วานนี้ (8 ก.พ.)ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ เพ็งรุ่ง รองผบก.น.2 พร้อมด้วยนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร รรท.ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ตัวแทนเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น10 โดยกั้นไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปร่วมทำข่าว ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปในอาคาร ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ และสำรวจจุดต่างๆที่เกิดความเสียหาย เพราะคาดว่าการเกิดเหตุในครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร
ด้านชุดดับเพลิงให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ๆเข้าไปดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีกลุ่มควันหนาแน่น แม้จะใช้แสงไฟส่อง รวมทั้งสถานที่มีความซับซ้อน ทางเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงจึงแบ่งหน้าที่เพื่อเข้าสกัดกั้นเปลวไฟในอาคาร ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตนั้น ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน แต่ในวันเกิดเหตุได้ทำงานคนละทีม จึงไม่ได้เจอกัน ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงเป็นลมหมดสติไปนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการอบรม ฝึกฝน และมีประสบการณ์ผ่านมา
***ตร.เรียกสอบทีมฉีดยุงก่อนเกิดเหตุ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) สำนักงานเขตจตุจักร และตัวแทนจากธนาคาร ซึ่งข้อมูลที่ได้จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยังไม่สามารถสรุปได้ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ได้ขอความร่วมมือจากอธิการบดีผังเมือง ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งทรัพย์สินและมูลค่าความเสียหายไม่อาจจะประเมินได้ ทั้งนี้ในส่วนของกทม.จะทำการปิดอาคารดังกล่าวชั่วคราว พร้อมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุทั้ง 40 ปาก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าก่อเกิดเหตุมีพนักงานที่เข้ามาฉีดยากันยุง จำนวน 4 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการประสารไปยังบริษัทที่พนักงานกำจัดยุงทำงานอยู่ เพื่อขอสอบปากคำพนักงานดังกล่าว ทั้งนี้พบผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งสิ้น 32 คน สอบไปแล้ว 30 คน
ส่วนกรณีที่หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงิน1.6ล้าน ของสถาบันเทคโนโลยีพระคุณเจ้าลาดกระบังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้ง เพราะคืนที่ผ่านมาทางผู้การกองปราบปรามได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตนเอง ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ กทม. ทำการปิดอาคารSCB โซนเอ (ตึกสูง 34 ชั้น) ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันหรือรับรองจากหน่วยงาน สถาบัน หรือวิศวกรว่าตึกดังกล่าวมีความมั่นคง และปลอดภัย ทางสำนักงานเขตจตุจักรจึงจะอนุญาตให้เปิดใช้งานตามปกติได้
****บิ๊กSCBยันไม่มีเอกสารคดี สจล.เสียหาย
ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อคืนที่ผ่านมา และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับคดีลักทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) หรือไม่ว่า ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมา และพูดคุยกับผู้ใหญ่ของธนาคารตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเสียหาย และเอกสารส่วนใหญ่ธนาคารก็ได้มอบให้กับพนักงานสอบสวนมาหมดแล้ว ยังคงเหลือของธนาคารอื่นที่ยังได้มาไม่ครบ ส่วนการตรวจสอบเอกสารอยู่ระหว่างการประสานกับ พฐ.เพื่อตรวจสอบลายมือชื่อในเอกสารที่ธนาคารส่งมอบให้ต่อไป
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ว่าเป็นส่วนโซนเอ อาคาร 34 ชั้น โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นจากชั้น 10 ห้องถ่ายเอกสาร ไม่ได้เก็บเอกสารสำคัญ และขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในห้อง ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วทางธนาคารจะเข้าดำเนินการต่อทันที โดยวันจันทร์น่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับคดี สจล.หรือไม่นั้น ประธานกรรมการบริหารระบุว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน
