ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอกควันหนาทึบคลุมทั่วทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านแพทย์ ม.เชียงใหม่ ชี้สถานการณ์ย่างเข้าสู่ช่วงเผชิญปัญหาหมอกควันแล้ว เตือนประชาชนดูแลสุขภาพ สวมหน้ากากป้องกันช่วงออกกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงเข้าแหล่งควัน และช่วยงดเผา
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้ (28 ก.พ.) ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบ ทำให้การมองเห็นในระยะไกลค่อนข้างจะพร่ามัว และไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพได้เหมือนภาวะปกติที่จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสภาพดังกล่าวนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันมาทุกวันตลอดกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ที่ 93 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 85 ส่วนที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 อยู่ที่ 106 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 91 โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศที่ตรวจวัดได้จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้งสองแห่งนั้น แม้จะยังไม่เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 100 ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากสถิติผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ทั้งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องต่อสภาพหมอกควันที่ปกคลุมทั่วทั้งตัวเมือง
ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือเริ่มเข้าสู่ภาวะหมอกควัน สังเกตได้จากทัศนวิสัยที่แย่ลง โดยในระยะนี้ประชาชนจะรู้สึกแสบตา และมีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม แสบคอ แสบจมูก เป็นต้น เนื่องจากมีฝุ่นละอองผ่านเข้าไปในทางเดินหายใจ
สำหรับการดูแลป้องกันตัวเองนั้นควรงดการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หากออกนอกบ้านให้ใช้หน้ากาก หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูกเสมอ หากรู้สึกคอแห้งมากๆ ใช้น้ำเกลือกลั้วคอแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานผักสด ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซี และวิตามินดี โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคหัวใจ ควรมียาฉุกเฉินพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นหากอาการกำเริบควรพบแพทย์ หรือคลินิกใกล้บ้านทันที
ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ย้ำด้วยว่า ประชาชนควรป้องกัน และดูแลตนเอง หลีกเลี่ยงการได้รับมลพิษในสิ่งแวดล้อม และอากาศสกปรก เช่น เขม่าควันไฟ ควันท่อไอเสียรถยนต์ ไอจากสารเคมี งดการประกอบอาหารด้วยการใช้เตาเผา งดการเผาทุกชนิด ซึ่งเป็นบ่อเกิดของมลพิษทางอากาศ การอักเสบในระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งปอด