ที่ก่อเหตุเผา ซึ่งประชาชนที่สามารถแจ้งเบาะแสจนสามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ทางบจังหวัดจะมอบรางวัลนำจับให้รายละ 5,000 บาท

สำหรับการบรรเทาความรุนแรงของปัญหาด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศนั้น ได้มีการประสานกับทุกหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในการที่จะใช้รถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยในวันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 14.00 น.ที่บริเวณประตูท่าแพ หลายหน่วยงานจะร่วมกันจัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถฉีดพ่นละอองน้ำและรดน้ำรอบตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการรณรงค์อีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนการทำฝนเทียมเพื่อแก้ไขปัญหานั้น มีการประสานหารือร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือแล้วเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปฏิบัติการทำฝนเทียม ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าในช่วงนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากความชื้นในชั้นบรรยากาศมีไม่ถึง 35% ที่จะมากเพียงพอสำหรับการทำฝนเทียมได้ อย่างไรก็ตามจะมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นมากพอก็จะปฏิบัติการทำฝนเทียมทันที ซึ่งการปฏิบัติการในช่วงนี้เป็นไปในลักษณะของการบินเพื่อโปรยสารเคมีเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศไปก่อน

ขณะที่การขอสนับสนุนเครื่องบิน C130 จากกองทัพอากาศเพื่อมาใช้ในปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า ทางกองบิน 41 แจ้งว่าทางกองทัพอากาศเตรียมที่จะนำเครื่องบิน C130 มาประจำการไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมปฏิบัติการในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ตามจะใช้ในภารกิจดับไฟป่าเป็นหลัก โดยเฉพาะไฟป่าขนาดใหญ่และในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงยา เพราะเป็นเครื่องบินที่สามารถบรรทุกน้ำได้มาก
กำลังโหลดความคิดเห็น