***ไว้อาลัย อพปร.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ขณะเกิดเหตุพบว่านายเดชา หรือตั้ม ด้วงชนะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เขตหลักสี่ เสียชีวิตบริเวณชั้น 10 เหตุเกิดช่วงกลางคืนวันที่ 7 ก.พ. ที่่ผ่านมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้นขณะเดียวกันในโลกของสังคมออนไลน์ต่างเขียนข้อความไว้อาลัยให้กับเจ้า หน้าที่ดับเพลิง อปพร.เขตหลักสี่ที่เสียชีวิต ในการปฏิบัติหน้าที่ กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กของนายเดชาที่ใช้ชื่อว่า "หนวดหลักสี่" ยังได้โพสต์ข้อความที่เป็นแง่คิด และเป็นประโยชน์ต่อสังคมครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยหน้าไทม์ไลน์ของนายเดชาแชร์คลิปวีดีโอจากเพจ Emergency Medical Response Phuket ระบุข้อความเอาไว้ว่า "การคัดเเยกเเละการตัดสินใจ จะมีผลต่อผู้ประสพภัยเป็นอย่างมาก ควรศึกษาเเละเพิ่มพูนความรู้ไว้อย่างสม่ำเสมอ อาจารย์ของผมได้กล่าวไว้ว่า "2มือของเราจะใช้ทำลายเหลือช่วยชีวิตก็ได้ เเต่ถ้าเลือกที่จะช่วยชีวิตต้องหมั่นฝึกเเละเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาอย่าคิดว่า ข้าเก่ง ข้ารู้มากพอเเล้ว ข้าจะไม่รับอะไรเพิ่มเเล้ว ถ้าคิดอย่างนี้จงอย่ามาศึกษา อย่ามาเรียนรู้ ให้ออกไปซะมันถ่วงคนอื่นที่เขา อยากเรียนรู้ อยากศึกษาเพิ่ม " 2 มือของผมจะขอเป็น 2 มือ ที่ช่วยชีวิตครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ"
เช่นเดียวกับทวิตเตอร์ของ ธ.ไทยพานิชย์ SCB Thailand ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ระบุข้อความเป็นระยะ ๆ ว่า สำหรับ จนท.อปพร. ที่เสียชีวิต 1 ท่านขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ธ.เสียใจอย่างยิ่ง และพร้อมช่วยเหลือครอบครัวอย่างดีที่สุด ส่วนกรณีเหตุเพลิงไหม้ขอแจ้งว่าบริเวณดังกล่าว เป็นส่วนงานของเอกสารสำเนาของทีมสินเชื่อบ้าน ไม่ใช่เอกสารสำคัญ และไม่เกี่ยวข้องกับคดี สจล.
ส่วนกรณีของนายเดชา ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเพลิงนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากขาดอากาศหายใจ เนื่องจากในที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยควันไฟ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องใช้ถังออกซิเจน ซึ่งกทม.ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ และพร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัว
***สั่งปิดอาคารโซนเอชั่วคราว
ด้านนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร รักษาการผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า หลังจากสำรวจที่เหตุแล้วได้ลงนามคำสั่งปิดอาคารโซนเอ ซึ่งมีทั้งหมด 34 ชั้นเป็นการชั่วคราว ห้ามบุคคลทั่วไปเข้าไปในตึก ยกเว้นเจ้าพนักงานจนกว่าเจ้าของอาคารจะให้หน่วยงานทางวิศวกรรมเข้าตรวจสอบอาคาร และหนังสือรับรองจากวิศวกรที่มีวุฒิรับรองความมั่งคงของอาคารยืนยันความปลอดภัยว่าในชั้นอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ เขตจึงจะอนุญาตให้เข้าใช้อาคาร
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ออกมาระบุว่า รู้สึกแปลกใจเหตุเพลิงไหม้ตึก SCB เนื่องจากเป็นตึกที่ทันสมัย ระบบรักษาความปลอดภัยสูง พร้อมแนะนำให้ปิดตึกชั่วคราว
*****พิรุธ! สปริงเกอร์ไม่ทำงาน
ขณะที่ พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภายหลังจากดับเพลิงไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยพร้อมวางกำลังเตรียมความพร้อมหากมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้ได้ควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามได้แล้ว แต่ลักษณะของเชื้อเพลิงเป็นกล่องกระดาษกองทับกันเป็นชั้น พอเกิดไฟไหม้ก็จะดับได้เพียงชั้นบน ซึ่งชั้นกลางยังไม่โดนน้ำพอมีลมหรือออกซิเจนพัดผ่านก็สามารถที่จะปะทุเกิดเป็นเปลวไฟได้ตลอดเวลา โดยสปภ.