ตร.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์เข้าตรวจสอบอาคารเอสซีบี หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปร่วมทำข่าว เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาสาเหตุ และเกรงว่าเปลวเพลิงจะส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร พบพื้นที่กว่า 400 ตร.ม.ถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ เพ็งรุ่ง รอง ผบก.น.2 พร้อมด้วยนายยอดขวัญ จุณณะปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักร รรท.ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ตัวแทนเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น10 โดยกั้นไม่ให้สื่อมวลชนขึ้นไปร่วมทำข่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าไปในอาคาร ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ และสำรวจจุดต่างๆที่เกิดความเสียหาย เพราะคาดว่าการเกิดเหตุในครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร
พบว่าพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตรถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุนั้นเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ได้ ขณะที่มูลค่าความเสียหาย ตำรวจจะเรียกฝ่ายธนาคารเข้าชี้แจง เบื้องต้นสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 32 ปาก
ส่วนสำนักงานเขตจตุจักรมีคำสั่งปิดอาคารกลาง โซน A จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย
ทางด้านชุดดับเพลิงให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีกลุ่มควันหนาแน่น แม้จะใช้แสงไฟส่อง รวมทั้งสถานที่มีความซับซ้อน ทางเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงจึงแบ่งหน้าที่เพื่อเข้าสกัดกั้นเปลวไฟในอาคาร ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตนั้น ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทกัน แต่ในวันเกิดเหตุได้ทำงานคนละทีม จึงไม่ได้เจอกัน ส่วนกรณีที่มีข่าวออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงเป็นลมหมดสติไปนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการอบรม ฝึกฝน และมีประสบการณ์ผ่านมา
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) สำนักงานเขตจตุจักร และตัวแทนจากธนาคารซึ่งข้อมูลที่ได้จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยังไม่สามารถสรุปได้ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นได้ขอความร่วมมือจากอธิการบดีผังเมือง ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งทรัพย์สินและมูลค่าความเสียหายไม่อาจจะประเมินได้ ทั้งนี้ในส่วนของ กทม.จะทำการปิดอาคารดังกล่าวชั่วคราว พร้อมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุทั้ง 40 ปาก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเพียงว่าก่อเกิดเหตุมีพนักงานที่เข้ามาฉีดยากันยุง จำนวน 4 คน ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการประสานไปยังบริษัทที่พนักงานกำจัดยุงทำงานอยู่ เพื่อขอสอบปากคำพนักงานดังกล่าว ทั้งนี้พบผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งสิ้น 32 คน สอบไปแล้ว 30 คน
ส่วนกรณีที่หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้ง เพราะคืนที่ผ่านมาทางผู้การกองปราบปรามได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยตนเอง ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการทันที
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ กทม.ทำการปิดอาคาร SCB โซนเอ (ตึกสูง 34 ชั้น) ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีการยืนยันหรือรับรองจากหน่วยงาน สถาบัน หรือวิศวกรว่าตึกดังกล่าวมีความมั่นคง และปลอดภัย ทางสำนักงานเขตจตุจักรจึงจะอนุญาตให้เปิดใช้งานตามปกติได้