xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์เตือนรับมือป้องกันระวังค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานเกิดมะเร็งปอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่/ลำปาง - วิกฤตการณ์หมอกควันเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จังหวัดลำปางพบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน 2 สถานี แพทย์เตือนพร้อมรับมือหากไม่ป้องกันจะเกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ

วันนี้ (13 ก.พ.) กรมควบคุมมลพิษได้รายงานสถานการณ์หมอกควันทั่วประเทศในเช้าวันนี้ที่ผ่านมาพบว่าคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ระหว่าง 18-122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในจังหวัดลำปางพบที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ณ สถานีตรวจวัดอากาศ การประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ วัดฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบป้าด อ.แม่เมาะ วัดฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ได้ที่ 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทั้งสองแห่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน ทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ดังนั้น จึงขอแนะนำประชาชนดูแลด้านสุขภาพ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์ทันที

ขณะที่หลายภาคส่วนยังหวังว่าหากในช่วงวันหรือสองวันนี้มีฝนตกลงมาตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าในช่วงวันที่ 13-16 ก.พ.คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและจะมีอากาศเย็นลง ก็อาจจะทำให้สภาพอากาศและฝุ่นควันที่ปกคลุมจางลงได้

ด้าน รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า “ช่วงนี้ภาคเหนือเริ่มเข้าสู่ภาวะหมอกควัน สังเกตได้จากวิสัยทัศน์ที่แย่ลง ในระยะนี้ประชาชนจะรู้สึกแสบตา และมีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม แสบคอ แสบจมูก เป็นต้น เนื่องจากมีฝุ่นละอองผ่านเข้าไปในทางเดินหายใจ ควรงดการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หากออกนอกบ้านให้ใช้หน้ากากหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูกเสมอ
 
หากรู้สึกคอแห้งมากๆ ใช้น้ำเกลือกลั้วคอแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานผักสด ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซี และวิตามินดี โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคหัวใจควรมียาฉุกเฉินพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น หากอาการกำเริบควรพบแพทย์หรือคลินิกใกล้บ้านทันที”

ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศกล่าวต่อว่า “ประชาชนควรป้องกันและดูแลตนเอง หลีกเลี่ยงการได้รับมลพิษในสิ่งแวดล้อมและอากาศสกปรก เช่น เขม่าควันไฟ ควันท่อไอเสียรถยนต์ ไอจากสารเคมี งดการประกอบอาหารด้วยการใช้เตาเผา งดการเผาทุกชนิด ซึ่งเป็นบ่อเกิดของมลพิษทางอากาศ การอักเสบในระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งปอด”




กำลังโหลดความคิดเห็น