ได้เตรียมพร้อมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา หากเกิดการปะทุขึ้นอีกก็พร้อมเข้าควบคุมเพลิงทันที อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงนั้เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากตึกมีความซับซ้อน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดที่เกิดเพลิงได้ยาก จำเป็นต้องใช้กระเช่าเพื่อฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงจากด้านนอก ซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก ทั้งนี้จากปกติแล้วอาคารที่มีความสูงหลายชั้นจะต้องสามารถดับเพลิงได้ด้วยสปริงเกอร์ฉีดน้ำ แต่ปรากฎว่าขณะที่เกิดเพลิงใหม้ระยะแรกสปริงเกอร์ยังไม่ทำงานทันทีจึงส่งผลให้เพลิงลุกลามดังกล่าว
***พฐ.คาดไม่ใช่ถูกลอบวางเพลิง
พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐก.)เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เก็บเอกสารจำนวนมาก พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างช้าๆตามปกติ และไม่มีจุดผิดสังเกตุแต่อย่างใด แต่ที่ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงนั้นเนื่องจากจุดเกิดเหตุมีเอกสารเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นการลอบวางเพลิงนั้น เพลิงจะต้องลุกไหม้อย่างรวดเร็วแบบผิดปกติและลุกลามไปยังบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ก็ยังไม่พบร่องรอยของน้ำมันเชื้อเพลิง ในเบื้องต้นจึงเชื่อว่าสาเหตุของไฟไหม้นั้นไม่ได้เกิดจากการลอบวางเพลิง ส่วนจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือสาเหตุใด คงจะต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็น่าจะทราบผล ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าของตัวอาคาร และลำดับเวลาการเข้าออกของบุคคลที่ขึ้นไปด้านบนอาคารในช่วงใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
***แบงก์ชาติยันไม่กระทบธุรกิจ
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ขอเรียนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินงาน และยังคงสามารถให้บริการและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ ภายใต้แผนปฏิบัติการที่มีการเตรียมความพร้อมไว้ และ ธปท.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ อปพร. ผู้เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่มา ณ โอกาสนี้
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องรอตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงและสรุปความเสียหายภาพรวมก่อน จึงจะประเมินได้ว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนหรือไม่ แต่เบื้องต้นมองว่าไม่น่าจะกระทบ แม้มีกระแสข่าวว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจวางเพลิงเผาทำลายเอกสารในคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. จำนวน 1,494 ล้านบาท เนื่องจากหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือเป็นการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ธนาคารไม่ได้มีส่วนรู้เห็น พร้อมกันนี้ อยากเสนอแนะให้ธนาคารทุกแห่งจัดการระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด ด้วยการเพิ่มระบบป้องกันอัคคีภัย และติดกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทั่วทุกบริเวณ เช่นเดียวกับ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือใดๆ แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปดูแลตรวจสอบแล้ว
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารทหารไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือใดๆ จากสมาคมและธนาคารสมาชิก กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่าระบบการทำงานยังใช้ได้ตามปกติ และธนาคารไทยพาณิชย์กำลังแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตนเองอยู่ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากธนาคารไทยพาณิชย์ร้องขอความช่วยเหลือมา ทางสมาคมก็จะรีบให้ความช่วยเหลือทันที ส่วนในแง่ภาพลักษณ์ของระบบธนาคารที่มองว่าสาเหตุไฟไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์อาจเกี่ยวกับคดีทุจริต สจล. นั้น มองว่าอาจไม่เกี่ยวกัน เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปสาเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้น.
