xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

รับเงินโกงสหกรณ์ฯ คลองจั่น หมัดเด็ดน็อก “ธมฺมชโย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถ้าถามว่า อะไรคือ “หมัดเด็ด” ที่มีสิทธิลุ้นว่าจะเป็น “หมัดน็อก” พระธมฺมชโยและวัดพระธรรมกายได้ ชนิดมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะนำไปสู่การต้องอาบัติปาราชิกได้ในยามที่สิ้นหวังจากการจัดการของฝ่ายศาสนจักร

ก็ต้องตอบว่า เห็นทีจะหนีไม่พ้นคดี “นายศุภชัย ศรีศุภอักษร” ประธาน “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น” ยักยอกเงินสหกรณ์ฯ มูลค่านับหมื่นล้านบาท และในจำนวนนี้นายศุภชัยได้โอนเข้าบัญชีของพระธมฺมชโยและเครือข่ายของทางวัดเกือบพันล้านบาท

ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ตรงที่นายศุภชัยคือลูกศิษย์เอกของวัดพระธรรมกาย และเป็นศิษย์เอกชนิดที่สามารถใช้คำว่า “อัครสาวก” ได้เลยทีเดียว

นายศุภชัยคืออัครสาวกที่ลงทุนลงแรงปลูก “ดอกดาวรวย” ขนาดใหญ่ในไร่ของตัวเองเพื่อนำไปโปรยขณะวัดพระธรรมกายจัดกิจกรรมธุดงค์ธรรมชัย

นายศุภชัยคืออัครสาวกที่เคยเป็นผู้ดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อการทำบุญหล่อทองคำรูปเหมือนพระมงคลเทพมุนี วัดปากน้ำภาษีเจริญ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่นายศุภชัยนำเงินที่โกงสหกรณ์โอนไปให้พระธมฺมชโยและวัดพระธรรมกาย โดยมีหลักฐานชัดเจนเป็นเช็คจำนวน 11 ฉบับ

ในเรื่องนี้ ไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธ แถลงภายหลังการประชุมในกรณีการที่พระธัมมชโย เกี่ยวข้องกับของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยเชิญผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า ที่ประชุมได้รับข้อมูลจากการซักถามพบว่า นายศุภชัยกระทำความผิดฉ้อโกงประชาชน และยังสั่งจ่ายเช็คให้กับพระธมฺมชโย โดยแบ่งเช็คออกเป็น 3 ส่วน คือ

1. สั่งจ่ายเช็คให้พระธมฺมชโยจำนวน 8 ฉบับ เป็นเงินทั้งสิ้น 348.78 ล้านบาท จากนั้นพระธมฺมชโยได้สั่งจ่ายเงินเข้าไปยังมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์

2. สั่งจ่ายเช็คให้กับวัดธรรมกาย จำนวน 6 ฉบับ เป็นเงิน 436 ล้านบาท นำเงินไปเป็นค่าก่อสร้างและสิ่งปลูกสร้างของวัด

และ 3. จ่ายให้กับผู้ช่วยของพระธมฺมชโย หรือพระปลัดวิจารณ์ เป็นเงิน 119.02 ล้านบาท ถอนออกมาเป็นเงินสดทั้งหมดซึ่งตรวจสอบไม่ได้ รวมทั้งสิ้น 903.8 ล้านบาท อีกทั้งยังไม่รวมไปถึงการสั่งจ่ายไปยังรายบุคคลหรือบัญชีอื่น เพื่อซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดที่มีนายไพบูลย์เป็นประธานมีความเห็นชัดเจนว่า สมควรที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) อายัดบัญชีของพระธมฺมชโยที่มีเงินถึง 300 กว่าล้านบาท เพราะเป็นเงินที่ได้จากการฉ้อโกง รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างและที่ดินของวัด 196 ไร่ ที่เป็นเขตธรณีสงฆ์ และทราบว่าวัดพระธรรมกายมีพื้นที่อีกกว่า 1,000 กว่าไร่ อยู่ในนามมูลนิธิธรรมกาย และมูลนิธิอื่นๆ ไม่ถือว่าเป็นเขตธรณีสงฆ์ ฉะนั้นจึงสามารถบังคับคดีได้

นี่ยังไม่นับรวมกรณีที่นายศุภชัยสั่งจ่ายเช็คไปเข้าบัญชีกลุ่มบุคคลอื่น หรือนำเงินไปซื้อที่ดินมาบริจาคให้วัดพระธรรมกายเพื่อก่อสร้างพระมหาเจดีย์ทัตตชีโว

ที่น่าสนใจคือ เมื่อประมวลจากความเคลื่อนไหวของฝ่ายอาณาจักรก็จะเห็นว่า ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ที่เกาะติดเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนพดล อุเทน ผอ.กองคดีกอง 1 ปปง. และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้เชฟขนาด 2 เมตร ที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทหาร ปปง. สนธิกำลังเข้าตรวจค้น บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของนายสถาพร วัฒนาศิริกุล ผู้ที่รับเช็คจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ผู้ต้องหา ในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า นี้ จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่านายสถาพร เคยมีประวัติการบวชที่วัดธรรมกายเป็นเวลากว่า 20 ปี ก่อนจะสึกออกมาเมื่อปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่านายสถาพรมีความสนิทสนมมากน้อยแค่ไหน

ด้าน นายนพดลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตรวจสอบข้อมูลการรายงานธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สินของนายศุภชัยพบว่า นายศุภชัย โอนเงินให้นายสถาพรเมื่อปี 2553 จำนวน 127 ล้านบาท และโอนให้บริษัท เอช.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปี 2554 - 2555 จำนวน 124 ล้านบาท สำหรับสมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม ที่พบภายในตู้เซฟเป็นสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดไทย โดยมีเงินหมุนเวียน 27 ล้านบาท และพบว่า มีการทยอยถอนเงินออกจากบัญชีตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งปัจจุบันมียอดเงินคงเหลือในบัญชี 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม สมุดบัญชีเงินฝากเป็นชื่อของนายสถาพร 1 เล่ม และชื่อของบริษัท เอช.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 2 เล่ม

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า นายศุภชัยซึ่งเป็นศิษย์เอกของวัดพระธรรมกายศึกษาธรรมะแบบไหนถึงได้มีพฤติกรรมฉ้อโกงได้ถึงขนาดนี้

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า นายสถาพรที่เคยบวชเณรและพระที่วัดพระธรรมกายมากว่า 20 ปี เมื่อสึกออกมาแล้วจะร่วมกับนายศุภชัยโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

ทั้งนี้ ถ้าหากคดีนี้ในที่สุดแล้ว พนักงานสอบสวนชี้ชัดว่า พระธมฺมชโยและวัดพระธรรมกายสมรู้ร่วมคิดกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษรในการโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจริง ก็เชื่อว่า มหาเถรสมาคม(มส.) คงไม่กล้าพอที่จะแบกรับหนังหน้าไฟแทนอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น