วานนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) แถลงว่า นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ต้องการให้แก้ข้อบังคับการประชุม สปช. เนื่องจากเห็นว่า วิปสปช. มีความจำเป็นต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จึงต้องการแก้ข้อบังคับในสัดส่วนของวิปสปช. โดยให้บุคคลจากครม. คสช. และสนช. เข้ามาเป็นวิปสปช.ได้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการแก้ข้อบังคับที่เป็นอุปสรรคต่อการเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูป ซึ่งต่อจากนี้หากเป็นเรื่องกฎหมาย จะพิจารณาโดยเร็ว จะไม่มีกระบวนการแปรญัตติ แต่ให้ที่ประชุมพิจารณาให้เสร็จภายใน 7 วัน และส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายวันชัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 11.30 น. จะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการประสานงานของประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อพิจารณาความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการ 18 คณะ และคณะกรรมการชุดพิเศษ 5 คณะ โดยมีตัวแทนจากสนช. ครม. และ คสช. เข้าร่วม โดยสปช. จะรายงานความคืบหน้าวาระการปฏิรูป 36 วาระ อย่างละเอียด เพราะการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ครั้งที่ผ่านมา เป็นการรายงานเพียงคร่าวๆไม่ได้ลงรายละเอียด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความคล่องตัวในการปฏิรูป นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการทั้ง 18 คณะ จะรายงานให้ประธานสปช. รับทราบว่าแต่ละคณะมีเรื่องใดเสร็จแล้วบ้าง และจะนำเข้าที่ประชุมเมื่อไหร่ เนื่องจากประธานสปช.ได้กำหนดว่ากรอบการปฏิรูปต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 ก.พ. และต้องเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่10 เม.ย. นอกจากนี้ จะเป็นการพิจารณาการออกกฎหมายลูก การปฏิรูปตำรวจ โดยภายในวันที่ 15 มี.ค. จะมีความชัดเจนในกรอบการปฏิรูปตำรวจ รวมถึงประเด็นเรื่องศาสนาที่พระบางรูปมีเงินมากกว่าปกติ ทางสปช.ซึ่งมีคณะกรรมาธิการศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนา อยู่แล้วนั้น แต่ประธานฯ เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่กระทบคนจำนวนมาก จึงตั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปศาสนา เป็นพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งชุด
นายวันชัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 11.30 น. จะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการประสานงานของประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อพิจารณาความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการ 18 คณะ และคณะกรรมการชุดพิเศษ 5 คณะ โดยมีตัวแทนจากสนช. ครม. และ คสช. เข้าร่วม โดยสปช. จะรายงานความคืบหน้าวาระการปฏิรูป 36 วาระ อย่างละเอียด เพราะการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ครั้งที่ผ่านมา เป็นการรายงานเพียงคร่าวๆไม่ได้ลงรายละเอียด เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความคล่องตัวในการปฏิรูป นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการทั้ง 18 คณะ จะรายงานให้ประธานสปช. รับทราบว่าแต่ละคณะมีเรื่องใดเสร็จแล้วบ้าง และจะนำเข้าที่ประชุมเมื่อไหร่ เนื่องจากประธานสปช.ได้กำหนดว่ากรอบการปฏิรูปต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 21 ก.พ. และต้องเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่10 เม.ย. นอกจากนี้ จะเป็นการพิจารณาการออกกฎหมายลูก การปฏิรูปตำรวจ โดยภายในวันที่ 15 มี.ค. จะมีความชัดเจนในกรอบการปฏิรูปตำรวจ รวมถึงประเด็นเรื่องศาสนาที่พระบางรูปมีเงินมากกว่าปกติ ทางสปช.ซึ่งมีคณะกรรมาธิการศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนา อยู่แล้วนั้น แต่ประธานฯ เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่กระทบคนจำนวนมาก จึงตั้งคณะกรรมาธิการปฏิรูปศาสนา เป็นพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งชุด