ด้านชุดดับเพลิงให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ๆเข้าไปดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีกลุ่มควันหนาแน่น แม้จะใช้แสงไฟส่อง รวมทั้งสถานที่มีความซับซ้อน ทางเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงจึงแบ่งหน้าที่เพื่อเข้าสกัดกั้นเปลวไฟในอาคาร ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตนั้น ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน แต่ในวันเกิดเหตุได้ทำงานคนละทีม จึงไม่ได้เจอกัน ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงเป็นลมหมดสติไปนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการอบรม ฝึกฝน และมีประสบการณ์ผ่านมา
***ตร.เรียกสอบทีมฉีดยุงก่อนเกิดเหตุ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) สำนักงานเขตจตุจักร และตัวแทนจากธนาคาร ซึ่งข้อมูลที่ได้จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยังไม่สามารถสรุปได้ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ได้ขอความร่วมมือจากอธิการบดีผังเมือง ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งทรัพย์สินและมูลค่าความเสียหายไม่อาจจะประเมินได้ ทั้งนี้ในส่วนของกทม.จะทำการปิดอาคารดังกล่าวชั่วคราว พร้อมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุทั้ง 40 ปาก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าก่อเกิดเหตุมีพนักงานที่เข้ามาฉีดยากันยุง จำนวน 4 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการประสารไปยังบริษัทที่พนักงานกำจัดยุงทำงานอยู่ เพื่อขอสอบปากคำพนักงานดังกล่าว ทั้งนี้พบผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งสิ้น 32 คน สอบไปแล้ว 30 คน
ส่วนกรณีที่หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงิน1.6ล้าน ของสถาบันเทคโนโลยีพระคุณเจ้าลาดกระบังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้ง เพราะคืนที่ผ่านมาทางผู้การกองปราบปรามได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตนเอง ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ กทม. ทำการปิดอาคารSCB โซนเอ (ตึกสูง 34 ชั้น) ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันหรือรับรองจากหน่วยงาน สถาบัน หรือวิศวกรว่าตึกดังกล่าวมีความมั่นคง และปลอดภัย ทางสำนักงานเขตจตุจักรจึงจะอนุญาตให้เปิดใช้งานตามปกติได้
****บิ๊กSCBยันไม่มีเอกสารคดี สจล.เสียหาย
ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อคืนที่ผ่านมา และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับคดีลักทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) หรือไม่ว่า ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมา และพูดคุยกับผู้ใหญ่ของธนาคารตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีเสียหาย และเอกสารส่วนใหญ่ธนาคารก็ได้มอบให้กับพนักงานสอบสวนมาหมดแล้ว ยังคงเหลือของธนาคารอื่นที่ยังได้มาไม่ครบ ส่วนการตรวจสอบเอกสารอยู่ระหว่างการประสานกับ พฐ.เพื่อตรวจสอบลายมือชื่อในเอกสารที่ธนาคารส่งมอบให้ต่อไป
นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ว่าเป็นส่วนโซนเอ อาคาร 34 ชั้น โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นจากชั้น 10 ห้องถ่ายเอกสาร ไม่ได้เก็บเอกสารสำคัญ และขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในห้อง ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ ต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตรวจสอบอีกครั้ง โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วทางธนาคารจะเข้าดำเนินการต่อทันที โดยวันจันทร์น่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับคดี สจล.หรือไม่นั้น ประธานกรรมการบริหารระบุว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน
