ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับการทำงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และมลพิษทางอากาศ หลังผลตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง 2 วันแล้ว สั่งการทุกอำเภอจัด จนท.ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เข้มงวดบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีมือเผา และฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นบรรเทาปัญหา เผยประสานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงพร้อมทำฝนเทียมทันทีที่ความชื้นเพียงพอ ขณะที่กองทัพอากาศเตรียมสนับสนุนเครื่องบิน C130 ใช้ช่วยบรรทุกน้ำดับไฟป่า
วันนี้ (2 มี.ค. 58) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือแนวทางมาตรการป้องกันแก้ไขบรรเทาปัญหา หลังจากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่เริ่มพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 สูงเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วานนี้ และล่าสุดวันนี้มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 สูงถึง 181 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้นพบว่า ปัจจัยที่ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ต้องเผชิญปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และมลพิษทางอากาศ โดยมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 58 ซึ่งเร็วกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น เนื่องจากการเผาที่มีมากในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดใกล้เคียง แล้วมีลมพัดพานำหมอกควันเข้ามาปกคลุมพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยนอกเหนือการควบคุม อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็ต้องเร่งหาทางป้องกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด รวมทั้งจะต้องทำงานอย่างเข้มงวดจริงจังให้มีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้สั่งการกำชับให้ทุกอำเภอและทุกพื้นที่บูรณาการการทำงานร่วมกันในการรณรงค์ป้องกันและลดการเผาทุกชนิดในพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งเหตุต่างๆ เกี่ยวกับการเผา โดยเฉพาะเผาป่า และเข้าดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วทันท่วงที ขณะเดียวกันให้มีการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวดกับผู้ที่ก่อเหตุเผา ซึ่งประชาชนที่สามารถแจ้งเบาะแสจนสามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ทางจังหวัดจะมอบรางวัลนำจับให้รายละ 5,000 บาท
สำหรับการบรรเทาความรุนแรงของปัญหาด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศนั้น ได้มีการประสานกับทุกหน่วยงานและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในการที่จะใช้รถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยที่ในวันพรุ่งนี้(3 มี.ค. 58) เวลา 14.00 น. ที่บริเวณประตูท่าแพ หลายหน่วยงานจะร่วมกันจัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถฉีดพ่นละอองน้ำและรดน้ำรอบตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการรณรงค์อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนการทำฝนเทียมเพื่อแก้ไขปัญหานั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า มีการประสานหารือร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือแล้วเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปฏิบัติการทำฝนเทียม ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าในช่วงนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากความชื้นในชั้นบรรยากาศมีไม่ถึง 35% ที่จะมากเพียงพอสำหรับการทำฝนเทียมได้ อย่างไรก็ตาม จะมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นมากพอก็จะปฏิบัติการทำฝนเทียมทันที ซึ่งการปฏิบัติการในช่วงนี้เป็นไปในลักษณะของการบินเพื่อโปรยสารเคมีเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศไปก่อน
ขณะที่การขอสนับสนุนเครื่องบิน C130 จากกองทัพอากาศเพื่อมาใช้ในปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และมลพิษทางอากาศของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายสุริยะกล่าวว่า ทางกองบิน 41 แจ้งว่าทางกองทัพอากาศเตรียมที่จะนำเครื่องบิน C130 มาประจำการไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมปฏิบัติการในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ตาม จะใช้ในภารกิจดับไฟป่าเป็นหลัก โดยเฉพาะไฟป่าขนาดใหญ่และในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงยาก เพราะเป็นเครื่องบินที่สามารถบรรทุกน้ำได้มาก