ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองนายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่ยอมรับสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศเข้าขั้นน่าเป็นห่วง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หลังค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งเฉียด 200 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เตือนประชาชนเลี่ยงออกกลางแจ้ง หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน เผยมีผู้ป่วยหลายกลุ่มโรคที่เสี่ยงจะได้รับผลกระทบเกือบ 1.2 แสนคน
วันนี้ (2 มี.ค. 58) ดร.ทันตแพทย์ สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐาน จนอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้วนั้น อยากแจ้งเตือนประชาชน
โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็ก คนชรา คนท้อง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังและมีโรคประจำตัว ให้ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืออยู่นอกตัวอาคาร โดยในส่วนของผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้เตรียมยารักษาโรคประจำตัวไว้ให้พร้อมด้วย เนื่องจากสถานการณ์หมอกควันและมลพิษทางอากาศอาจจะทำให้อาการเจ็บป่วยมีการกำเริบรุนแรงได้
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องออกนอกตัวอาคารให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้ง และควรใช้เวลาอยู่กลางตัวอาคารให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ในส่วนของผู้ที่นิยมออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นประจำนั้น ในช่วงนี้ให้งดการออกกำลังกายในช่วงที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐานไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ เพื่อป้องกันการรับมลพิษเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ขณะที่การเตรียมความพร้อมในส่วนของหน่วยงานสาธารณสุขนั้น ที่ผ่านมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้มีการจัดเตรียมและจัดสรรหน้ากากอนามัยประมาณ 70,000 ชิ้น ให้สถานบริการสาธารณสุขทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสำหรับใช้สวมใส่ป้องกันตัวเองแล้ว หากสถานการณ์ยังคงมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องก็พร้อมที่จะจัดหามาเพิ่มเติมให้อีก
นอกจากนี้ได้มีการเน้นย้ำให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งเตรียมพร้อมการรักษาพยาบาลไว้อย่างเต็มที่แล้วด้วย โดยคาดว่าในช่วง 3-4 วันหลังจากนี้น่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากหมอกควันและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินมาตรฐาน
สำหรับผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศของจังหวัดเชียงใหม่นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ตามข้อมูลประจำเดือน ก.พ. 58 ระบุมีกลุ่มผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจำนวนทั้งสิ้น 118,466 คน ประกอบด้วย ผู้ป่วยกลุ่มโรคตาอักเสบ, โรคหัวใจหลอดเลือด, โรคทางเดินหายใจ, โรคปอดบวม, โรคหลอดลมอักเสบ, โรคภูมิแพ้, โรคหืดหอบ และโรคผิวหนังอักเสบ