***ไว้อาลัย อพปร.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
ขณะเกิดเหตุพบว่านายเดชา หรือตั้ม ด้วงชนะ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เขตหลักสี่ เสียชีวิตบริเวณชั้น 10 เหตุเกิดช่วงกลางคืนวันที่ 7 ก.พ. ที่่ผ่านมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้นขณะเดียวกันในโลกของสังคมออนไลน์ต่างเขียนข้อความไว้อาลัยให้กับเจ้า หน้าที่ดับเพลิง อปพร.เขตหลักสี่ที่เสียชีวิต ในการปฏิบัติหน้าที่ กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กของนายเดชาที่ใช้ชื่อว่า "หนวดหลักสี่" ยังได้โพสต์ข้อความที่เป็นแง่คิด และเป็นประโยชน์ต่อสังคมครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยหน้าไทม์ไลน์ของนายเดชาแชร์คลิปวีดีโอจากเพจ Emergency Medical Response Phuket ระบุข้อความเอาไว้ว่า "การคัดเเยกเเละการตัดสินใจ จะมีผลต่อผู้ประสพภัยเป็นอย่างมาก ควรศึกษาเเละเพิ่มพูนความรู้ไว้อย่างสม่ำเสมอ อาจารย์ของผมได้กล่าวไว้ว่า "2มือของเราจะใช้ทำลายเหลือช่วยชีวิตก็ได้ เเต่ถ้าเลือกที่จะช่วยชีวิตต้องหมั่นฝึกเเละเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาอย่าคิดว่า ข้าเก่ง ข้ารู้มากพอเเล้ว ข้าจะไม่รับอะไรเพิ่มเเล้ว ถ้าคิดอย่างนี้จงอย่ามาศึกษา อย่ามาเรียนรู้ ให้ออกไปซะมันถ่วงคนอื่นที่เขา อยากเรียนรู้ อยากศึกษาเพิ่ม " 2 มือของผมจะขอเป็น 2 มือ ที่ช่วยชีวิตครับ ขอบคุณอาจารย์มากครับ"
เช่นเดียวกับทวิตเตอร์ของ ธ.ไทยพานิชย์ SCB Thailand ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ระบุข้อความเป็นระยะ ๆ ว่า สำหรับ จนท.อปพร. ที่เสียชีวิต 1 ท่านขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ธ.เสียใจอย่างยิ่ง และพร้อมช่วยเหลือครอบครัวอย่างดีที่สุด ส่วนกรณีเหตุเพลิงไหม้ขอแจ้งว่าบริเวณดังกล่าว เป็นส่วนงานของเอกสารสำเนาของทีมสินเชื่อบ้าน ไม่ใช่เอกสารสำคัญ และไม่เกี่ยวข้องกับคดี สจล.
ส่วนกรณีของนายเดชา ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเพลิงนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากขาดอากาศหายใจ เนื่องจากในที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยควันไฟ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องใช้ถังออกซิเจน ซึ่งกทม.ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ และพร้อมให้การช่วยเหลือครอบครัว
***สั่งปิดอาคารโซนเอชั่วคราว
ด้านนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร รักษาการผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า หลังจากสำรวจที่เหตุแล้วได้ลงนามคำสั่งปิดอาคารโซนเอ ซึ่งมีทั้งหมด 34 ชั้นเป็นการชั่วคราว ห้ามบุคคลทั่วไปเข้าไปในตึก ยกเว้นเจ้าพนักงานจนกว่าเจ้าของอาคารจะให้หน่วยงานทางวิศวกรรมเข้าตรวจสอบอาคาร และหนังสือรับรองจากวิศวกรที่มีวุฒิรับรองความมั่งคงของอาคารยืนยันความปลอดภัยว่าในชั้นอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ เขตจึงจะอนุญาตให้เข้าใช้อาคาร
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ออกมาระบุว่า รู้สึกแปลกใจเหตุเพลิงไหม้ตึก SCB เนื่องจากเป็นตึกที่ทันสมัย ระบบรักษาความปลอดภัยสูง พร้อมแนะนำให้ปิดตึกชั่วคราว
*****พิรุธ! สปริงเกอร์ไม่ทำงาน
ขณะที่ พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภายหลังจากดับเพลิงไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยพร้อมวางกำลังเตรียมความพร้อมหากมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้ได้ควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามได้แล้ว แต่ลักษณะของเชื้อเพลิงเป็นกล่องกระดาษกองทับกันเป็นชั้น พอเกิดไฟไหม้ก็จะดับได้เพียงชั้นบน ซึ่งชั้นกลางยังไม่โดนน้ำพอมีลมหรือออกซิเจนพัดผ่านก็สามารถที่จะปะทุเกิดเป็นเปลวไฟได้ตลอดเวลา โดยสปภ.ได้เตรียมพร้อมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา หากเกิดการปะทุขึ้นอีกก็พร้อมเข้าควบคุมเพลิงทันที อย่างไรก็ตามเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงนั้เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากตึกมีความซับซ้อน ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดที่เกิดเพลิงได้ยาก จำเป็นต้องใช้กระเช่าเพื่อฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงจากด้านนอก ซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก ทั้งนี้จากปกติแล้วอาคารที่มีความสูงหลายชั้นจะต้องสามารถดับเพลิงได้ด้วยสปริงเกอร์ฉีดน้ำ แต่ปรากฎว่าขณะที่เกิดเพลิงใหม้ระยะแรกสปริงเกอร์ยังไม่ทำงานทันทีจึงส่งผลให้เพลิงลุกลามดังกล่าว
***พฐ.คาดไม่ใช่ถูกลอบวางเพลิง
พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐก.)เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เก็บเอกสารจำนวนมาก พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างช้าๆตามปกติ และไม่มีจุดผิดสังเกตุแต่อย่างใด แต่ที่ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงนั้นเนื่องจากจุดเกิดเหตุมีเอกสารเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นการลอบวางเพลิงนั้น เพลิงจะต้องลุกไหม้อย่างรวดเร็วแบบผิดปกติและลุกลามไปยังบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ก็ยังไม่พบร่องรอยของน้ำมันเชื้อเพลิง ในเบื้องต้นจึงเชื่อว่าสาเหตุของไฟไหม้นั้นไม่ได้เกิดจากการลอบวางเพลิง ส่วนจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือสาเหตุใด คงจะต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็น่าจะทราบผล ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าของตัวอาคาร และลำดับเวลาการเข้าออกของบุคคลที่ขึ้นไปด้านบนอาคารในช่วงใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
***แบงก์ชาติยันไม่กระทบธุรกิจ
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธปท. เปิดเผยว่า ธปท. ขอเรียนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินงาน และยังคงสามารถให้บริการและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ ภายใต้แผนปฏิบัติการที่มีการเตรียมความพร้อมไว้ และ ธปท.ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่ อปพร. ผู้เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่มา ณ โอกาสนี้
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องรอตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงและสรุปความเสียหายภาพรวมก่อน จึงจะประเมินได้ว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนหรือไม่ แต่เบื้องต้นมองว่าไม่น่าจะกระทบ แม้มีกระแสข่าวว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นการจงใจวางเพลิงเผาทำลายเอกสารในคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. จำนวน 1,494 ล้านบาท เนื่องจากหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือเป็นการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ธนาคารไม่ได้มีส่วนรู้เห็น พร้อมกันนี้ อยากเสนอแนะให้ธนาคารทุกแห่งจัดการระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด ด้วยการเพิ่มระบบป้องกันอัคคีภัย และติดกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมทั่วทุกบริเวณ เช่นเดียวกับ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือใดๆ แต่เบื้องต้นได้สั่งการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปดูแลตรวจสอบแล้ว
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารทหารไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือใดๆ จากสมาคมและธนาคารสมาชิก กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่าระบบการทำงานยังใช้ได้ตามปกติ และธนาคารไทยพาณิชย์กำลังแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตนเองอยู่ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากธนาคารไทยพาณิชย์ร้องขอความช่วยเหลือมา ทางสมาคมก็จะรีบให้ความช่วยเหลือทันที ส่วนในแง่ภาพลักษณ์ของระบบธนาคารที่มองว่าสาเหตุไฟไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์อาจเกี่ยวกับคดีทุจริต สจล. นั้น มองว่าอาจไม่เกี่ยวกัน เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปสาเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้น.
